WHO เผย “PM2.5” เป็นส่วนหนึ่งก่อให้เกิดโรค NCDs ที่มีอัตราเสียชีวิตสูง และคร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกปีละ 7 ล้านคน
ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics ระบุว่า ผลกระทบจากมลพิษและโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ต่อการเสียชีวิตของมนุษย์นั้นสูงมาก
จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) และแหล่งข้อมูลอื่นๆ พบว่าโรค NCDs ได้คร่าชีวิตผู้คนมากกว่า 41 ล้านคนต่อปี หรือ 74% ของการเสียชีวิตของคนทั่วโลก มากกว่าการเสียชีวิตจากโรคติดเชื้อหลายเท่าตัว เช่น มลพิษทางอากาศเป็นส่วนหนึ่งก่อให้เกิดโรค NCDs
PM2.5 ก่อให้เกิดโรค NCDs และคร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกปีละ 7 ล้านคน
WHO รายงานว่าฝุ่น PM2.5 ทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณถึง 7 ล้านคนต่อปีทั่วโลก ในขณะที่ปี พ.ศ. 2565 มีผู้เสียชีวิตจากโรคเอดส์ (HIV/AIDS) ทั่วโลกเพียงประมาณ 630,000 คน
กลุ่มโรค NCDs ประกอบด้วย โรคหลอดเลือดสมอง, โรคหัวใจ, โรคความดันโลหิตสูง, โรคไขมันในเลือดสูง, โรคอ้วนลงพุง, โรคเบาหวาน, โรคถุงลมโป่งพอง, โรคมะเร็ง ฯลฯ
ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตลดเสี่ยงโรค
ปัจจุบันประชากรส่วนใหญ่ไม่ได้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อแต่จากกลุ่มโรค NCDs การป้องกันและรักษาด้วยยาจะลดความเสี่ยงในการเกิดโรค NCDs ได้เพียง 20-30% แต่จากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เช่น จากการสำรวจกลุ่มประชากรไทย มากกว่า 58,593 คน โดย ศ. นพ. วิชัย เอกพลากรและทีมวิจัย รพ. รามาธิบดี พบว่าการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตจะสามารถลดความเสี่ยงต่อโรค NCDs ได้ถึง 70-90% (Essential Healthy Lifestyle 10) ด้วยการ
- คุมน้ำหนัก
- คุมความดัน
- คุมไขมัน
- คุมน้ำตาล
- คุมความเครียด
- การออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- เลิกบุหรี่ และสารเสพติด
- เลิกแอลกอฮอล์
- นอนพอเพียง
- มีสัมพันธ์อันดีกับทุกๆ คนรอบข้าง
ในขณะที่จากการสำรวจทหารผ่านศึกในสหรัฐฯ 720,000 นาย พบว่าการปรับวิถีชีวิตเพื่อสุขภาพ 10 ประการตั้งแต่วัยกลางคน (40ปี) สามารถยืดอายุขัยเพิ่มอีก 24 ปีในชาย และ 21ปีในหญิง
กิน-อยู่-ดี แพลตฟอร์ม ประมวลผลคะแนนสุขภาพ
ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ. รามาธิบดี ร่วมมือกับวิสาหกิจเพื่อสังคม “กิน-อยู่-ดี แพลตฟอร์ม” โดยได้รับทุนวิจัยจากหน่วยงานของภาครัฐ “ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์” หรือ TCELS ได้ใช้เทคโนโลยีจีโนมิกส์และอีพีจีโนมิกส์สร้างหลักฐานเชิงประจักษ์ทางวิทยาศาสตร์ที่มีการวิเคราะห์และติดตามผลผ่านสมาร์ตโฟน เพื่อสร้างความตระหนักรู้และแรงจูงใจให้กับประชาชนทุกเศรษฐานะในการปรับวิถีชีวิตเพื่อลดผลกระทบจากโรค NCDs
“กิน-อยู่-ดี แพลตฟอร์ม” จะนำผลการตรวจยีนและกลุ่มสารเคมีที่เคลือบบนจีโนมที่ควบคุมการแสดงออกของยีน รวมถึงชนิดและจำนวนของจุลชีพในลำไส้มาประมวลผลร่วมกับผลการตรวจสุขภาพพื้นฐาน ชนิดของอาหารและยาที่รับประทาน การออกกำลังกาย การนอน ความเครียด ความเข้มข้นของฝุ่น PM2.5 ที่ผู้นั้นได้รับมาอย่างต่อเนื่อง ฯลฯ มาประมวลผลเป็นคะแนนสุขภาพ (Health score) เพื่อเป็นดรรชนีชี้วัดว่าการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อสุขภาพของบุคคลผู้นั้นประสบความสำเร็จหรือไม่
และได้ผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งในหลักสูตรและเกณฑ์การฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านเพื่อวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาเวชศาสตร์ป้องกัน (เวชศาสตร์วิถีชีวิต) ของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
ในระดับรากหญ้าศูนย์จีโนมฯ ในปี 2567 ได้ประสานกับภาคเอกชนในการนำจีโนมิกส์วิถีชีวิตลงสู่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพสต.) เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดีขึ้น ลดการเจ็บป่วยที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล
ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเติบโต
นอกจากนี้ศูนย์จีโนมฯ ยังมีความร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อผลักดัน “จีโนมเพื่อสุขภาพ” หรือ “GenoWell” ศาสตร์จีโนมิกส์ที่เกิดใหม่ ที่รวมองค์ความรู้ด้านจีโนม (genomics) และสุขภาพที่ดี (wellness) ให้คำแนะนำด้านสุขภาพและปรับพฤติกรรมตามข้อมูลจีโนมของแต่ละบุคคลสำหรับนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพทั้งในและต่างประเทศ
ข้อมูลจาก GWI (Global Wellness Institute) และ IMF ระหว่างปี 2563-2568 คาดการณ์ว่า อัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปีของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจะอยู่ที่ 20.9% แซงหน้าภาคส่วนอื่น ๆ ของเศรษฐกิจเพื่อสุขภาพ (Wellness Economy) ซึ่งรวมถึงการดูแลส่วนบุคคลและความงาม, สปา, อสังหาริมทรัพย์เพื่อสุขภาพ ฯลฯ
โดยคาดว่าเศรษฐกิจเพื่อสุขภาพทั้งหมดจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 9.9% ต่อปี สูงกว่าประมาณการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่มีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ 7.3%
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เช็กด่วน! อากาศปิด ‘PM2.5’ กรุงเทพวันนี้ พุ่งเกินมาตรฐาน 36 พื้นที่
- เริ่มเยอะขึ้น! ‘PM 2.5’ กรุงเทพวันนี้ ฝุ่นสะสมเกินมาตรฐาน 21 พื้นที่ การระบายอากาศจำกัด
- กรุงเทพยังเจอ ‘PM 2.5’ ต่อเนื่อง วันนี้เกินมาตรฐาน 8 พื้นที่
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- Twitter: https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg