General

ปลัดมท. แจ้ง ประชาชนพอใจภาพรวม ‘แก้หนี้นอกระบบ’ กำชับทุกจังหวัดเร่งไกล่เกลี่ย

ปลัดมหาดไทย แจ้งประชาชนพอใจภาพรวม “แก้หนี้นอกระบบ” กำชับทุกจังหวัดเร่งไกล่เกลี่ย หนุนเสริมประชาชนดำรงชีวิต ด้วยหลักพึ่งพาตนเอง เพื่อความสุขอย่างยั่งยืน

วันนี้ (2 มี.ค.) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการรับลงทะเบียนประชาชน ที่มีความประสงค์ขอให้ทางราชการได้ช่วยแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบตามนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี

แก้หนี้นอกระบบ

นับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 ซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดรับลงทะเบียน จนถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเปิดรับลงทะเบียนในช่วงเวลา 23.59 น. มีประชาชนลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบรวมทั้งสิ้นจำนวน 153,400 ราย

แบ่งเป็นลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ จำนวน 125,787 ราย ลงทะเบียน ณ หน่วยรับลงทะเบียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ และสำนักงานเขต จำนวน 27,613 ราย มูลหนี้รวม 11,999.44 ล้านบาท และมีเจ้าหนี้ จำนวน 126,798 ราย

จากการรับฟังความคิดเห็นประชาชนพบว่า ประชาชนพึงพอใจภาพรวมของการลงทะเบียนหนี้นอกระบบ และเป็นนโยบายที่ประชาชนมีความพึงพอใจเป็นลำดับต้น ๆ ในการแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากเดือดร้อน

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า แม้การรับลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบจะสิ้นสุดลงแล้ว แต่ภารกิจในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบยังไม่สำเร็จ กระทรวงมหาดไทยยังคงเดินหน้าแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง ด้วยกลไกของคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหาระดับจังหวัด ภายใต้การนำของผู้ว่าราชการจังหวัด และคณะกรรมการระดับอำเภอ ภายใต้การนำของนายอำเภอ

พุ่งเป้าบริหารจัดการแก้ไขปัญหา ทั้งการเชิญเจ้าหนี้ และลูกหนี้มาเข้าสู่กระบวนการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้ ซึ่งขณะนี้สามารถไกล่เกลี่ยสำเร็จ 18,929 ราย มูลหนี้ลดลง 777.52 ล้านบาท และมีกรณีที่ไม่สามารถไกล่เกลี่ยได้ประสงค์ดำเนินคดี 317 คดี พร้อมทั้งประสานสถาบันการเงินของรัฐ ได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้ลูกหนี้สามารถนำเงินไปชำระเจ้าหนี้ แล้วมาเป็นลูกหนี้ในระบบ ที่สามารถชำระดอกเบี้ยไม่เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด

แก้หนี้นอกระบบ

จากข้อมูลที่ได้รับรายงานในขณะนี้ ธนาคารของรัฐยังสามารถปล่อยกู้ให้กับลูกหนี้ได้อีกจำนวนหนึ่ง โดยทีมงานกระทรวงมหาดไทยในระดับพื้นที่ ยังคงเป็นกลไกในการประสานให้ลูกหนี้ได้รับบริการจากทางธนาคาร แต่การจะได้รับพิจารณาให้สินเชื่อหรือไม่นั้น เป็นอำนาจของทางสถาบันการเงินเป็นผู้พิจารณา

กระทรวงมหาดไทยเห็นว่าการแก้ไขปัญหานี้ เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่จะต้องแก้ไขปัญหาจากต้นเหตุ ด้วยการทำให้ประชาชนได้ใช้ชีวิตด้วยหลักการพึ่งพาตนเอง โดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาเป็นแนวทางในการใช้ชีวิต

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

 

Avatar photo