General

‘จุดความร้อน’ ในไทย ยังพุ่งสูงแตะ 5.3 พันจุด ป่าอนุรักษ์พบสูงถึง 3 พันจุด

“จุดความร้อน” ในไทย ยังพุ่งสูงแตะ 5.3 พันจุด ป่าอนุรักษ์พบสูงถึง 3 พันจุด

GISTDA สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของวันที่ 27 มีนาคม 2566 ไทยพบจุดความร้อน 5,396 จุด  เพื่อนบ้านอย่างพม่ายังครองแชมป์อยู่ 6,877 จุด, สปป.ลาว 4,076 บาท, กัมพูชา 739 จุด, เวียดนาม 626 จุด และ มาเลเซีย 16 จุด

จุดความร้อน

ป่าอนุรักษ์ยังเป็นพื้นที่ที่พบมากสุด

สำหรับจุดความร้อนในประเทศไทย ส่วนใหญ่พบในพื้นป่าอนุรักษ์ 3,024 จุด, พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 1,790 จุด, พื้นที่เกษตร 251 จุด, พื้นที่ชุมชนอื่นๆ 167 จุด , พื้นที่เขต สปก. 157 จุด , และพื้นที่ริมทางหลวง 7 จุด

ในส่วนของจังหวัดที่พบจุด ความร้อนมากที่สุด 3 อันดับ คือ น่าน 555 จุด แม่ฮ่องสอน 429 จุด และ อุตรดิตถ์ 382 จุด

จุดความร้อน

เฝ้าระวัง PM2.5 ข้ามแดน

สิ่งหนึ่งที่ต้องเฝ้าระวังที่มักจะมากับเหตุการณ์ไฟป่าและจุด ความร้อน คือ PM 2.5 สถานการณ์การจุด ความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้าน อาจส่งผลให้เกิด PM 2.5 ได้ในพื้นที่บริเวณชายแดน เนื่องจากได้รับอิทธิพจากประแสลมที่จะพัดผ่านเข้ามา ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ส่งผลกระทบให้กับระบบต่างๆ ของประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม

ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THEOS-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 1 ในภารกิจสำคัญของระบบนี้ คือการสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้น ได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำ เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม รายละเอียดข้อมูลเฉพาะพื้นที่ท่านสามารถติดตามจากหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรงได้ GISTDA ยังคงติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่

จุดความร้อน

ช่องทางติดตามข้อมูล

สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://fire.gistda.or.th

หรือ ติดตามข้อมูลจาก https://fire.gistda.or.th/dashboard.html

และควรติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ผ่านแอปพลิเคชัน “#เช็คฝุ่น”

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo