นายกรัฐมนตรี เผยข่าวดี 41 คนไทย จาก จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา จะได้กลับไทย อีก 1-2 วัน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวถึงกรณีกระทรวงกลาโหมเผยแผนการรับคนไทย 41 คน จากจ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา กลับประเทศไทยว่ามีครับ ต้องรอเวลา 1-2 วัน ประมาณวันที่ 16-17 พฤศจิกายน นี้ ซึ่งได้มีการพูดคุยกับฝ่ายความมั่นคงและทางฝ่ายความมั่นคงจะแจ้งมาให้ทราบ ซึ่งเราต้องพยายามต่อไปเพื่อช่วยเหลือคนไทยกลับมาให้ได้
แผนการรับตัวคนไทย
ขณะที่ กองทัพบก รายงานกระทรวงกลาโหม เผยแผนการรับตัวคนไทย จำนวน 41 คน จาก จ.ท่าขี้เหล็ก สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา กลับประเทศไทย โดยมีแนวทางการปฏิบัติในการรับตัว ดังนี้
- ทหารเมียนมา จะรับมอบตัวคนไทย 41 คน จาก ทหารว้า โดยจะอยู่ในความรับผิดชอบ ของ ผู้บัญชาการภาคทหารบกย่างกุ้ง
- เมื่อ ทหารเมียนมา รับตัวคนไทย 41 คนเรียบร้อย จะดำเนินการ อำนวยความสะดวกมาส่งที่ จ.เชียงตุง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา (ไม่สามารถเดินทางมายัง จ.ท่าขี้เหล็ก ได้ทันที เนื่องจากระยะทางไกล)
- หลังจากพักที่ จ.เชียงตุง จะอำนวยความสะดวกในการส่งตัวคนไทย 41 คน มายัง จ.ท่าขี้เหล็ก สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
- เมื่อถึง จ.ท่าขี้เหล็ก (อย่างเร็วที่สุดคือวันที่ 16 พ.ย. อย่างช้าที่สุดไม่เกิน วันที่ 17 พ.ย.) คนไทยทั้ง 41 คน จะไปที่ บก.ยศ.ท่าขี้เหล็ก
- เมื่อคนไทย 41 คน เดินทาง ถึง บก.ยศ.ท่าขี้เหล็ก ผบ.ฉก.ทัพเจ้าตาก ประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น ( TBC ) ฝ่ายไทย จะนำรถโดยสารปรับอากาศ (จัดจาก มทบ.37) เข้าไปรับคนไทย ออกจาก กองบังคับการกรมยุทธศึกษาทหารบกแขวงท่าขี้เหล็ก จ.ท่าขี้เหล็ก โดยใช้ช่องทาง จุดผ่านแดนถาวรสะพานฯ แห่งที่ 2 อ.แม่สาย จังหวัดเชียงราย
- เมื่อรับตัวคนไทยเดินทางมาถึง จุดผ่านแดนถาวรสะพานฯ แห่งที่ 2 จะดำเนินการคัดกรองโรค โดย รพ.ค่ายเม็งรายมหาราช และรับประทานอาหาร ณ อาคารด่านศุลกากร ประจำจุดผ่านแดนถาวรสะพานฯ แห่งที่ 2 รวมทั้งดำเนินกรรมวิธี ของ ตม. และ พม. ที่เกี่ยวข้องอื่นๆต่อไป
โดยสรุป ฝ่ายเมียนมา ยืนยันว่า คนไทยทั้ง 41 คน จะถูกส่งตัวได้อย่างเร็วที่สุด ในวันที่ 16 พฤศจิกายน และอย่างช้าที่สุด ไม่เกินวันที่ 17 พฤศจิกายน นี้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ด่วน! เผยแผนรับตัว 41 คนไทย จากทหารว้า ส่งตัวช้าสุดไม่เกิน 17 พ.ย.นี้
- นายกฯ เศรษฐา ย้ำ เดินหน้า ’30 บาทรักษาทุกโรค’ ยกระดับเพื่อชีวิตคนไทยทุกคน
- เผย 3 สาเหตุ ทำคนคนไทย ‘ตายก่อนวัยอันควร’ การบาดเจ็บทางถนน-โรคหลอดเลือดสมอง-เบาหวาน