General

เดือดอีก! ‘พล.ต.ต.จรูญเกียรติ’ ยันหลักฐานมัดแน่นตำรวจเอี่ยวคดีเว็บพนัน ลั่นพร้อมชน

เดือดอีก! “พล.ต.ต.จรูญเกียรติ” ยันพยานหลักฐานมัดแน่นตำรวจเอี่ยวคดีเว็บพนัน ลั่นไม่ได้กลั่นแกล้งใคร พร้อมระบุทำร้ายพวกผมอย่างเดียวไม่เป็นไร แต่ถ้าทำร้ายองค์กรผมไม่ยอม!

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ในฐานะรองหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีเว็ปพนันออนไลน์ “มินนี่” เปิดเผยว่า วานนี้ (21 ก.พ.) พล.ต.อ.ธนา ชูวงษ์ รอง ผบ.ตร. ลงความเห็นให้แต่งตั้งตนเป็นโฆษกชี้แจงในคดีดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนทราบว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทำอะไรไปบ้าง และจะทำอะไรต่อ ในส่วนของการสอบสวนเรื่องนี้ เป็นเรื่องของคณะกรรมการสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่เกี่ยวกับตำรวจสอบสวนกลาง การตั้งคณะพนักงานสอบสวน ผบ.ตร.เป็นคนตั้ง อำนาจการสอบสวนเป็นอำนาจของคณะสอบสวน

จรูญเกียรติ

“ผมเป็นเจ้าหน้าที่ที่คณะตั้งมาเพื่อสอบสวนเรื่องดังกล่าว เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย มีอำนาจมีหน้าที่ จะเป็นพนักงานสอบสวนคนใดก็ได้ที่ได้รับมอบหมายมาดำเนินการก็สามารถดำเนินการแทนหัวหน้าได้” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว

เมื่อถามถึงประเด็นที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ระบุว่า คดีที่มีมูลค่า 300 ล้านขึ้นไปตำรวจไม่มีสิทธิ์ดำเนินการต้องให้ดีเอสไอรับผิดชอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ต้องเรียนว่าคดีนี้เงินที่เข้ามา 200 กว่าล้าน หรือ 300 ล้าน มันมาจากหลายเว็บ เว็บแรกมาจากเว็บของมินนี่มีตัวเงินประมาณ 70 กว่าล้าน และยังมีเว็ปอื่นอีกที่เรากำลังสืบสวนพบเส้นเงินรวมกันแล้ว 200-300 ล้าน คนละเรื่อง คนละกรณีไม่ใช่เคสของมินนี่คนเดียว

“ยืนยันว่ายังเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะพนักงานสอบสวน จริง ๆ ไม่อยากจะพูดอยากจะพูดในศาล ศาลเท่านั้นที่จะบอกได้ว่าผิดหรือถูก ไม่ต้องเอาไปที่ดีเอสไอ หรือที่ ป.ป.ช. เพราะยังไงก็เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเหมือนกัน ในการตรวจสอบของกรม เมื่อคดีมาก็เข้าสู่ศาลทุจริตเหมือนกัน มีการไต่สวนเหมือนกันไม่ได้แตกต่างกันเลย” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่ รอง ผบ.ตร. ระบุว่า ตำรวจต้องการดึงคดีกลับมาดำเนินการเอง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ที่ต้องการดึงคดีกลับมาเป็นเรื่องเดียวกัน แต่เจอผู้ต้องหาเพิ่มเติมในสำนวนที่ 2 และเป็นเรื่องของมินนี่ด้วยกัน ที่ส่งไปพร้อมความเห็นเป็นหนังสือฉบับเดียวกัน ในการนี้ถ้าเห็นสมควรเพื่อประโยชน์ต่อรูปคดีในการสืบสวนสอบสวนต่อเนื่องจะขอความเมตตาโปรดส่งเรื่องนี้กับมาดำเนินการ แต่ถ้าท่านไม่ให้ก็เป็นสิทธิ์ของ ปปช.ที่จะไม่ให้เราะเราจะไปก้าวล่วงอำนาจไม่ได้

เมื่อถามว่าเรื่องนี้เป็นการกดดัน ป.ป.ช.หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่า ไม่ เพราะ ป.ป.ช. เขามีกระบวนการ วิธีการที่จะดำเนินการทุกเรื่อง ป.ป.ช.เขาเคยรับเรื่องใหญ่กว่านี้ เรื่องนี้เด็ก ๆ

เมื่อถามต่อว่าศาลเขาให้น้ำหนักสำนวนของตำรวจ หรือ สำนวน ป.ป.ช.เป็นหลัก พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า เดี๋ยวคดีก็ไปสู่ศาล จะไปบอกว่าศาลให้น้ำหนักฝั่งไหนอย่าไปพูดเลย ศาลมีความยุติธรรมอยู่แล้ว ไม่เอนเอียงเขามองกันที่พยานหลักฐานที่เข้าไป เมื่อถึงหน้าบัลลังก์สามารถนำพยานหลักฐานสู่ศาลก็หมือนกัน ให้ความสถิตยุตธรรมเท่ากันไม่มีมากน้อย

จรูญเกียรติ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล

เมื่อถามถึงเส้นทางการเงินสามารถเชื่อมโยงไปถึงนายตำรวจระดับสูงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า อยากจะบอกไปยังทีมงานที่ถูกดำเนินคดี เราไปคุยกันในศาลดีกว่า ศาลจะให้ความเป็นธรรม เราไม่มีสาเหตุโกรธเคือง เราไม่มีการกลั่นแกล้ง ดำเนินการไปตามพยานหลักฐานที่มี ไม่ทำนอกเหนือหลักฐานที่มี ไม่ปักปรำ ขอให้มั่นใจในชุดสอบสวน โดยเฉพาะ พล.ต.อ.ธนา ชูวงษ์ รอง ผบ.ตร. เป็นคนตรงไปตรงมา ทำอะไรละเอียดรอบคอบ ไม่ต้องกลัวเราไม่ได้กลั่นแกล้งใคร นโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ผบ.ตร. ก็ให้ว่าไปตามตัวบทกฎหมาย ใครผิดก็รับไป ใครไปกลั่นแกล้งก็ถูกฟ้องร้อง

“ผมไม่เอาชีวิตราชการไปเสี่ยง อีก 6-7 ปี ก็เกษียณแล้วไม่เอาเรื่องไปพันหัว แต่จะทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด เราต้องการรักษาองค์กรให้ดีที่สุด ถ้ากลุ่มผู้ต้องหาไม่มาข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ข่มขู่ว่าจะฟ้อง ทำให้เจ้าหน้าที่หวั่นไหวหรือไม่มาทำร้ายองค์กร ทำร้ายพวกผมอย่างเดียวไม่เป็นไร แต่ถ้าทำร้ายองค์กรผมไม่ยอม จะเดินหน้าชนทุกรูปแบบ แต่จะชนด้วยหลักฐาน ด้วยความถูกต้อง โปรดอย่าทำร้ายองค์กร ทรยศองค์กรเหมือนที่ท่านทรยศเจ้านายมาแล้วหลายคน ยืนยันไม่มีการกลั่นแกล้งใคร ตรวจสอบประวัติได้ ไม่นิยมเรื่องการกลั่นแกล้ง” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่านายพลคนดังกล่าวบอกว่าทำไมโดนแต่เขาคนเดียวตั้งแต่ปลายปี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ผมไม่รู้ว่าทำไมโดนกับเขา เขารู้ดีที่สุด ต้องขอบคุณน้อง ๆ ที่โดนคดีด้วย ที่เก็บพยานหลักฐานไว้ทุกขั้นตอนละเอียดยิบ สงสารน้อง ๆ ทุกคนที่เข้ามายุ่งในคดีนี้แล้วต้องพันไปด้วย ผมว่าเขาขึ้นเรือลำผิด ถ้าขึ้นเรือลำถูกเขาจะเจริญก้าวหน้า ผมไม่อยากทำร้าย เชื่อว่าลูกน้องกลุ่มนี้ต้องทำตามผู้บังคับบัญชาไม่กล้าบิดพริ้วแม้แต่เล็กน้อย ทำงานเป็นขั้นเป็นตอน ค่าใช้จ่ายต้องเป๊ะ เป็นการบันทึกข้อมูลการกระทำความผิดไว้ชัดเจนทุกขั้นทุกตอนทุกเดือน

“ส่วนที่มีการฟ้อง “พล.ต.อ.” 2 ท่าน ก็เป็นสิทธิ์ของเขาที่จะฟ้องใคร เราทำตามพยานหลักฐานไม่ได้แต่งเติมเสริมแต่งต่อเป็นงานถึงใคร ฟ้องไปแล้วศาลจะให้ความเป็นธรรมเรา ปล่อยไปตามกระบวนการ” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว

เมื่อถามย้ำว่าจะสามารถเอาผิดกับตำรวจกลุ่มดังกล่าวได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่า เราเชื่อมั่นในพยานหลักฐาน แต่สุดท้ายศาลจะเป็นคนตัดสินว่าใครผิดใครถูก ถ้าพวกผมผิดไปกลั่นแกล้งก็สามารถฟ้องร้องได้ ยืนยันว่ามั่นใจพยานหลักฐานที่เราตรวจค้นได้มันชัดเจนเพราะเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เป็นหลักฐานที่ถูกบันทึกไว้เราตรวจสอบทุกขั้นตอน” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว

ที่มา : แนวหน้า

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK