General

ประกาศเตือน! 9 จังหวัดภาคใต้ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก 14-18 พ.ย. เช็กเลย!

ประกาศเตือน! 9 จังหวัดภาคใต้ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และระวังน้ำล้นอ่างเก็บน้ำ 14-18 พ.ย.

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ได้ออกประกาศ ฉบับที่ 4/2566 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ภาคใต้

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศ พบลมตะวันออกพัดปกคลุมอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศมาเลเซีย ทำให้บริเวณภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง

400624069 667001588874432 4398015793718935642 n

9 จังหวัดระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก

สทนช. ได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำด้วยฝนคาดการณ์ จากกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) โดยมีพื้นที่เสี่ยงบริเวณภาคใต้ ต้องเฝ้าระวัง ในช่วงวันที่ 14 – 18 พฤศจิกายน 2566 ดังนี้

  1. เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก
  • จังหวัดชุมพร (อำเภอเมืองชุมพร ปะทิว และหลังสวน)
  • จังหวัดระนอง (อำเภอเมืองระนอง กระบุรี ละอุ่น กะเปอร์ และสุขสำราญ)
  • จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ท่าชนะ ไชยา พุนพิน กาญจนดิษฐ์ ดอนสัก บ้านนาสาร เกาะสมุย และเกาะพะงัน)
  • จังหวัดนครศรีธรรมราช (อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ขนอม สิชล นบพิตำ ลานสกา ท่าศาลา ปากพนัง ชะอวด และหัวไทร)
  • จังหวัดพัทลุง (อำเภอบางแก้ว ป่าบอน เขาชัยสน อำเภอเมืองพัทลุง และปากพะยูน)
  • จังหวัดสงขลา (อำเภอระโนด สะทิงพระ สิงหนคร จะนะ สะเดา และเทพา)
  • จังหวัดปัตตานี (อำเภอเมืองปัตตานี หนองจิก และแม่ลาน)
  • จังหวัดนราธิวาส (อำเภอเมืองนราธิวาส บาเจาะ ยี่งอ เจาะไอร้อง ตากใบ สุไหงโก-ลก และสุคิริน)
  • จังหวัดยะลา (อำเภอเมืองยะลา รามัน ยะหา และบันนังสตา)

ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

ระวังน้ำล้นอ่างเก็บน้ำ

  1. เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 80% บริเวณ จังหวัดระนอง และสุราษฎร์ธานี และอ่างเก็บน้ำที่มีสถิติปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากกว่าความจุเก็บกัก ที่มีความเสี่ยงน้ำล้นอ่างฯ และส่งผลกระทบให้น้ำท่วมบริเวณด้านท้ายน้ำ

ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

เตรียมพร้อมรับมือ

ในการนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้

  1. ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ
  2. ติดตาม ตรวจสอบ ซ่อมแซม แนวคันบริเวณริมแม่น้ำ และเร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ พร้อมวางแผนการบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม โดยปรับแผนระบายน้ำจากเขื่อนและประตูระบายน้ำ เพื่อพร่องน้ำและบริหารพื้นที่ลุ่มต่ำให้เป็นพื้นที่หน่วงน้ำ เพื่อลดผลกระทบจากมวลน้ำที่จะไหลหลากมายังบริเวณพื้นที่เสี่ยง
  3. เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ รวมถึงความพร้อมของระบบสื่อสารสำรอง เพื่อบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือได้ทันที
  4. ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนล่วงหน้า ให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo