General

ทำไม? WHO ไม่จัด ‘ไวรัสไข้หวัดนก’ อยู่ในรายชื่อ 11 อันดับ ‘ไวรัสก่อโรคร้ายแรง’ ที่ทั่วโลกต้องเฝ้าระวัง

ทำไม? WHO ไม่จัด “ไวรัสไข้หวัดนก” อยู่ในรายชื่อ 11 อันดับ “ไวรัสก่อโรคร้ายแรง” อาจก่อให้เกิดโรคระบาดใหญ่ ที่ทั่วโลกต้องเฝ้าระวัง

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics ให้ข้อมูล เหตุใดไวรัสไข้หวัดนกไม่ได้ถูกจัดอยู่ใน “รายชื่อไวรัส  11  อันดับแรก” ที่อาจก่อให้เกิดโรคระบาดใหญ่(Pandemic) ของทางองค์การอนามัยโลกที่ประกาศให้ทั่วโลกเฝ้าติดตาม

ไข้หวัดนกเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ไข้หวัดนกชนิด A (Influenza A) ไวรัสเหล่านี้แพร่กระจายตามธรรมชาติในหมู่นกน้ำป่าทั่วโลก และสามารถแพร่เชื้อไปยังสัตว์ปีกเศรษฐกิจที่เพาะเลี้ยงในประเทศ รวมถึงสัตว์อีกหลายประเภท

ไวรัสไข้หวัดนก

โดยปกติแล้วไวรัส ไข้หวัดนกจะไม่แพร่เชื้อสู่คน แต่ก็พบการติดเชื้อไวรัส ไข้หวัดนกในมนุษย์บ้างเป็นระยะๆ ไวรัสจะอยู่ในลำไส้ของนกและกระจายสู่สิ่งแวดล้อมผ่านทางอุจจาระนก การติดเชื้อไวรัส ไข้หวัดนกในคน มักเกิดขึ้นหลังจากที่มีคนไปสัมผัสนกที่ติดเชื้ออย่างใกล้ชิด เป็นเวลานาน และไม่มีการป้องกัน จากนั้นนำมือมาสัมผัสปาก ตา หรือจมูก อันเป็นเหตุให้ไวรัสเข้าสู่ร่างกาย

อาการของโรคไข้หวัดนกในคน มีตั้งแต่ไม่แสดงอาการหรือเกิดเจ็บป่วยเพียงเล็กน้อย ไปจนถึงเกิดโรครุนแรงที่ทำให้เสียชีวิตได้

โรคไข้หวัดนกในคนสามารถทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงหลายประเภทและอาจมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต จากการติดเชื้อที่ตา ติดเชื้อที่ปอดเกิดปอดบวม มีภาวะหายใจลำบากเฉียบพลัน และเกิดการอักเสบของสมองและหัวใจ

เพื่อป้องกันการระบาดของไข้หวัดนก มาตรการสำคัญ ได้แก่ การแยกนกป่าและนกเลี้ยงออกจากกัน ตรวจสอบให้แน่ใจว่านกที่เลี้ยงไว้มีน้ำดื่มที่ปลอดภัย และใช้อุปกรณ์ป้องกัน เช่น ถุงมือ หน้ากากอนามัย และอุปกรณ์ป้องกันดวงตา เมื่อเข้าไปในกรงนก หรือสัมผัสนก

ไวรัสไข้หวัดนก

สาเหตุไม่จัด ไข้หวัดนก ในรายชื่อไวรัสก่อโรคติดต่อร้ายแรง

ส่วนสาเหตุที่องค์การอนามัยโลก ยังไม่จัดให้ไวรัส ไข้หวัดนกอยู่ในรายชื่อ ‘ไวรัสก่อโรคติดต่อร้ายแรง 11 อันดับแรก’ เพราะ

  1. ไวรัสไข้หวัดนกยังไม่ทำให้มนุษย์ที่ติดเชื้อเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก แม้จะมีรายงานผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกบางรายเสียชีวิต แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง หรือมีอาการปานกลาง รายชื่อโรคติดต่อที่สำคัญขององค์การอนามัยโลกมุ่งเน้นไปที่โรคติดต่อที่มีอัตราการเสียชีวิตสูง ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน และยาต้านไวรัสในการรักษา
  2. ไวรัส ไข้หวัดนกยังไม่พบการแพร่ระหว่างคนสู่คนโดยง่าย ไข้หวัดนกส่วนใหญ่แพร่กระจายผ่านการสัมผัสกับมูลหรือสารคัดหลั่งของนกที่ติดเชื้อไปสู่คน และมักจะยุติที่ผู้ป่วยรายนั้นเท่านั้น ไม่ได้แพร่เชื้อจากคนสู่คนเหมือนกับไวรัสทางเดินหายใจอื่นๆ เช่น โควิด-19 นอกจากนี้ไวรัส ไข้หวัดนกยังสามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสกับพื้นผิวที่ปนเปื้อนได้ด้วย
  3. มีวัคซีนและการรักษาที่มีประสิทธิภาพ มีวัคซีนหลายชนิดที่ใช้ป้องกันไข้หวัดนกได้ นอกจากนี้ยังมียาต้านไวรัสที่ใช้รักษาโรคไข้หวัดนกได้ ซึ่งหมายความว่าหากบุคคลใดติดเชื้อไข้หวัดนก จะมีการรักษาที่สามารถช่วยให้พวกเขาหายได้
  4. ไวรัส ไข้หวัดนกไม่แพร่ระบาดเหมือนกับโรคอื่นๆ ที่อยู่ในรายชื่อขององค์การอนามัยโลก
  5. ทั่วโลกมีความเข้าใจเป็นอย่างดีเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัส ไข้หวัดนกรวมทั้งวิธีป้องกัน
  6. ทั่วโลกได้วางระบบเฝ้าระวังที่มีประสิทธิภาพในการตรวจหาและติดตามการระบาดของไข้หวัดนก
  7. ประเทศต่าง ๆ มีแผนรับมือกับการระบาดของไข้หวัดนกเป็นที่เรียบร้อย

รายชื่อโรคติดเชื้อสำคัญขององค์การอนามัยโลกได้รับการอัปเดตเป็นประจำเมื่อมีข้อมูลใหม่ มีความเป็นไปได้ที่ไวรัส ไข้หวัดนกจะถูกเพิ่มเข้าไปในรายชื่อ โรคติดเชื้อสำคัญในอนาคต หากไวรัสไข้หวัดนกมีวิวัฒนาการและการกลายพันธุ์ จนอาจกลายเป็นภัยคุกคามด้านสาธารณสุขของมนุษย์มากขึ้น

ไวรัสไข้หวัดนก

หมายเหตุ WHO กำหนด 11 อันดับไวรัสก่อโรคร้ายแรง

องค์การอนามัยโลกจัดรายชื่อ 10 โรคติดเชื้อสำคัญ รวมทั้งโรค X ในปัจจุบัน ณ เดือนกันยายน 2565 ที่ทั่วโลกต้องเฝ้าระวัง ดังนี้

  1. โควิด 19
  2. ไข้เลือดออกไครเมีย-คองโก
  3. โรคไวรัสอีโบลา
  4. โรคไวรัสมาร์บวร์ก
  5. ไข้ลาสซา
  6. กลุ่มอาการทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (เมอร์ส)
  7. กลุ่มอาการทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (ซาร์ส)
  8. เฮนิปาไวรัส
  • ไวรัสนิปาห์ (NiV)
  • ไวรัสแลงยา (LayV)
  • ไวรัสเฮนดรา (HeV)
  • ไวรัสซีดาร์ (CedV)
  • ไวรัสโม่เจียง (MojV)
  • ไวรัสกานา (GhV)
  • ไวรัสเอ็ม 74 (M74V)
  1. โรค Rift Valley fever
  2. ซิก้า
  3. โรค X ใช้เรียกโรคอุบัติใหม่ที่ยังไม่ทราบว่าเป็นเชื้ออะไร

ประเภทไวรัสและจุลชีพในรายการ สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาเมื่อมีโรคใหม่ๆ เกิดขึ้น หรือโรคที่มีการระบาดประจำถิ่น ได้กลายพันธุ์เกิดเป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพของประชากรทั่วโลกมากขึ้น

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo