รักษาการอธิบดี DSI นำทีมทลายแก๊ง ทลายแก๊งแอปฯ กู้ออนไลน์ ปล่อยดอกเบี้ยโหด กว่า 2,000 % ต่อปี พบเงินหมุนเวียนพันล้าน
ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ทำการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษที่ 55/2566 กรณีแอปลิเคชั่นเงินกู้ส่วนบุคคลออนไลน์ “กู้ใด้ดีๆ” หรือ “ได้บาทง่าย ๆ – สินเชื่อด่วน” มีพฤติการณ์ปล่อยเงินกู้โดยไม่ได้รับอนุญาตผ่านช่องทางออนไลน์ และมีแอปพลิเคชั่นปล่อยเงินกู้ที่เกี่ยวข้องอีกกว่า 80 แอพพลิเคชั่น มีการปล่อยกู้และเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 2,339.65 บาท/ปี
และกำหนดให้ชำระหนี้ภายใน 7 วันเท่านั้น หากไม่ชำระเงินภายในกำหนด จะมีกลุ่มบุคคลโทรศัพท์ติดตามทวงหนี้ ข่มขู่ คุกคามลูกหนี้และบุคคลที่ปรากฎรายชื่อในสมุดโทรศัพท์ของ ผู้กู้ ก่อให้เกิดความหวาดกลัว ซึ่งแอปพลิเคชั่นดังกล่าวพบว่าปัจจุบันมียอดการดาว์นโหลดมากกว่า 1,000,000 ครั้ง จนปรากฏข้อมูลน่าเชื่อว่านายชาญยุทธ (สงวนนามสกุล) และนางสาวกานติมา (สงวนนามสกุล) เป็นเจ้าของแอปพลิเคชั่นดังกล่าว ได้ใช้บัญชีเครือญาติและบัญชีม้าในการทำธุรกิจเงินกู้ออนไลน์ซึ่งมีเงินทุนหมุน เวียนหลักพันล้านบาท
พันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ/โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการกองกิจการอำนวยความยุติธรรม และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดชัยนาท นำโดย พันตำรวจเอก นรากร บุญครอบ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยนาท เข้าทำการตรวจค้นตามหมายค้นของศาลจังหวัดชัยนาท เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในพื้นที่จังหวัดชัยนาท รวม 2 จุด ดังนี้
จุดที่ 1 บ้านพักของนายชาญยุทธ และนางสาวกานติมา อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท จุดที่ 2 โรงสี อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของบุคคล ทั้งสอง และเคยปรากฏชื่อของนางสาวกานติมา เป็นกรรมการและผู้ถือหุ้น
ผลการตรวจค้น สามารถพบและยึดสิ่งของเป็นพยานหลักฐาน จำนวนหลายรายการ ประกอบด้วย ซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งที่ใช้แล้วและยังไม่ได้เปิดใช้ จำนวน 150 ชิ้น โทรศัพท์มือถือจำนวน 20 เครื่อง กล่องโทรศัพท์ จำนวน 70 กล่อง สมุดบัญชีเงินฝากจำนวน 120 เล่ม คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและโน้ตบุ๊กจำนวน 10 เครื่อง และเอกสารและไฟล์ดิจิทัลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมและข้อมูลที่เกี่ยวข้องจำนวนมากจึงได้ตรวจยึดไว้เป็นพยานหลักฐานเพื่อตรวจสอบนอกจากนั้นยังตรวจพบว่ามีการเปิดตู้เซฟกับธนาคารแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยนาทคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจึงมีหนังสืออายัดตู้เซฟดังกล่าวเพื่อจะดำเนินการตรวจสอบต่อไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- กรุงไทย สำรองเงินสด 25,990 ล้านบาท รองรับการใช้จ่ายช่วงเทศกาลสงกรานต์
- เร่งแบงก์อนุมัติเงินกู้ให้ลูกหนี้ หลัง ‘ลงทะเบียนแก้หนี้’ 67 วัน 1.38 แสนราย มูลหนี้กว่า 9.5 พันล้านบาท
- ‘แก้หนี้ครู’ ศธ.เตรียมจับมือ สถาบันการเงิน ลดดอกเบี้ยเงินกู้เหลือ 4.75% ชะลอฟ้องล้มละลายครูหนี้ NPL
ติดตามเราได้ที่
- เว็ไซต์ : https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- Twitter: https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg