มท. กำชับทุกจังหวัด ขับเคลื่อน 9 มาตรการ 3 ด้าน บูรณาการทำงานร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับมือปัญหาน้ำแล้ง ยาวถึงเม.ย. 67
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในรอบปี 2566 ที่ผ่านมาประเทศไทยและหลายประเทศทั่วโลกเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และมีการคาดว่า ปรากฏการณ์เอลนีโญจะส่งผลให้เกิดความแห้งแล้งอันอาจกระทบต่อภาคส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเกษตร การอุปโภคบริโภค อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว
เพื่อบรรเทาผลกระทบข้างต้น กระทรวงมหาดไทยได้ติดตามข้อมูลสภาพอากาศใกล้ชิด ให้ความสำคัญกับการประสานทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้หน่วยงานกระทรวงฯ ทั้งฝ่ายปกครอง และราชการส่วนท้องถิ่น เข้าไปมีส่วนในการขับเคลื่อนแผนการรับมือและแก้ไขปัญหาในทุกระดับ
กำชับทุกจังหวัด ขับเคลื่อน 9 มาตรการ 3 ด้าน แก้ปัญหาภัยแล้ง
ล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้รับทราบมาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2566/67 และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วงปี 2567 ที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติได้ให้ความเห็นชอบ ซึ่งหลังจากนี้จะมีการมอบหมายหน่วยงานภายใต้กระทรวงมหาดไทย ดำเนินการตามมาตรการที่อย่างเร่งด่วนต่อไป
มท.1 ติดตามและรับทราบรายงานว่า สถานการณ์สภาพอากาศตอนนี้มีความเสี่ยงว่าฤดูแล้งซึ่งได้เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนผ่านมา ไปจนถึงเมษายนปีหน้า จะเกิดการขาดแคลนน้ำจนกระทบต่อภาคส่วนต่างๆ จึงกำชับทั้งจังหวัด และท้องถิ่นให้ความสำคัญกับประเด็นนี้
“ให้เตรียมแผนงานที่สอดคล้องกับมาตรการรองรับฤดูแล้งฯ การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำฯ เพื่อเป็นการป้องกันและลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนอย่างทันต่อสถานการณ์ต่อไป” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
มาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2566/67 ซึ่งผ่านการเห็นชอบของคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการบูรณาการการทำงานต่อไป ประกอบด้วยแผนงาน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านน้ำต้นทุน (supply) ด้านความต้องการใช้น้ำ (Demand) และ ด้านการบริหารจัดการ (Management) รวม 9 มาตรการ
เช่น การเฝ้าระวังและเตรียมการจัดการแหล่งน้ำสำรอง พร้อมวางแผนเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือในพื้นที่เฝ้าระวังการขาดน้ำ ปฏิบัติการเติมน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ กำหนดแผนจัดสรรน้ำและพื้นที่เพาะปลูก บริการจัดการให้เป็นไปตามลำดับความสำคัญการใช้น้ำที่คณะกรรมการลุ่มน้ำกำหนด สร้างความเข้มแข็งด้านการบริหารจัดการน้ำชุมชน ประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ ประหยัดและลดการสูญเสียน้ำ
ทางด้านโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำฯ มีแผนงานที่เกี่ยวข้องหลายด้าน อาทิ การซ่อมและปรับปรุงอาคารชลศาสตร์ การสร้างความมั่นคงด้านน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค การเพิ่มน้ำต้นทุนเพื่อรองรับภัยแล้ง และการเตรียมความพร้อมเครื่องมือเครื่องจักร
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เอลนีโญ’ ทำภัยแล้งยาว 3 ปี คาดพื้นที่เสี่ยงแล้งปีนี้ 16.51 ล้านไร่ มีน้ำเพาะปลูกแค่ 10.66 ล้านไร่
- ‘PM2.5’ สูงขึ้น จากเอลนีโญ สธ.ปรับ 5 แนวทางเฝ้าระวัง-รับมือด้านสุขภาพประชาชน
- กระทรวงเกษตรฯ กำชับกรมฝนหลวง ลุยภารกิจ เติมน้ำในเขื่อนแบบเต็มอิ่ม รองรับแล้งจากเอล นีโญ