General

สธ. จัดทำคำแนะนำ ‘กัญชาทางการแพทย์’ ระบุชัดใช้ตามดุลพินิจของแพทย์ เสริมการรักษาวิธีมาตรฐาน

สธ. จัดทำคำแนะนำ “กัญชาทางการแพทย์” ระบุชัดใช้ตามดุลพินิจของแพทย์ เสริมการรักษาวิธีมาตรฐาน เพื่อผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น

นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า หลายประเทศทั่วโลกได้มีการนำสารสกัดจากกัญชามาใช้เพื่อเป็นยารักษาโรค เนื่องจากมีการศึกษาวิจัยสนับสนุนถึงประโยชน์ และข้อพึงระวังจากการใช้กัญชามากขึ้น

กรมการแพทย์ในฐานะกรมวิชาการที่มุ่งส่งเสริมมาตรฐานการรักษา โดยใช้หลักการแพทย์เชิงประจักษ์ (evidence-based medicine) รวมถึงการให้การรักษาภาวะแทรกซ้อนและเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากสารสกัดกัญชา จึงทำการทบทวนองค์ความรู้ต่าง ๆ เพื่อปรับปรุงให้คำแนะนำทางการแพทย์การใช้กัญชาทางการแพทย์มีความทันสมัย เหมาะสมกับเหตุการณ์

กัญชาทางการแพทย์

ดูแลผู้ป่วยที่รักษาด้วยวิธีมาตรฐานไม่ได้ผล

ปัจจุบันมีคำแนะนำการใช้กัญชาทางการแพทย์ (Guidance on Cannabis for Medical Use) ซึ่งเป็นฉบับปรับปรุงครั้งที่ 5 (2565) ขอย้ำคำแนะนำฉบับนี้เป็นเครื่องมือในการให้การดูแล รักษา ควบคุมอาการของผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยวิธีมาตรฐานแล้วไม่ได้ผล โดยคำนึงถึงความปลอดภัย ประสิทธิผล การเข้าถึงการรักษาเป็นสำคัญ โดยหวังผลให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

 คำแนะนำนี้มิใช่ข้อบังคับของการปฏิบัติ ผู้ใช้สามารถปฏิบัติตามดุลพินิจภายใต้ความสามารถ ข้อจำกัดตามภาวะวิสัย และพฤติการณ์ที่มีอยู่

กัญชาทางการแพทย์

ทั้งนี้ กรมการแพทย์ยังคงยึดมั่นในหลักการทำงาน 3 ประการ คือ

  1. ต้องปลอดภัยต่อผู้ป่วย (do no harm)
  2. ต้องเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วย (patient benefit)
  3. ต้องไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง (no hidden agenda)

การจัดทำคำแนะนำการใช้สารสกัดจากกัญชาทางกาsแพทย์ ผ่านกระบวนการสืบค้นโดยใช้คำสำคัญโดยรวม เพื่อให้สืบค้นได้กว้างและได้ข้อมูลมากที่สุด เฉพาะข้อมูลที่เป็นภาษาไทยและอังกฤษเท่านั้น โดยสืบค้นจากฐานข้อมูล Medline ผ่าน PubMed รวมถึงฐานข้อมูล Cochrane Library และข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงข้อมูลที่ได้จากการนำยาสกัดกัญชาทางการแพทย์มาศึกษาวิจัยในประเทศไทยและการใช้กับผู้ป่วยเฉพาะราย

โดยมีวัตถุประสงค์ให้แพทย์ และทันตแพทย์สามารถสั่งใช้ และเภสัชกรสามารถจ่ายผลิตภัณฑ์กัญชาทางกาsแพทย์ได้อย่างเหมาะสม ทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษา  ควบคุมอาการของโรค และภาวะของโรคได้ส่งผลให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

กัญชาทางการแพทย์

ผลการศึกษาเชิงทดลอง ช่วยคุณภาพชีวิตผู้ป่วยดีขึ้น

โดยมีการศึกษาเชิงทดลองการให้ยาสกัดกัญชาเกรดทางการแพทย์ที่ผลิตโดยองค์การเภสัชกรรมชนิด THC:CBD (1:1) ในผู้ป่วยมะเร็งระยะท้าย ที่รับเข้านอนโรงพยาบาลจำนวน 14 คน พบว่า ผู้ป่วยที่มีอาการปวดระดับปานกลางถึงรุนแรงลดลง 50% (ผู้ป่วยจำนวน 4 รายไม่ต้องใช้ยาแก้ปวดในกลุ่มโอปิออยด์ในช่วงการศึกษา) ผู้ป่วยที่มีอาการนอนไม่หลับก่อนใช้ยาสกัดกัญชานอนหลับได้ทุกคน ผู้ป่วย 83% มีความอยากอาหารเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ พบอาการไม่พึงประสงค์จำนวน 6 คน ได้แก่ ปากแห้งคอแห้ง มีปัญหาควบคุมการเคลื่อนไหว ความสามารถในการรับรู้ลดลง หูแว่ว ประสาทหลอน กรณีที่ใช้ยาสกัดกัญชาชนิด THC เด่น กับผู้ป่วยมะเร็งระยะลุกลามจำนวน 63 คน โดยติดตามผลการรักษาครบ 30 วัน ระดับความรุนแรงของอาการที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ อาการปวด เหนื่อย/อ่อนเพลีย คลื่นไส้ ซึมเศร้า วิตกกังวล เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ และกลุ่มอาการที่ไม่แตกต่างกัน ได้แก่ ง่วงซึม สะลึมสะลือ สบายดีทั้งกายและใจ และเหนื่อยหอบ

กัญชาทางการแพทย์

นอกจากนี้ พบว่าผู้ป่วยนอนหลับดีขึ้น (65.1%) การลดความเจ็บปวด (50.8%) และความอยากอาหารที่เพิ่มขึ้น (42.9%) รวมถึงผู้ป่วยมะเร็งระยะท้ายมีคะแนนคุณภาพชีวิตสูงขึ้นภายหลังได้รับยาสกัดกัญชา อย่างไรก็ตามผลข้างเคียงพบได้ 19.1% ส่วนใหญ่เป็นอาการไม่รุนแรง ได้แก่ ปากแห้ง/ คอแห้ง คลื่นไส้อาเจียน และเวียนศีรษะ

ทั้งนี้  ผลิตภัณฑ์สารกัญชาทางกาsแพทย์ได้ประโยชน์ เนื่องจากมีหลักฐานทางวิชาการที่มีคุณภาพสนับสนุนชัดเจน ได้แก่ 1. ภาวะคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด 2. โรคลมชักที่รักษายาก และโรคลมชักที่ดื้อต่อยารักษา  3. ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็งในผู้ป่วยโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง 4.ภาวะปวดประสาทส่วนกลาง 5. ภาวะเบื่ออาหารในผู้ป่วย AIDS ที่มีน้ำหนักตัวน้อย 6. การเพิ่มคุณภาพชีวิตในผู้ป่วยที่ได้รับการดูแลแบบประคับประคอง หรือผู้ป่วยระยะสุดท้ายของชีวิต ซึ่งให้เป็นไปตามดุลยพินิจของแพทย์ และมีการตัดสินใจร่วมกันกับผู้ป่วยและญาติ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo