General

ทั่วไทย จมฝุ่น ‘PM2.5’ 26 จังหวัด 4 จังหวัด พุ่งแตะระดับสีแดง เช็กเลย!

ทั่วไทย จมฝุ่น “PM2.5” 26 จังหวัด 4 จังหวัด สมุทรสาคร-ราชุรี-สมุทรสงคราม-เพชรบุรี พุ่งแตะระดับสีแดง ขณะที่จุดความร้อนเมียนมา พีคมาก 2,048 จุด 

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดย สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ร่วมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ, กรมควบคุมมลพิษ, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมง ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมผ่านแอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” เมื่อเวลา 8.00 น. ของวันที่ 15 มกราคม 2567

PM2.5

26 จังหวัดจมฝุ่น 4 จังหวัดพุ่งระดับสีแดง

พบว่า 4 จังหวัด คือ สมุทรสงคราม 108 ไมโครกรัม สมุทรสาคร 101.2  ไมโครกรัม ราชบุรี 87.2 ไมโครกรัม และ เพชรบุรี 77.6 ไมโครกรัม มีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพสีแดง

และ พบอีก 22 จังหวัด ที่มีค่าเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพสีส้ม โดย 3 อันดับแรกสีส้ม ได้แก่  สมุทรปราการ 75 ไมโครกรัม นครปฐม 74.9 ไมโครกรัม และนนทบุรี 70.7 ไมโครกรัม

PM2.5

ในขณะที่กรุงเทพมหานครเอง พบค่าฝุ่น PM2.5 ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพสีแดง จำนวน 5 เขต  คือ  หนองแขม 83.8 ไมโครกรัม ตามด้วย พระโขนง 83.6 ไมโครกรัม บางนา 78.7 ไมโครกรัม ดอนเมือง 78.6 ไมโครกรัม และหลักสี่ 75.2 ไมโครกรัม ในส่วนของอีก 45 เขตที่เหลือพบคุณภาพอากาศที่มีผลกระทบต่อสุขภาพสีส้ม โดย 3 อันดับ คือ  ทวีวัฒนา 73.6 ไมโครกรัม บางขุนเทียน 72.7 ไมโครกรัม และบางแค 71.5 ไมโครกรัม

แอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” ยังคาดการณ์ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในอีก 3 ชั่วโมงข้างหน้า พบว่าหลายพื้นที่จะมีค่าคุณภาพอากาศที่ยังคงอยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพสีส้ม ทั้งนี้ ข้อมูลบนแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” มีการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมร่วมกับ AI (Artificial intelligence) ในการวิเคราะห์ค่าฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมงในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ร่วมกับการใช้ข้อมูลการตรวจวัด PM 2.5 จากกรมควบคุมมลพิษ, ข้อมูลสภาพอากาศ จากกรมอุตุนิยมวิทยา

รวมถึงข้อมูลของแหล่งกำเนิดฝุ่น เช่น จุดความร้อน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก มานำเสนอให้ในรูปแบบข้อมูลตัวเลขและค่าสีในระดับต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น

PM2.5

จุดความร้อนเมียนมา พีคมาก 2,048 จุด 

ทั้งนี้ จากข้อมูลจุดความร้อนที่รายงานโดย GISTDA เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2567 พบจุดความร้อนทั้งประเทศ 238 จุด ส่วนใหญ่พบในพื้นที่เกษตร 99 จุด ตามด้วยพื้นที่แขต สปก. 54 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 42 จุด  ชุมชนและอื่นๆ 18 จุด พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 17 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 8 จุด โดยจังหวัดที่พบจำนวนจุดความร้อนสูงสุด 3 อันดับแรก คือ ชัยภูมิ 27 จุด ลพบุรี  25 จุด  และนครราชสีมา 24 จุด

นอกจากนี้ ประเทศเพื่อนบ้านที่พบจุดความร้อน มากสุดอยู่ที่กัมพูชา 2,048 จุด  ตามด้วย พม่า 239 จุด ลาว 139 จุด  และ เวียดนาม 40 จุด

PM2.5

ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมาโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ทั้งนี้ ท่านสามารถติดตามข้อมูล PM2.5 แบบรายชั่วโมงเพิ่มเติมผ่านแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น”

PM2.5

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo