‘ชัยวัฒน์’ ลุยค้นหาหลักหมุด ‘ส.ป.ก.’ เถื่อนรุกป่าดงพญาเย็น

โดย SUNITSA BOONMA 22 กุมภาพันธ์ 2567

“ชัยวัฒน์” ค้นหาหลักหมุด “ส.ป.ก.” เถื่อนรุกป่าดงพญาเย็น พบโค่นสีเสียดแก่น เพื่อทำลายหลักฐาน เร่งขยายผลหานายทุน

จากการรายงานของนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ได้สืบสวนสอบสวนขยายผลกรณีการเข้าไปบุกรุกพื้นที่โดยใช้รถแบคโฮ ในแปลงที่มีการอ้างสิทธิ ส.ป.ก.4-01 ของนายพนวรรฒท์ ศิริธนธิปชัยกูร ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นั้น

คณะเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นำโดยนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ นายพนัชกร โพธิบัณฑิต ผู้อำนวยการส่วนยุทธการด้านการป้องกันและปราบปราม หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) นายชัยยา ห้วยหงส์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กลางดง และ สภ.หมูสี ลงพื้นที่ตามหมายค้นดังกล่าว ในเวลาประมาณ 17.00 น.

ในขณะนั้นนายสวรรค์ฯ ได้สารภาพว่าพื้นที่บริเวณนี้ก็อยู่ในพื้นที่ที่มีเอกสาร ส.ป.ก. ซึ่งนางสาวอรุณีฯ ได้ซื้อต่อมาจากญาติ และได้กล่าวถึงเพื่อนบ้านในบริเวณใกล้เคียงกันที่มีบ้านเป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ ซึ่งทราบเพียงว่าชื่อนายนุ ที่ซื้อต่อมาจากคนชื่อแมว คณะเจ้าหน้าที่พบว่ามีความผิดปกติ โดยด้านหลังบ้านมีเครื่องจักรขนาดใหญ่หลายรายการ ได้แก่ รถน้ำ รถแบ็คโฮ รถแทรกเตอร์ รถเกรด และรถบดอัด อย่างละ 1 คัน ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับเปิดป่าทำถนน มีการปรับพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ปรับเส้นทางเข้าเป็นถนนยาวขึ้นไปถึงภูเขา และระเบิดหิน จึงเข้าไปตรวจสอบพบว่ามีหลักหมุดของ ส.ป.ก. เป็นจำนวนมากปักเป็นแนวอยู่บนภูเขาที่มีความสูงชัน สภาพทั่วไปเป็นภูเขาหินปูน จากการสอบถามพบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ของสวนป่าปางอโศก ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงพญาเย็น และพื้นที่ดังกล่าวไม่มีความเหมาะสมในการทำการเกษตร แต่เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีภูมิทัศน์ที่สวยงามและเป็นพื้นที่ที่เป็นทำเลทอง

นอกจากนี้ยังพบว่ามีการขุดดินด้วยเครื่องจักรเพื่อปลูกต้นไม้ เช่น มะม่วง มะขามเทศ และไม้ต่างถิ่นอื่นๆ มีระเบิดหินเพื่อเปิดพื้นที่ มีการขุดบ่อขนาดใหญ่ แต่ที่ผิดสังเกตคือมีการตัดโค่นไม้สีเสียดแก่นเป็นจำนวนมาก เพื่อทำลายหลักฐาน เนื่องจากต้นสีเสียดแก่นเป็นไม้ที่ปลูกขึ้นมาจากโครงการปลูกสร้างสวนป่า

จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าต้นไม้ดังกล่าวมีอายุไม่น้อยกว่า 40 ปี รวมเนื้อที่จากการประมาณด้วยสายตากว่า 400 ไร่ และคาดว่าน่าจะเป็นนายทุนคนเดียวกันกับเจ้าของบ้านหลังใหญ่ด้านหน้า ซึ่งมีรั้วล้อมรอบบ้าน ประมาณเนื้อที่ไม่น้อยว่า 80 ไร่ ส่วนที่เหลือก็จะเป็นพื้นที่ภูเขาและมีฝังหลักหมุดของ ส.ป.ก. ปักอยู่

ทั้งนี้ จะได้รายงานให้กรมป่าไม้ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ ซึ่งมีการนำพื้นที่ดังกล่าวมาออกเอกสาร ส.ป.ก. ได้อย่างไร และพื้นที่ดังกล่าวไม่มีความเหมาะต่อการทำการเกษตร เพื่อให้กรมป่าไม้ดำเนินการ ในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป