General

รวบโชเฟอร์แท็กซี่ ขับวน 2 ชม. ก่อนฉกนาฬิกาหรู 1.1 ล้าน นักธุรกิจญี่ปุ่น

รวบโชเฟอร์แท็กซี่ ฉกนาฬิกาหรู 1.1 ล้าน รับนักธุรกิจญี่ปุ่นจากสถานบันเทิง ส่งคอนโดทองหล่อ ระยะทาง 1 กม. แต่ขับวน 2 ชม. จนเหยื่อหลับก่อนปลดนาฬิกา

พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ทองหล่อ พร้อม พ.ต.ท.อัครพล  ธนธรรม รอง ผกก.สส.สน.ทองหล่อ  พ.ต.ต.มานะ  มะเซิง สว.สส.สน.ทองหล่อ และร.ต.อ.สมยศ หมาดสง่า รอง สว.สส.สน.ทองหล่อ นำกำลังจับกุม นาย บุญเลิศ อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาโชเฟอร์แท็กซี่ฉกนาฬิกาหรูนักธุรกิจชาวญี่ปุ่น มูลค่า 1.1 ล้านบาท

นาฬิกาหรู

หลังเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 มีผู้เสียหายนักธุรกิจชาวญี่ปุ่น ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่า เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2566 ได้ไปดื่มกิน จนกระทั่งประมาณ 00.30 น.ได้เรียกรถเเท็กซี่ เพื่อกลับคอนโด ในซอยทองหล่อ 13 มาถึงที่พักในเวลาประมาณ 05.00 น. ต่อมาทราบว่า นาฬิกา ยี่ห้อ AP รุ่น ROYAL OAK OFFSHORPE ราคา 1,100,000 บาท ได้หายไป

จากนั้นตำรวจฝ่ายสืบสวน จึงได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าผู้เสียหายขึ้นแท็กซี่ สีเขียวเหลือง โดยรถคันดังกล่าว ได้ขับไปตาม ถนนทองหล่อผ่านทองหล่อ 13 ซึ่งเป็นซอยที่พักของผู้เสียหายซึ่ง แต่กลับขับวกไปวนมา และจะหยุดเป็นช่วงๆ โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ด้วยระยะทางเพียงแค่ 1 กิโลเมตร ก่อนจะขับมาส่งยังที่พัก จนทราบว่า รถแท็กซี่คันดังกล่าว เป็นของนายบุญเลิศ เป็นผู้ครอบครอง และพักอาศัยอยู่ ใน จ.ปทุมธานี  จึงเดินทางไปตรวจสอบ จนนำไปสู่การจับกุมตัวไว้ได้

สอบสวนผู้ต้องหา ในช่วงแรกยังให้ปฎิเสธ พูดจาวกไปวนมา จากนั้น ตำรวจจึงได้ทำการตรวจสอบข้อมูล ในโทรศัพท์ของนายบุญเลิศ พบว่า เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2566 นายบุญเลิศ ได้ส่งรูปนาฬิกา ของผู้เสียหาย ไปทางข้อความไลน์ให้แฟนดู และยังพบข้อมูลการรับโอนเงิน จำนวน 337,000 บาท และพบด้วยว่า ผู้ต้องหา ได้เข้าไปหาข้อมูลนาฬิกา ยี่ห้อเดียวกับของผู้เสียหาย เพื่อตรวจสอบราคา ผ่านกูเกิ้ล  จนทำให้ นายบุญเลิศ จำนนด้วยหลักฐาน จึงรับว่า ได้ลักเอานาฬิกาของผู้เสียหายไปจริง

นาฬิกาหรู

โดยให้การเพิ่มเติม ว่าวันเกิดเหตุได้รับผู้เสียหายจากต้นซอยทองหล่อ เพื่อกลับที่พักซอยทองหล่อ 13  แต่ขณะนั้นตนเองเห็นนาฬิกาของผู้โดยสารสวยงาม จึงเกิดอยากได้ จึงขับรถวนไปมาเพื่อให้ผู้โดยสารหลับ และได้มาจอดภายในซอยทองหล่อ 13 จึงได้ปลดเอานาฬิกาของผู้เสียหายไป ก่อนปลุกให้ผู้เสียหายลงจากรถ จากนั้นได้ขับรถกลับบ้าน ต่อมาวันที่ 18 ธันวาคม 2566 ได้นำนาฬิกาไปขายให้กับพ่อค้าที่ ติดต่อผ่านทางไลน์ ก่อนที่จะนัดส่งมอบกันที่ เซ็นทรัลเวิลด์ และตำรวจ สามารถติดตาม นาฬิกจากผู้ที่รับซื้อไว้ นำมาคืนให้กับผู้เสียหายได้

ขอบคุณข้อมูล สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo