General

ปภ.เตือน! 20 จังหวัด ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมแรง 12-15 ส.ค.

ปภ.แจ้งเตือน! 20 จังหวัด เหนือ – อีสาน – กลาง – ใต้ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมแรง 12-15 ส.ค.

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 1 (217/2566) ลงวันที่ 11 สิงหาคม 2566 เวลา 17.00 น. แจ้งว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น

ประกอบกับมีร่องมรสุมกำลังอ่อนพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามตอนบน

ทำให้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่าง ทะเลมีคลื่นสูง 1–2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ปภ.

แจ้งเตือน 20 จังหวัด เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมแรง

โดยมีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ ระหว่างวันที่ 12 – 15 สิงหาคม 2566 ดังนี้

พื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขัง

  • ภาคเหนือ 5 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน (ทุกอำเภอ) เชียงใหม่ (อำเภอเมือง ฝาง ไชยปราการ เชียงดาว แม่แตง แม่ริม) เชียงราย (อำเภอแม่สาย เชียงแสน แม่จัน แม่ฟ้าหลวง) น่าน (อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ปัว บ่อเกลือ ทุ่งช้าง เชียงกลาง) และตาก (อำเภอท่าสองยาง แม่ระมาด แม่สอด พบพระ อุ้มผาง)
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 จังหวัด ได้แก่ หนองคาย (อำเภอสังคม โพธิ์ตาก) บึงกาฬ (อำเภอเมือง บุ่งคล้า) สกลนคร (อำเภอเมืองฯ ภูพาน สว่างแดนดิน) และนครพนม (อำเภอเมือง)
  • ภาคกลาง 4 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี (อำเภอทองผาภูมิ สังขละบุรี) ระยอง (อำเภอเมืองฯ ปลวกแดง) จันทบุรี (อำเภอเมืองฯ เขาคิชฌกูฏ สอยดาว โป่งน้ำร้อน มะขาม ขลุง) และตราด (ทุกอำเภอ)
  • ภาคใต้ 6 จังหวัด ได้แก่ ระนอง (ทุกอำเภอ) พังงา (อำเภอเมือง ตะกั่วป่า กะปง คุระบุรี) ภูเก็ต (ทุกอำเภอ) กระบี่ (อำเภอเมือง เกาะลันตา คลองท่อม) ตรัง (อำเภอกันตัง สิเกา ปะเหลียน หาดสำราญ) และสตูล (อำเภอเมือง ละงู ท่าแพ ทุ่งหว้า)

พื้นที่เฝ้าระวังคลื่นลมแรง

ภาคกลาง 4 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี (อำเภอเมือง ศรีราชา บางละมุง สัตหีบ) ระยอง (อำเภอเมือง บ้านฉาง แกลง) จันทบุรี (อำเภอนายายอาม ท่าใหม่ แหลมสิงห์ ขลุง) ตราด (อำเภอเมือง แหลมงอบ คลองใหญ่ เกาะช้าง เกาะกูด)

ภาคใต้ 4 จังหวัด ได้แก่  ระนอง (อำเภอเมือง สุขสำราญ กะเปอร์) พังงา (อำเภอเมือง เกาะยาว ทับปุด ตะกั่วทุ่ง ท้ายเหมือง ตะกั่วป่า คุระบุรี) ภูเก็ต (ทุกอำเภอ) และกระบี่ (อำเภอเมือง คลองท่อม เกาะลันตา เหนือคลอง อ่าวลึก)

ปภ.

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เสี่ยงเตรียมรับมือ

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) จึงได้ประสานจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใ ต้รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก น้ำท่วมขัง และคลื่นลมแรง

โดยกำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง  โดยเฉพาะการติดตามปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่แต่ละจุดอย่างใกล้ชิด รวมถึงเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักหรือบริเวณฝนสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัยได้

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีฝนตกหนักมีความเสี่ยงที่จะเกิดภัย ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการหน่วยงานที่รับผิดชอบ ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าว ตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับพื้นที่ที่มีสถานการณ์น้ำท่วมขัง ขอให้ระมัดระวังอันตรายจากกระแสไฟฟ้ารั่ว ในกรณีที่มีความเสี่ยงจะเกิดอันตรายให้ตัดกระแสไฟฟ้าทันที ทั้งนี้ ได้กำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยงเพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที

สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์คลื่นลมแรง ให้จังหวัดออกประกาศหรือติดตั้งสัญญาณการแจ้งเตือนประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเล และแจ้งนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำทะเลในช่วงที่มีคลื่นลมแรงโดยเด็ดขาด พร้อมประสานกรมเจ้าท่า กองทัพเรือ  ตำรวจน้ำ แจ้งเตือนการเดินเรือ โดยให้ชาวเรือ ผู้บังคับเรือ ผู้ประกอบการเดินเรือโดยสาร เดินเรือด้วยความระมัดระวังให้มากขึ้น และหากสถานการณ์ในพื้นที่มีแนวโน้มรุนแรง ให้พิจารณาห้ามการเดินเรือออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด

ปภ.

แจ้งเตือนประชาชนทราบ

นอกจากนี้ ให้จังหวัดแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และแจ้งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามข้อมูลสภาวะอากาศ และข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด ตลอดจนประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง

สำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ขอให้ติดตามสภาพอากาศและข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้น โดยประชาชนสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” และหากความเดือดร้อนจากสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo