General

ญาติเหยื่อ ‘แอม ไซยาไนด์’ ร้องสภาทนายความ ขอความช่วยเหลือด้านกฎหมาย

ญาติเหยื่อ “แอม ไซยาไนด์” ร้องสภาทนายความ ขอความช่วยเหลือด้านกฎหมาย จัดทีมทนายความ 3 ชุด ให้การช่วยเหลือจนคดีถึงที่สุด

วันที่ 9 พฤษภาคม 2566 เวลา 11.00 . ที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ถนนพหลโยธิน  ดร.วิเชียร ชุปไธงสง นายกสภาทนายความฯ  พร้อมผู้บริหาร นายสัญญาภัชระ สามารถ อุปนายกฝ่ายปฎิบัติการ นายสุนทร พยัคฆ์ เลขาธิการสภาทนายความ  นายวีรศักดิ์ โชติวานิช รองโฆษก สภาทนายความฯและคณะนำ ผู้เสียหายจากการถูก นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือแอม ไซยาไนด์”  ผู้ต้องหาคดีฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง ประทุษกรรม จำนวน  14 คน แถลงข่าวถึงการขอความช่วยเหลือทางคดี 

ช่วย

โดยดร.วิเชียร กล่าวว่า วันนี้ตนเพิ่งได้พบกับญาติผู้เสียหายที่เป็นเหยื่อของแอม จำนวนมาก โดยมีนายรพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานงานในคดี คดีนี้นับ เป็นคดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ มีการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนอย่างต่อเนื่อง เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง สภาทนายความ จึงจัดทีมทนาย 3 ชุด เตรียมให้การช่วยเหลือ คือชุดคดีอาญา คดีแพ่งและส่วนของการเยียวยาหลังเกิดเหตุ ในคดีอาญา สภาทนายความจะคอยให้คำแนะนำปรึกษาเข้าร่วมติดตามการสืบสวนสอบสวน รวมทั้งการร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมในคดี 

ส่วนความเสียหายทางแพ่ง จะร้องขอให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ค่าปลงศพ ค่าขาดไร้อุปการะค่าใช้จ่ายที่สูญเสียไปจากการกระทำผิด ทั้งช่องทางตาม .วิอาญามาตรา44/1และปพพ.420 

ส่วนเรื่องสิทธิมนุษยชน จะเรียกเงินเยียวยาตาม ...คุ้มครองผู้เสียหายทางอาญา  โดยจะดำเนินคดีในทุกชั้นศาลจนถึงที่สุดรวมทั่งการติดตามบังคับคดีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

ด้านนายวีรศักดิ์ โชติวานิช รองโฆษกสภาทนายความกล่าวว่า สภาทนายความจะเกาะติดในทุกประเด็นเช่นในแง่ที่แอม เคยมีประวัติรักษาทางจิตเวช  จะไม่กระทบต่อคดี เพราะเราจะนำสืบให้ศาลเห็นว่า ขณะลงมือกระทำเขามีการตระเตรียมการวางแผนเป็นขั้นตอน ดังนั้นจึงมีสติสัมปชัญญะ รู้ตัวดี จึงไม่มีข้อยกเว้นหรือบรรเทาโทษ 

ส่วนกรณีแอม ตั้งครรภ์ คาดว่า กว่าคดีจะถึงที่สุด แอมคงคลอดแล้ว ดังนั้นเมื่อความผิดตามป.อาญาฐานฆ่าโดยผู้อื่นไตร่ตรอง ระวางโทษประหารชีวิต  ถึงเวลานั้นจริงก็สามารถประหารชีวิตได้ 

ส่วนที่กังวลว่า .วิอาญามาตรา226/2ที่ว่า ห้ามศาลรับฟังพยานหลักฐานเกี่ยวกับความผิดครั้งก่อนๆ มาฟังลงโทษจำเลยในคดีที่ถูกฟ้อง จะกระทบต่อพฤติการณ์ ของแอมที่มักมีพฤติกรรมฆาตกรต่อเนื่องทำผิดกับเหยื่อที่มีลักษณะคล้ายกันแต่กฎหมายมีข้อยกเว้นว่า ถ้าเป็นส่วนของการรับฟังที่้เกี่ยวกับลักษณะเฉพาะตัว หรือองค์ประกอบความผิดหรือรูปแบบเฉพาะตัว ก็รับฟังได้ และไม่ห้ามที่จะใช้รับฟังเพื่อประกอบดุลยพินิจในการกำหนดโทษหรือเพิ่มโทษจำเลย ดังนั้นเชื่อว่าไม่กระทบต่อการสืบพยานแน่นอน

ภาพหน้าจอ 2566 05 09 เวลา 15.50.47

ด้านนายสัญญาภัชระ สามารถ อุปนายกสภาทนายความ กล่าวว่า คดีนี้เป็น การตายผิดธรรมชาติเพราะถูกคนทำให้ตาย เป็นการฆาตกรรมที่มีความซับซ้อนกฎหมายให้ทำการชันสูตรพลิกศพและร้องศาลเพื่อไต่สวนหาสาเหตุการตาย โดยต้องพิสูจนให้ได้ว่าตายเพราะไซยาไนด์ ดังนั้การชันสูตรพลิกศพมีความสำคัญมาก แต่ผู้เสียหายชุดแรกๆ ไม่ทราบว่าคนตายไปเกี่ยวข้องกับแอมหรือไม่ เลยไม่ติดใจ หลายรายเผาศพไปแล้ว แต่รายที่เผาศพแล้วเราจะรวบรวมพยานเท่าที่เหลือ เช่น บางศพปากดำเล็บดำ ดังนั้นในชั้นสอบสวนคดีชันสูตรและชั้นไต่สวนสภาทนายจะจัดทนายไปร่วมดำเนินคดีเคียงข้างกับญาติผู้ตาย

ผู้สื่อข่าวถามว่า  ได้ดูคลิปทนายความของผู้ต้องหามีลักษณะพูดจาหัวเราะ ทั้งที่ญาติผู้เสียหายฟังอยู่ หรือแต่งกายไม่เหมาะสมในงานศพ ดร.วิเชียรตอบว่า ได้ติดตามดู ก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกัน จึงขอเตือนทนายความไม่ว่าใครก็ตามขอให้คำนึงถึงข้อบังคับของสภาทนายความและรักษามรรยาททนายไว้ด้วย ถ้าการแสดงความคิดเห็นของทนายออกนอกลู่นอกทางอาจจะฝ่าฝืนข้อบังคับได้

นางทุเรียน มารดาของน..ผุสดี สามบุญมี เผยว่า ..ผุสดีเป็นเพื่อนกับแอม โดยผู้ตายรับราชการครูมา 8 ปี มีการชักชวนกันไปเล่นแชร์ จนผู้ตายไปกู้เงินสหกรณ์มา2 ล้านบาท พอปี65จู่ๆน..ผุสดี ก็ตาย แพทย์วินิจฉัยว่าหัวใจล้มเหลว ทำให้ครอบครัวขาดเสาหลัก ตนต้องเลี้ยงบุตรสองคนแทน พอรู้ข่าวแอม เลยเชื่อว่าการตายน่าจะเกี่ยวข้องกับพฤติการณ์ ขอให้สภาทนายความเอาตัวคนร้ายมารับโทษกับที่ทำไว้ 

ส่วนญาติผู้ตายรายอื่นๆ เผยว่า รู้สึกไม่ดีกับการแสดงออกของทนายความผู้ต้องหาเชื่อว่า สังคมตัดสินแล้ว และเชื่อมั่นสภาทนายความจะติดตามเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo