General

คพ. ยืนยันไม่พบไอระเหยตกค้าง จากเหตุสารเคมีรั่วไหลที่สมุทรปราการ

กรมควบคุมมลพิษ เกาะติดเหตุสารเคมีรั่วไหลที่สมุทรปราการ ยืนยันไม่พบไอระเหยตกค้าง  ประชาชนใช้ชีวิตเป็นปกติ

จากกรณีเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2567 เวลา 20.00 น. มีเหตุรถกระบะของบริษัท ทีซีไอเอส อินสเปคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด บรรทุกสารเคมีชื่อ Aluminum Phosphide (ใช้ในการกำจัดแมลงศัตรูผลิตผลทางการเกษตร เช่น มอด ปลวก) บรรจุในถัง 200 ลิตร เกิดการรั่วไหลและเกิดควันบริเวณถนน ซอยพรสว่าง 7 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ

สารเคมีรั่วไหล

นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดี กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า จากข้อห่วงใยของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต่อกรณีดังกล่าว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้สั่งให้ประชาชนพื้นที่ใกล้เคียงและด้านท้ายลมอพยพในช่วงเกิดเหตุตั้งแต่เวลา 20.00 น.

ขณะที่ พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีข้อสั่งการให้ คพ. ดำเนินการตรวจสอบผลกระทบในพื้นที่เกิดเหตุและให้ข้อแนะนำประชาชนด้านสุขภาพ โดยเร่งด่วน

ทั้งนี้ คพ. ติดตามสถานการณ์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งแต่เมื่อได้รับแจ้งเหตุ และเช้าวันนี้ (5 มกราคม 2567) คพ. ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า ประชาชนบริเวณที่เกิดเหตุสามารถกลับเข้าสู่ที่พักและสามารถใช้ชีวิตเป็นปกติแล้ว และ เทศบาลตำบลสำโรงเหนือ ได้นำรถฉีดน้ำทำความสะอาดพื้นผิวจราจรในซอยดังกล่าว

22

ปัจจุบันประชาชนสามารถสัญจรได้ปกติ การจัดการสารเคมีที่หกรั่วไหล สามารถเก็บกู้ได้แล้วเสร็จ ประมาณเวลา 24.00 น. ของวันที่ 4 มกราคม 2567 โดยเก็บขนไปจัดเก็บที่โรงงานเจ้าของสารเคมีเพื่อส่งไปกำจัดด้วยวิธีการที่ถูกต้อง

สำหรับสารเคมีที่รั่วไหล ชื่อ Aluminum Phosphide บรรจุในถัง 200 ลิตร ซึ่งมีประมาณ 100 ลิตร และจากการตรวจสอบการตกค้างสารเคมีในพื้นที่เกิดเหตุ ไม่พบร่องรอยของสารเคมีตกค้างในพื้นผิวถนน และท่อระบายน้ำ ไม่พบกลิ่นสารเคมีในพื้นที่เกิดเหตุและชุมชนใกล้เคียง

นอกจากนี้ ผลการตรวจวัดไอระเหยสารเคมีในพื้นที่เกิดเหตุและบ้านเรือนประชาชนด้านท้ายลม (ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้) ในระยะ 50 เมตร และ 200 เมตร พบว่า ตรวจไม่พบสารฟอสฟีน

333

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ โรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้า และเทศบาลตำบลสำโรงเหนือ พบว่า ไม่มีรายงานผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าวและประชาชนในพื้นที่ด้านท้ายลม พบว่า ไม่ได้รับผลกระทบด้านสุขภาพแต่อย่างใด เนื่องจากมีการแจ้งเตือนให้อพยพ และปิดประตูหน้าต่างในช่วงเกิดเหตุ

กรณีเกิดเหตุการณ์สารเคมีรั่วไหล คพ. มีข้อแนะนำประชาชนในการปฏิบัติตัว ควรอพยพประชาชนไปอยู่ที่เหนือลม อยู่ในอาคารที่ปกปิดมิดชิด และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัยเมื่อเจ้าหน้าที่ประเมินว่ามีความเสี่ยง ควรสวมใส่หน้ากากกรองชนิดคาร์บอน (Carbon Mask) เมื่อสัมผัสกับสารให้รีบล้างออกด้วยน้ำสะอาดทันที ถอดเสื้อผ้าที่ปนเปื้อนทิ้ง และชำระร่างกาย

หากมีความผิดปกติควรรีบพบแพทย์ ทั้งนี้ คพ. จะกำกับการประกอบกิจการที่เกี่ยวข้องกับการครอบครองและใช้สารเคมีที่เป็นวัตถุอันตรายให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตรายอย่างเคร่งครัด ต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo