สรยุทธ เล่าอดีตเคยเจอ ผอ.กอล์ฟ ในเรือนจำ บอกติดคุก 10 ปีเดี๋ยวก็ได้ออกไปใช้ชีวิต อายุผมยังไม่เยอะ แขนขาตกเจอโทษประหาร
วานนี้ (26 เม.ย.) เวลา 09.00 น.ที่ห้องพิจารณา 908 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่นาย ประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือ กอล์ฟ อายุ 41 ปี อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งใน จ.สิงห์บุรี บุกเข้าไปชิงทองในร้านทองออโรร่า ในห้างสรรพสินค้าที่จังหวัดลพบุรี เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2563 แล้วยิงพนักงานร้านทอง รปภ. และผู้บริสุทธิ์ที่อยู่ในห้าง เสียชีวิตไป 3 ศพ ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 4 คน ได้ทองคำไป 33 เส้น มูลค่ากว่า 6 แสน 6 หมื่นบาท ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นฯ พยายามฆ่าผู้อื่นฯ ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนฯ และความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน
คดีนี้ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิพากษา ประหารชีวิต ผอ.กอล์ฟ ต่อมา ผอ.กอล์ฟ ยื่นฎีกาขอให้ศาลลดโทษ ศาลฎีกา เห็นว่า พฤติการณ์ของจำเลยเป็นการกระทำอย่างอุกอาจในห้างสรรพสินค้าอันเป็นที่สาธารณะ กระทำต่อผู้บริสุทธิ์มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บสาหัสอีก 1 คน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องด้วย อันเป็นพฤติการณ์อุกอาจโหดเหี้ยมอันตรายร้ายแรงผิดมนุษย์ จำเลยเป็นถึงผู้อำนวยการโรงเรียนควรมีจิตสำนึกที่ดี ให้สมกับมีอาชีพเป็นครู ควรประพฤติตัวให้เป็นเยี่ยงอย่างกลับกระทำอย่างอุกฉกรรจ์ ที่จำเลยขอความปรานีจากศาลเพื่อลดโทษให้ จึงไม่มีเหตุสมควร ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้นพิพากษายืน “ประหารชีวิต”
คดีนี้ ผอ.กอล์ฟ ยื่น อุทธรณ์ขอลดโทษ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์และโจทก์ร่วมมีพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และพยานแวดล้อมกรณีมาสืบให้รับฟังได้อย่างมั่นคงว่า จำเลยเป็นคนร้ายที่ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายทั้งสามและผู้เสียหาย และชิงทรัพย์สร้อยคอทองคำของโจทก์ร่วมแล้วหลบหนีไป จำเลยไม่ได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าพนักงานและสารภาพความผิด แต่ตำรวจต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอออกหมายจับ
ดังนั้นการที่จำเลยรับสารภาพเป็นเพราะเกิดจากจำนนต่อหลักฐาน ลักษณะของการกระทำความผิดจึงเป็นไปโดยอุกอาจ ไม่ยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง เป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมทารุณ ไร้มนุษยธรรม ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม พฤติการณ์แห่งคดีจึงเป็นเรื่องร้ายแรง แม้จำเลยชดใช้ความเสียหายเพื่อบรรเทาผลร้าย ก็ไม่เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะลดโทษได้ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้ “ประหารชีวิต” จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้นำตัวอดีต ผอ.กอล์ฟ ไปควบคุมไว้ เพื่อนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำกลางบางขวางต่อไป
มีรายงานว่า วันนี้ศาลเบิกตัวนายสิทธิชัย หรืออดีต ผอ.กอล์ฟ มาที่ศาล ก่อนอ่านพิพากษานายประสิทธิชัยมีโอกาสพูดคุยกับบิดามารดาสั้น ๆโดยบ่นว่าแว่นสายตาที่ใช้อยู่ สภาพไม่ทนทานอยากเปลี่ยนแว่นใหม่ โดยผู้สื่อข่าวสอบถามว่าอยู่ในเรือนจำทำอะไรบ้าง ผอ.กอล์ฟกล่าวว่า สอนหนังสือให้เด็กครับ
ขณะที่ สรยุทธ สุทัศนะจินดา อ่านข่าวดังกล่าวในรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ วันที่ 27 เมษายน 2566 ตอนหนึ่งเผยว่า ตอนที่ผมเข้าไปติดคุกในเรือนจำ มีโอกาสเจอ อดีต ผอ.กอล์ฟ เข้ามา เจ้าหน้าที่ต้องควบคุมตัวเข้มข้นเลยตอนเข้ามาใหม่ ๆ ยังไม่มีการดำเนินคดี ยังไม่มีการพิพากษา เจ้าตัวจะต้องมีผู้ต้องขังด้วยกันคอยประกบ คอยดูแล แต่ดูจะไม่มีอาการเครียด
เชื่อไหมบางทีช่วงบ่าย ๆ ผมเดินออกกำลังในที่แคบ ๆ ของผม อดีต ผอ.กอล์ฟ ไปบอกใครต่อใครว่า สรยุทธเขาคงเครียดนะ เดินทั้งวันเลย คือผมไม่มีอะไรจะทำผมก็ทำใจ เดินออกกำลัง ยังมีโอกาสที่จะมาห่วงผม
แต่สุดท้ายผมเคยคุย 2-3 ครั้ง อดีต ผอ.กอล์ฟ บอกผม ไม่เป็นไรพี่ยุทธ ไม่ต้องห่วง ผมก็คงจะติดสัก 10 ปี เดี๋ยวมีลดโทษอะไรอีก ก็คงจะได้ออกไปใช้ชีวิต อายุผมยังไม่เยอะ เขาคิดอย่างนั้นจริง ๆ แต่หลังศาลพิพากษา ย้ายเรือนจำทันที (ไปอยู่บางขวาง) เห็นบอกว่าแขนตกขาตกเลย โทษประหารชีวิต พยายามจะอุทธรณ์ ฎีกา นักโทษคดีถึงที่สุดมีสิทธิ์ยื่นถวายฎีกา ถ้าถึงเวลาฎีกาไม่ตกลงมาก็ประหารชีวิต
ขอบคุณที่มา เรื่องเล่าเช้านี้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ศาลฎีกาพิพากษายืนสั่งประหาร อดีต ผอ.กอล์ฟ คลั่งฆ่าชิงทองในห้างดังที่ลพบุรีปี 63
- ย้อนรอย…โจรเหี้ยม!! จากผู้อำนวยการโรงเรียนสู่ฆาตกรโหด 3 ศพ
- เปิดแผนล่า ‘ผอ.กอล์ฟ’ โจรเหี้ยมชิงทอง แรงจูงใจฆ่า-เครียดปัญหาชีวิต
