General

รื้อ! ‘เคปชาร์ค พูล วิลล่า รีสอร์ท’ หลังพบสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาติ รุกที่ราชพัสดุ ‘เกาะเต่า’

รื้อ! “เคปชาร์ค พูล วิลล่า รีสอร์ท” หลังพบก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาติ รุกที่ราชพัสดุ “เกาะเต่า” ปล่อยน้ำเสียลงทะเล

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สั่งการเร่งด่วน มอบหมายให้ ดร.ยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำกำลังเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับเคปชาร์ค พูล วิลล่า

ตามที่ได้รับร้องเรียนผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก โดย FACEBOOK “ชมรม STRONG ต้านทุจริต จังหวัดสุราษฎร์ธานี” แชร์ภาพ TikTok จากนักท่องเที่ยว เป็นภาพรีสอร์ท Cape Shark Villas ตั้งอยู่ในพื้นที่เกาะเต่า และตั้งคำถามถึงการก่อสร้างอาคารที่พักบนโขดหินติดริมทะเลของรีสอร์ทดังกล่าว ว่าถูกต้องหรือไม่

เคปชาร์ค พูล วิลล่า

ก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต รุกที่ราชพัสดุบนเกาะเต่า ปล่อยน้ำเสียลงทะเล

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ (วันที่ 25 มิถุนายน) พบว่า พื้นที่เกาะเต่าเป็นพื้นที่ราชพัสดุทั้งเกาะ มีกรมธนารักษ์เป็นผู้ดูแล

บริษัท เคปชาร์ค พูล วิลล่า จำกัด เป็นผู้ครอบครองอาคารที่ตั้งเลขที่ 21/9 หมู่ที่ 3 ตำบลเกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยไม่ได้มีการขออนุญาตก่อสร้างจากเทศบาลตำบลเกาะเต่า พื้นที่ครอบครองยังไม่ได้ดำเนินการเช่าที่ดินจากธนารักษ์ และอาคารที่พักไม่ได้มีการขออนุญาตให้ก่อสร้างอาคาร รวมถึงยังไม่ได้มีการจดแจ้งหรือได้รับใบอนุญาตแต่อย่างใด

ซึ่งทางเจ้าพนักงานท้องถิ่นได้อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 สั่งห้ามมิให้บุคคลใช้หรือเข้าไปในส่วนใด ๆ ของอาคาร ตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ ยังพบอีกว่า บริเวณอาคารที่พัก มีท่อน้ำทิ้งปล่อยลงทะเล ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสาธารณะในแผ่นดิน โดยไม่มีการบำบัดตามมาตรฐานของทางราชการ

เคปชาร์ค พูล วิลล่า

กระทำผิดกฎหมาย

เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันพิจารณาแล้ว เห็นว่าการกระทำของ บริษัท เคป ชาร์ค พูล วิลล่า จำกัด เป็นการกระทำการผิดกฎหมาย ดังต่อไปนี้

  • พระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2562 ฐาน ยึดถือหรือครอบครองทั้งหมดหรือแต่บางส่วน โดยไม่มีสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเข้าไปกระทำการใด ๆ อันเป็นการรบกวนการใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุ โดยปกติสุข หรือทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายหรือทำให้เสื่อมสภาพแก่ที่ราชพัสดุ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 45
  • พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ฐาน ก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเคลื่อนย้ายอาคาร โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก เจ้าพนักงานท้องถิ่น หรือแจ้งต่อพนักงานท้องถิ่นและดำเนินการตามมาตรา 39 ทวิ ตามมาตรา 21 ประกอบมาตรา 65
  • พระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ฐาน ประกอบธุรกิจโรงแรม โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน มาตรา 15 ประกอบมาตรา 59
  • พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ฐาน ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา 44 หรือตามประกาศของรัฐมนตรีตามมาตรา 45 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เคปชาร์ค พูล วิลล่า

ยินยอมรื้อถอน รับผิดชอบฟื้นฟูให้กลับสู่สภาพเดิม

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ได้จัดทำบันทึก พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง นำเรื่องราวส่งพนักงานสอบสอนสถานีตำรวจภูธรเกาะพะงัน อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

โดย ดร.ยุทธพล เผยว่า จากการพูดคุย กับ นางสุนิสา ลาพอร์ท เจ้าของรีสอร์ท ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี พร้อมยอมรับทุกข้อกล่าวหา ยืนยันทำไปด้วยไม่รู้ข้อกฎหมาย จากนี้ยินดีรื้อถอนอาคาร พร้อมรับผิดชอบฟื้นฟูพื้นที่บริเวณดังกล่าวให้กลับคืนสู่สภาพเดิม

เคปชาร์ค พูล วิลล่า

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo