กอนช. บริหารจัดการน้ำ เฝ้าระวัง 2 แหล่งน้ำมาก 8 แหล่งน้ำน้อยทั่วประเทศ ไม่ให้ส่งผลกระทบกับประชาชน
นายธรรมพงศ์ เนาวบุตร ผู้อำนวยการกลุ่มวิเคราะห์และติดตามสถานการณ์น้ำ รักษาการในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญด้านวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมการประเมินสถานการณ์น้ำกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ณ อาคารจุฑามาศ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) (สสน.) กรมทรัพยากรน้ำ กรมชลประทาน กรมทรัพยากรธรณี การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เป็นต้น เข้าร่วมการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
ปัจจุบันภาพรวมปริมาณฝนสะสมทั้งประเทศยังคงต่ำกว่าค่าปกติ 19% สำหรับการติดตามปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ พบว่า ในช่วงที่ผ่านมามีปริมาณฝนตกมากในบางพื้นที่ โดยมีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ปริมาณ 991 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)
บริหารจัดการน้ำ เฝ้าระวังแหล่งน้ำมาก–น้ำน้อยทั่วประเทศ
สำหรับปริมาณน้ำทั้งประเทศในปัจจุบัน มีจำนวน 44,028 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 53% ของความจุรวม โดยเป็นปริมาณน้ำใช้การ 19,921 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 34%
ทั้งนี้ กอนช. ได้ติดตามปริมาณน้ำในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ พบว่า มีแหล่งน้ำเฝ้าระวังน้ำมาก 2 แห่ง ได้แก่ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลและเขื่อนห้วยหลวง ในขณะเดียวกันมีแหล่งน้ำเฝ้าระวังน้ำน้อย 8 แห่ง ได้แก่ เขื่อนสิริกิติ์ บึงบอระเพ็ด เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เขื่อนภูมิพล เขื่อนแม่มอก เขื่อนปราณบุรี เขื่อนจุฬาภรณ์ และเขื่อนคลองสียัด
กอนช. ได้ติดตามสภาพปัญหาทั้งภัยแล้งและอุทกภัยในทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระดมความช่วยเหลือเพื่อแก้ไขปัญหาโดยเร็ว โดยในระยะที่ผ่านมา มีพื้นที่ประสบอุทกภัยใน 5 จังหวัด คือ ภาคเหนือ 1 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย ภาคตะวันออก 1 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดระยอง และภาคใต้ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดสตูล และ จังหวัดระนอง
ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ในหลายพื้นที่กลับคืนสู่ภาวะปกติแล้ว ยกเว้นในบางพื้นที่ของ จังหวัดเชียงราย โดยทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่
ภาคตะวันออก ฝนตกหนัก 28-29 ส.ค. ระวังน้ำหลาก ดินถล่ม
ทั้งนี้ จากการหารือร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยาและ สสน. เพื่อคาดการณ์ปริมาณฝนในระยะนี้ พบว่า ในแต่ละภาคจะมีปริมาณฝนตกไม่มากนัก แต่ในพื้นที่ภาคตะวันออกจะมีฝนตกหนักเป็นระยะที่ จังหวัดจันทบุรี และ จังหวัดตราด และภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีปริมาณฝนมากในช่วงวันที่ 28-29 สิงหาคม 2566
โดย กอนช. ได้คาดการณ์พื้นที่เสี่ยงเกิดอุทกภัย 3 วันล่วงหน้า พบพื้นที่เสี่ยงที่จะเกิดปัญหาน้ำหลากดินถล่มใน 3 จังหวัดในภาคตะวันออก ได้แก่ จังหวัดจันทบุรี จังหวัดระยอง และ จังหวัดตราด ซึ่ง กอนช. จะมีการติดตามข้อมูลรายวันเพื่อนำไปออกประกาศแจ้งเตือน หากมีแนวโน้มจะเกิดผลกระทบต่าง ๆ
นายธรรมพงศ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันประเทศไทยยังคงอยู่ในสภาวะเอลนีโญกำลังอ่อน โดยมีแนวโน้มจะแรงขึ้นในช่วงปลายปีนี้ ก่อนจะมีกำลังอ่อนลงและจะต่อเนื่องไปจนถึงปี 2567 โดย กอนช. ได้จัดทำมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2566 เพิ่มเติม เพื่อรองรับสถานการณ์เอลนีโญ จำนวน 3 มาตรการ คือ
- จัดสรรน้ำให้เป็นไปตามลำดับความสำคัญที่คณะกรรมการลุ่มน้ำกำหนด
- ควบคุมการเพาะปลูกข้าวนาปีต่อเนื่อง
- เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ
โดยหลังจากนี้จะมีการจัดการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อนมาตรการเพิ่มเติมดังกล่าว โดยจะดำเนินการควบคู่ไปกับ 12 มาตรการเดิมอย่างเคร่งครัด เพื่อบริหารจัดการน้ำภายใต้สภาวะเอลนีโญให้ผ่านพ้นไปได้อย่างราบรื่นและส่งผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด
อ่านข่่าวเพิ่มเติม
- กอนช. เตือน 15 จังหวัด เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม12-18 ส.ค. นี้
- เตือน! 8 จังหวัด ระวังน้ำล้นตลิ่ง ระดับน้ำในแม่น้ำโขง แนวโน้มเพิ่มขึ้น สูงสุด 3.5 เมตร วันที่ 10-15 ส.ค.
- ปภ. เฝ้าระวัง 2 จังหวัดน้ำท่วมขัง 2 จังหวัดดินถล่ม และ 11จังหวัดน้ำทะเลหนุน