กระทรวงต่างประเทศ ชี้แจง กรณีพบลูกครึ่งไทย-อิสราเอล เป็นทหารกองหนุนให้อิสราเอล ระบุ เป็นความจริง แต่ไม่ใช่แรงงานไทย ที่เดินทางไปทำงาน
จากกรณีนายซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี ผู้นำศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์แห่งประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก SaiyidSulaiman Husaini ระบุว่า มีแรงงานไทยไปรับจ้างเป็นทหารอิสราเอล หากรัฐบาลไทยไม่รีบแก้ปัญหานำแรงงานไทยกลับมา จะทำให้แก้ปัญหาไม่ได้ตลอดกาล เพราะโลกมุสลิมมีความรู้สึกว่ารัฐไทยร่วมมือกับอิสราเอลแทงข้างหลังโลกอิสลามนั้น
ล่าสุด กระทรวงการต่างประเทศ ได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ว่า มีคนไทยที่เป็นลูกครึ่งไทย-อิสราเอล ไปเป็นทหารกองหนุนให้อิสราเอลจริง แต่ไม่ใช่พี่น้องแรงงานไทยแต่อย่างใด
ทั้งนี้ นอกเหนือจากแรงงานไทยในภาคเกษตรกรรมในอิสราเอลแล้ว ยังมีหญิงไทยจำนวนหนึ่ง ประมาณ 400-500 คน ที่แต่งงานกับคนอิสราเอล และมีบุตร ซึ่งถือ 2 สัญชาติ คือทั้งสัญชาติไทย และอิสราเอล
ตามกฎหมายอิสราเอลนั้น บุคคลสัญชาติอิสราเอลทุกคน ทั้งหญิงและชาย จะต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหารเมื่ออายุครบ 18 ปี โดยผู้ชายมีระยะเวลารับราชการทหาร 32 เดือน และผู้หญิงมีระยะเวลารับราชการทหาร 24 เดือน
เมื่อเสร็จสิ้นระยะเวลาเกณฑ์ทหารดังกล่าวแล้ว ทุกคนจะถูกบรรจุเข้าเป็นทหารกองหนุน ซึ่งจะต้องปฏิบัติหน้าที่ทหาร หากถูกเรียกจากกองทัพอิสราเอล
ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 กองทัพอิสราเอลได้เรียกทหารกองหนุนจำนวนกว่า 350,000 คน หรือประมาณ 4% ของประชากรอิสราเอลทั้งหมด เข้าปฏิบัติหน้าที่ ถือได้ว่าเป็นการเรียกทหารกองหนุนครั้งใหญ่ที่สุดของอิสราเอล
จึงย่อมมีลูกครึ่งไทย-อิสราเอลที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ทหารกองหนุนตามกฎหมายอิสราเอล ไม่ใช่แรงงานไทยที่แฝงตัวไปเป็นทหารรับจ้างให้แก่อิสราเอล ตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด
กระทรวงการต่างประเทศจึงขอความร่วมมืออย่าเผยแพร่ข่าวปลอม หรือข่าวที่อาจทำให้สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชนทั้งไทยและต่างประเทศ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘นายกฯ’ สั่งการรมว.แรงงาน จ่ายเงินเยียวยาแรงงานไทยกลับจากอิสราเอล ‘เร็วที่สุด’
- เปิดตัวเลข แรงงานจากอิสราเอล ขอรับสิทธิจากกองทุนช่วยเหลือฯ กว่า 6 พันราย จ่ายแล้วกว่า 34 ล้านบาท
- ‘สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ’ ประกาศปิดศูนย์พักพิงที่อิสราเอลแล้ว!!