General

เตือน 7 จังหวัดเฝ้าระวัง ‘กรดซัลฟิวริก’ กว่า 30 ตัน รั่วไหลลงแม่น้ำโขง

สธ.จัดทีมรับภาวะฉุกเฉิน เฝ้าระวังคุณภาพ “แม่น้ำโขง” และ น้ำประปา หลังเกิดเหตุรถบรรทุกพลิกคว่ำ ที่ สปป.ลาว ทำ “กรดซัลฟิวริก” กว่า 30 ตัน รั่วไหลลงแม่น้ำ

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากกรณีสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ประกาศเตือนให้เฝ้าระวังผลกระทบคุณภาพน้ำในแม่น้ำโขง หลังจากที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) แจ้งว่า มีอุบัติเหตุรถบรรทุกสารเคมีพลิกคว่ำ ส่งผลให้มี “กรดซัลฟิวริก” จำนวน 30 ตัน ไหลลงสู่แม่น้ำคาน บริเวณแขวงหลวงพระบาง เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา และจะไหลลงลุ่มน้ำโขง ในวันที่ 5 เมษายน ก่อนจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณอำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ช่วงวันที่ 8 – 10 เมษายน 2567

กรดซัลฟิวริก

พร้อมกับมีการประกาศแจ้งเตือน ให้จังหวัดที่ติดลุ่มน้ำโขง ได้แก่ เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์คุณภาพน้ำ และเฝ้าระวังผลกระทบจากคุณภาพน้ำในแม่น้ำโขง รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนที่สัญจรและประกอบกิจกรรมในบริเวณแม่น้ำโขง การประมงสัตว์น้ำ รวมทั้งผู้ที่อาศัยในพื้นที่บริเวณดังกล่าว

นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า ผลกระทบต่อสุขภาพของ “กรดซัลฟิวริก” นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นอันตรายจากสัมผัสกรดที่มีความเข้มข้นสูง มีฤทธิ์กัดกร่อน ทำให้เนื้อเยื่อต่างๆ เสียหาย ซึ่งแนวทางแก้ไขปัญหา แม้เบื้องต้นประเทศไทยจะมีการประสาน สปป.ลาว ในการบริหารจัดการน้ำเขื่อนไชยะบุรี เพื่อเจือจางสารเคมีแล้ว ซึ่งคาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพแม่น้ำโขงในประเทศไทย

แต่เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ จึงได้มอบหมายให้กรมอนามัยประสานจัดทีมปฏิบัติการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมรองรับภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข (ทีม SEhRT) ในพื้นที่ รับผิดชอบประเมินความเสี่ยงการปนเปื้อนของกรดซัลฟิวริกในแม่น้ำโขง , เฝ้าระวังผลกระทบทางสุขภาพของคนในพื้นที่ รวมถึงเฝ้าระวังน้ำประปาในชุมชนและประปาหมู่บ้านในจังหวัดดังกล่าว พร้อมทั้งสื่อสารให้ความรู้แนวทางการปฏิบัติตัวแก่ประชาชนในพื้นที่

ซึ่งหากสัมผัสแหล่งน้ำแล้วมีอาการระคายเคือง ผิวหนังไหม้ ปวดแสบปวดร้อน เกิดแผลพุพอง หรือตาพร่ามัว ตาแดง น้ำตาไหล ขอให้รีบไปพบแพทย์เพื่อประเมินอาการและทำการรักษาที่เหมาะสมต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo