General

ทำความรู้จัก ไวรัส-แบคทีเรีย 6 ชนิด ตัวการแพร่ระบาดโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันในจีน

ศูนย์จีโนมฯ อัปเดตไวรัส-แบคทีเรียดั้งเดิม ที่ก่อโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันในเด็กในประเทศจีนรวม 6 ชนิด เช็กรายละเอียดที่นี่

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics ระบุว่า อัปเดตล่าสุด ไวรัส-แบคทีเรีย 6 ชนิด ที่ก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศจีน โดยระบุว่า

โรคทางเดินหายใจเฉียบพลัน

โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศจีน นั้นคณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติจีนได้แถลงข่าวในวันอาทิตย์นี้ (26 พ.ย. 2566) ว่ามิได้เกิดจากจุลชีพสายพันธุ์ใหม่แต่ประการใด แต่เกิดจากไวรัส และแบคทีเรียดั้งเดิมรวม 6 ชนิด ปรากฏการณ์นี้ถูกเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า หนี้ทางภูมิคุ้มกันที่ต้องจ่ายคืน (immunity debt) หรือ ช่องโหว่ของภูมิคุ้มกัน (immunity gap)

ไวรัส และแบคทีเรียดั้งเดิมที่พบก่อโรคในเด็กในประเทศจีนรวม 6 ชนิดคือ

1. ไวรัสไข้หวัดใหญ่ (influenza virus) เป็นไวรัสอาร์เอ็นเอชนิดเดียวที่มีเปลือกหุ้ม มีรูปร่างเป็นทรงกลม เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 80-120 นาโนเมตร ไวรัสไข้หวัดใหญ่มี 8 สายพันธุ์หลัก: A, B, C, D, E, H1N1, H2N2 และ H3N2 สายพันธุ์ A และ B เป็นสายพันธุ์ที่พบบ่อยที่สุดในมนุษย์

2. ไรโนไวรัส (rhinovirus) เป็นไวรัสที่พบมากที่สุดในมนุษย์ และเป็นสาเหตุสำคัญของโรคไข้หวัด ไรโนไวรัสแพร่กระจายผ่านการสัมผัสกับละอองฝอยจากทางเดินหายใจที่ปนเปื้อนจากบุคคลที่ติดเชื้อ อาการทั่วไปของโรคไข้หวัดที่เกิดจากไรโนไวรัส ได้แก่ คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ เจ็บคอ ปวดศีรษะ และอ่อนเพลีย ไม่มีการรักษาเฉพาะสำหรับโรคไข้หวัดที่เกิดจากไรโนไวรัส แต่มียาที่สามารถบรรเทาอาการได้ วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคไข้หวัดที่เกิดจากไรโนไวรัสคือการล้างมือบ่อย ๆ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับบุคคลที่ป่วย

ไวรัส

3. ไวรัสริสไพราโทรี ซินไซเทียล (respiratory syncytial virus) หรือ RSV เป็นไวรัสที่พบบ่อยในระบบทางเดินหายใจ มักทำให้เกิดอาการคล้ายไข้หวัดทั่วไป แต่อาจรุนแรงในเด็กเล็กและผู้สูงอายุ อาการทั่วไป ได้แก่ น้ำมูกไหล ไอ หายใจลำบาก มีไข้ เบื่ออาหาร หงุดหงิด เหนื่อยล้า หากมีอาการรุนแรง เช่น หายใจลำบาก ดื่มน้ำน้อยลง อาการแย่ลง ควรรีบไปพบแพทย์ วิธีป้องกันไวรัส RSV คือ ล้างมือบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่ป่วย และปิดปากและจมูกเมื่อไอหรือจาม

4. อะดีโนไวรัส (adenovirus) เป็นไวรัสที่พบได้บ่อย มักทำให้เกิดอาการคล้ายไข้หวัดทั่วไป แต่อาจรุนแรงในเด็กเล็กและผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเรื้อรัง แพร่เชื้อผ่านการสัมผัสละอองฝอยจากทางเดินหายใจที่ปนเปื้อน ไม่มีการรักษาเฉพาะ แต่มียาบรรเทาอาการ วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือการล้างมือบ่อย ๆ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่ป่วย

5. ไมโคพลาสมา เนมโมเนีย (mycoplasma pneumoniae) เป็นแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจ คล้ายไข้หวัดใหญ่หรือปอดบวม พบมากในเด็กและวัยรุ่น หายเองได้ภายใน 2-3 สัปดาห์ หากมีอาการรุนแรงควรรีบไปพบแพทย์ วิธีป้องกัน ล้างมือบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่ป่วย ปิดปากและจมูกเมื่อไอหรือจาม

จีน 1

6. ไวรัสโคโรนา 2019 มีหลายฝ่ายเชื่อกันว่าการล็อกดาวน์เมืองหรือประเทศ การใส่หน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่างทางสังคม เป็นเวลานานอาจทําให้ระบบภูมิคุ้มกันของเด็กมีโอกาสพบกับเชื้อจุลชีพและไวรัสต่าง ๆ น้อยกว่าปกติ ดังนั้นเมื่อมีการผ่อนคลายมาตรการดังกล่าว ในระยะแรกจะทำให้เด็กมีการติดเชื้อจุลชีพและไวรัสกันเป็นจำนวนมาก (outbreak) แต่ก็จะเกิดในช่วงเวลาสั้น ๆ และกลับมาเป็นปรกติเมื่อภูมิคุ้มกันในเด็กกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม

ในขณะที่ทางการจีนแถลงว่า พบผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในที่รับเข้ารักษาตัวใน รพ. ซึ่งเป็นเด็กด้วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไมโคพลาสมา เนมโมเนีย เพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ในขณะที่เริ่มพบไวรัสไข้หวัดใหญ่ อะดีโนไวรัส และ ไวรัสริสไพราโทรี ซินไซเทียล ในเดือนตุลาคม 2566

ทั้งนี้ ทางการจีนได้ดําเนินการเฝ้าระวัง ตรวจกรองโรคทางเดินหายใจทั้งจากผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในโรงพยาบาลอย่างเข้มงวดครอบคลุมไวรัสและแบคทีเรียกว้างขวางรวมถึงเชื้อไมโคพลาสมา เนมโมเนีย ขึ้นเป็นครั้งแรก ทำให้การตรวจพบและรายงานการเจ็บป่วยโรคทางเดินหายใจในเด็กในปี 2566 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปีก่อน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo