General

ตม. เร่งแก้ปัญหา ‘ระบบตรวจคนเข้า-ออกประเทศ’ ล่ม ผู้โดยสารล้นสุวรรณภูมิ

ตม. เร่งแก้ปัญหา “ไบโอเมทริกซ์” ระบบตรวจคนเข้า-ออกประเทศล่ม ผู้โดยสารล้นสุวรรณภูมิ ต้องใช้เจ้าหน้าที่ตรวจแทน พร้อมคัดกรองบุคคลมีหมายจับและ overstay

พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้บัญชาการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม) เปิดเผยกรณีระบบส่วนกลางของ สตม.ล่ม โดยเฉพาะระบบการตรวจคนเข้า-ออกประเทศ ไม่สามารถดำเนินการได้ ต้องใช้การตรวจแบบ Manual ทำให้เกิดแถวสะสมเป็นปริมาณมาก โดยเฉพาะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและภูเก็ต

พล.ต.ท.อิทธิพล กล่าวว่า ระบบได้ล่มตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 23 มกราคม ซึ่งบริษัทที่ดูแลระบบได้มีการปิดระบบตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 มกราคม เพื่อแก้ไขอัปเดตระบบ ปรากฏว่าการเข้าไปแก้ไขอัปเดตระบบทำให้กระทบกับระบบการทำงานคอมพิวเตอร์ของ สตม. จึงทำให้ระบบหน่วงและช้า

ตม.

เร่งแก้ปัญหาระบบตรวจคนเข้าออกล่ม

จนถึงตอนนี้ทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แก้ปัญหาโดยการใช้ระบบออฟไลน์ (off-line) โดยไม่พึ่งระบบคอมพิวเตอร์ โดยเราใช้วิธีให้เจ้าหน้าที่ตรวจดูว่าถ้าเข้ามาถูกต้อง ดูพาสปอร์ตถูกต้อง คนถูกต้อง มันอาจจะช้า เพราะก่อนหน้านี้เราใช้ระบบคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจสอบ ย้ำว่าตอนนี้เริ่มระบายคนเข้าและออกให้เร็วขึ้นแล้ว

ทั้งนี้ ได้แก้ไขระบบแล้ว โดยเฉพาะที่สนามบินภูเก็ต และสนามบินเชียงใหม่ ขณะนี้สนามบินหาดใหญ่ ระบบเริ่มใช้ได้ตามปกติแล้วตั้งแต่เวลา 09.00 น. แต่ที่สนามบินสุวรรณภูมิระบบยังหน่วงอยู่บ้าง และช้าอยู่บ้าง

“ปัญหาอาจจะเกิดจากเส้นลีสไลน์ระบบที่จะเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ เรากำลังเช็กอยู่ แต่ที่สนามบินภูเก็ตและสนามบินเชียงใหม่ไม่มีปัญหา ตอนนี้เราใช้ระบบ Manual เร่งระบายผู้โดยสารให้เร็วมากยิ่งขึ้น ในวันที่ 25 ม.ค. จะเรียกเจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องมาประชุม โดยจะสอบถามว่าปัญหาคืออะไร แต่ปัญหาดังกล่าวจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก โดยผมจะเน้นย้ำในเรื่องนี้” ผบ.สตม. กล่าว

ตม.
พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย

ใช้เจ้าหน้าที่ตรวจแทน

ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 และโฆษก สตม. ได้เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้ามืดของวันเดียวกัน เวลาประมาณ 04.30 น. ได้รับแจ้งเหตุจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่า ระบบตรวจคนเข้าเมือง (Biometrics) เกิดขัดข้อง และอยู่ระหว่างการแก้ไข

ส่งผลให้เกิดความหน่วงที่คอมพิวเตอร์ช่องตรวจ ตม. ทำให้การตรวจหนังสือเดินทางใช้เวลามากกว่าปกติ จากเดิมใช้เวลานับแต่ยื่นหนังสือเดินทางให้เจ้าหน้าที่ จนตรวจสอบและประทับตรา เสร็จไม่เกิน 45 วินาทีต่อคน กลับต้องใช้เวลากว่า 1 นาทีต่อคน ในขณะที่ระบบส่งผลต่อช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ หรือ Automatic channels ไม่สามารถตรวจได้

ทำให้กระทบต่อช่วงเวลาที่มีเที่ยวบินขึ้นลงหนาแน่น โดยเฉพาะผู้โดยสารขาออกประเทศ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สะสมอย่างรวดเร็ว แถวยาวล้นมาถึงจุดตรวจค้นสัมภาระอย่างรุนแรง ตั้งแต่เวลา 04.30 น. จนขณะนี้ยังติดขัดอยู่เป็นระยะ

ตม.

คัดกรองบุคคลมีหมายจับและ overstay

ทาง บก.ตม.2 ได้แจ้งทางศูนย์เทคโนโลยีตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งควบคุมระบบเทคโนโลยีดังกล่าว ให้เร่งแก้ไขโดยด่วน ขณะเดียวกัน ทางด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งได้รับผลกระทบมากที่สุด ได้แก้ปัญหาตามแผนเผชิญเหตุกรณีระบบล่มตามรหัส Com Down โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบด้วยระบบ Manual และใช้ระบบ APPS ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คัดกรองบุคคลที่อาจมีหมายจับ และ overstay เพื่อเร่งระบายผู้โดยสารโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบต่อการขึ้นเครื่อง

ทั้งนี้ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. ได้เรียก ผบก.ตม.2 รรท.ผบก.ศท.ตม. และบริษัทผู้ดูแลระบบ มาชี้แจง ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่อไป และเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อนโยบายส่งเสริมบรรยากาศการท่องเที่ยวของนายกรัฐมนตรี ซึ่งให้ความสำคัญกับความสะดวกในระบบสนามบินสากล ซึ่งเป็นหน้าตาของประเทศ

ขอบคุณข้อมูล-ภาพ : ไทยรัฐออนไลน์

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo