General

‘อนุทิน’ จ่อขยายโซนนิ่ง ‘ปิดสถานบันเทิงตี 4’ หากไม่มีปัญหา-ไร้ความวุ่นวาย

“อนุทิน” นำทีมลงพื้นที่ตรวจผับ-บาร์ย่านถนนข้าวสาร ระบุ หากไม่มีปัญหา-ไร้ความวุ่นวาย อาจขยายพื้นที่โซนนิ่ง “ปิดสถานบันเทิงตี 4”

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงหมาดไทย และนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง ร่วมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ และกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมบริเวณถนนข้าวสาร กรุงเทพฯ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง เมื่อช่วงดึกวานนี้ (16 ธ.ค.) หลังรัฐบาลเปิดพื้นที่นำร่อง ขยายเวลาเปิดผับ หรือสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น.

ปิดสถานบันเทิงตี 4

ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ นายอนุทิน ได้เข้าตรวจสถานบันเทิงจำนวนหนึ่ง โดยได้กำชับให้สถานประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ขณะที่นักเที่ยว ต้องห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แล้วขับขี่เด็ดขาด เพราะผิดกฎหมาย และอาจส่งผลกระทบต่อชีวิต และทรัพย์สิน ทั้งของตนเอง และผู้อื่น ตลอดเส้นทางมีประชาชน และนักท่องเที่ยวเข้ามาทักทายนายอนุทิน เป็นจำนวนมาก

นายอนุทิน กล่าวว่า ภาพรวมวันนี้ในพื้นที่ดูดี ผู้ประกอบการอยู่ในระเบียบ ปฏิบัติตามกฎหมาย ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีการยืนยันแล้วว่าทุกร้านให้ความร่วมมือ นักท่องเที่ยว ก็ไม่มีปัญหาให้ต้องวิตก สอดคล้องกับนโยบายขอรัฐบาล ที่ต้องการเห็นความสงบเรียบร้อย

เมื่อถามถึง การเพิ่มจำนวนใบอนุญาตแก่สถานประกอบการ และขยายพื้นที่โซนนิ่ง นายอนุทิน กล่าวว่า ที่เปิดอยู่ตอนนี้ ต้องดูว่าอยู่ในระเบียบหรือไม่ อะไรที่ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นก็พร้อมสนับสนุน

การเปิดสถานบริการถึงตี 4 ทำให้มีเงินหมุนเวียนมากขึ้น การจ้างงานเพิ่มมากขึ้น กระทั่งแกร็บ หรือแท็กซี่ ก็มีรายได้เข้ามามากขึ้น นี่คือเจตนารมณ์ของรัฐบาล แต่ก็ต้องอยู่ในกฎระเบียบ ถ้าอยู่ในจุดที่คุมได้ ทุกฝ่ายให้ความร่วมมือดี ก็พร้อมจะพิจารณาอยู่แล้ว

เมื่อถามถึงเป้าหมายในการลงพื้นที่ตรวจสอบความเรียบร้อย นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ได้จะมาจับผิดใคร ไม่ได้มากดดันใคร แต่ทำงานร่วมกัน ตำรวจ ฝ่ายปกครอง กรุงเทพมหานคร ป.ป.ส. ทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างความมั่นใจว่าต้องไม่มีของต้องห้ามทั้งยาเสพติด อาวุธร้ายแรง และ การปล่อยปละกฎหมาย ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ เรื่องแบบนี้ ต้องไม่มี

ปิดสถานบันเทิงตี 4

ส่วนเรื่องเหตุร้ายอันเกิดจากนักเที่ยวเมาสุรานั้น นายอนุทินระบุว่า เป็นเรื่องที่ต้องช่วยกัน เพราะถ้าเมา มีเรื่อง มีคดี วุ่นวายแน่นอน ผู้ประกอบการ เขาบอกแล้ว ว่าจะเซฟตัวเอง ถ้าเห็นว่าเมามากแล้ว เขาจะไม่ขายเหล้าให้ ส่วนเรื่องอาวุธ ก็ต้องช่วยกันดูแล อย่างน้อยก็ช่วยเซฟชีวิตกันและกัน

“ผมมาอยู่ตรงนี้ ผมมาสร้างความมั่นใจว่าสถานที่ท่องเที่ยวของไทย มีความปลอดภัย ปิดตี 4 เราก็ยังดูแลได้ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง ร่วมด้วยช่วยกันอยู่แล้ว เราเห็นเศรษฐกิจหมุนเวียน ขายของได้มากขึ้น มีรายได้เพิ่มมากขึ้น อะไรทำได้ เราก็อยากทำ”

นายอนุทิน บอกด้วยว่า เท่าที่เห็นสถานการณ์ต่าง ๆ ที่นี่ ยังเรียบร้อยดี จะได้มีข้อมูลไปนำแจ้งต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่านโยบายที่ออกมาเป็นอย่างไร ได้ผลในเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นไปด้วยดี ส่วนภาพรวมในทุกพื้นที่ต้องบอกว่าเพิ่ง 2 วัน ต้องดูให้นานกว่านี้ ถ้าช่วยกันก็ไปต่อได้ แต่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันระวัง ช่วยกันเตือน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo