“ผบ.ตร.” เสียใจครอบครัว “รองสารวัตร” เสียชีวิต ขณะเข้าระงับเหตุชายเมายาคลั่ง ถูกแทงคอดับ เสนอปูนบำเหน็จ 6 ขั้น เลื่อนยศเป็น “พ.ต.ท.”
พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากกรณี ว่าที่ ร.ต.ต.บุญธรรม แก้วรัตน์ รอง สว.(ป.) สภ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช เข้าระงับเหตุผู้ต้องหาที่คลุ้มคลั่งจากการเสพสารเสพติดได้ถูกผู้ต้องหาใช้อาวุธมีดแทงได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในเวลาต่อมานั้น
จากการตรวจสอบพบว่า เมื่อวานนี้ (7 ก.ค.2566) เวลา 21.50 น. ตำรวจ สภ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุชายคลุ้มคลั่ง ว่าที่ ร.ต.ต.สุธรรม ในฐานะหัวหน้าสายตรวจพร้อมพวกได้เข้าระงับเหตุตามรับแจ้ง ซึ่งเป็นไปอย่างรวดเร็วตามมาตรการในการเข้าถึงที่เกิดเหตุ แต่เมื่อไปถึงพบนายรพีพัฒน์ อายุ 28 ปี บุตรชายเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ กำลังคลั่งอย่างหนัก ตำรวจพยายามเจรจาเกลี้ยกล่อม แต่ในขณะนั้นนายรพีพัฒน์ ได้วิ่งเข้าชาร์จ ว่าที่ ร.ต.ต.สุธรรม ก่อนใช้อาวุธมีดปาดคอ ว่าที่ ร.ต.ต.สุธรรม ก่อนที่นายรพีพัฒน์จะถูกคุมตัวได้ ส่วน ว่าที่ ร.ต.ต.สุธรรม อยู่ในอาการสาหัส จนกระทั่งไปเสียชีวิตที่ รพ.เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้แสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อครอบครัว ว่าที่ ร.ต.ต.บุญธรรม แก้วรัตน์ รอง สว.(ป.) สภ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ที่มีจิตวิญญาณผู้พิทักษ์สันติราษฎร์เมื่อได้รับแจ้งเหตุชายคลุ้มคลั่ง เข้าระงับเหตุอย่างทันท่วงที จนเสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ นับเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ดูแลสวัสดิการ พิจารณาปูนบำเหน็จสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ตามระเบียบราชการอย่างเต็มที่ รวมทั้งการจัดพิธีศพให้สมเกียรติ
ในเบื้องต้น ผบ.ตร.ได้สั่งการให้เสนอปูนบำเหน็จความดีความชอบตอบแทนเป็นกรณีพิเศษ โดยขอเลื่อนเงินเดือนให้ 6 ขั้น ขอพระราชทานยศเป็น พ.ต.ท. ได้สิทธิประโยชน์กรณีข้าราชการตำรวจเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ เป็นเงิน 2,393,480 บาท
พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ได้สั่งการให้ถอดบทเรียน ทบทวนยุทธวิธีการเสียชีวิตจากการปฏิบัติจากกรณีดังกล่าวด้วย เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียอีก
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- รัฐบาล สั่งตำรวจคุมเข้ม ‘เด็กแว้น’ แจ้งเบาะแสรับ 3,000 บาท
- แก๊งตบทรัพย์เว็บพนัน 140 ล้าน ออกหมายจับตำรวจ 20 คน-พลเรือนอีก 10
- ตำรวจ วาง 9 มาตรการเข้ม ‘แก้ปัญหาเด็กแว้น’ ทั่วประเทศ พร้อมให้รางวัล ‘ผู้แจ้งเบาะแส’ 3 พันบาท
