General

‘เด็กอ้วน’ เสี่ยงเป็น ‘ผู้ใหญ่อ้วน’ 5 เท่า ต้องจ่ายเงินดูแลสุขภาพสูงถึง 1.2 หมื่นล้าน

“เด็กอ้วน” เสี่ยงเป็น “ผู้ใหญ่อ้วน” 5 เท่า ต้องจ่ายเงินดูแลสุขภาพสูงถึง 1.2 หมื่นล้าน กรมอนามัย จับมือโรงเรียน ชุมชน ครอบครัว แก้ปัญหา

กรมอนามัย เผยเด็กอ้วนในวัยเรียนมีผลกระทบต่อทั้งร่างกาย จิตใจ และสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสี่ยงต่อภาวะบกพร่องด้านสติปัญญา และการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง

เด็กอ้วน

เด็กอ้วนมีแนวโน้มเป็นผู้ใหญ่อ้วนถึง 5 เท่า มูลค่าต้นทุนทางเศรษฐกิจที่เกิดจากโรคอ้วนของประเทศไทยสูงถึง 12,142 ล้านบาท โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพ และการสูญเสียเงินได้จากการตายก่อนวัยอันควร

ซึ่งประเทศไทยมีความพยายามแก้ไขปัญหาเด็กเริ่มอ้วนและอ้วนอย่างต่อเนื่อง ทั้งการส่งเสริมสุขภาพ และสนับสนุนให้มีสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพที่ดี แต่ภาวะเริ่มอ้วนและอ้วนในเด็กวัยเรียนยังคงมีแนวโน้มที่เพิ่มมากขึ้น

เด็กอ้วน

เกิดจากวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป

ดร.นายแพทย์สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยในการสัมมนาวิชาการ เรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการลดน้ำหนักในเด็กวัยเรียน ณ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ว่า สาเหตุของโรคอ้วนในเด็กส่วนใหญ่ เกิดจากวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป การตลาดอาหารที่มีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อสินค้า ขาดการจัดการสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเลือกกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เลือกกินอาหารที่ให้พลังงานสูง

สถานที่ออกกำลังกายไม่เพียงพอ ออกกำลังกายน้อยลง มีพฤติกรรมเนือยนิ่งเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เด็กมีน้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้นจนเป็นโรคอ้วน

ดร.นายแพทย์สราวุฒิ กล่าวต่อไปว่า แนวทางการแก้ไขเด็กนักเรียนอ้วนต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งโรงเรียน สถานบริการสาธารณสุข ครอบครัวและชุมชน โดยโรงเรียนจะต้องมีระบบเฝ้าระวังภาวะอ้วนของนักเรียน ประเมินภาวะโภชนาการและการเจริญเติบโตของเด็กทุก 3 เดือน เพื่อจัดการภาวะโภชนาการ ปรับพฤติกรรมการกิน สร้างวินัยและฝึกนิสัยการกินที่ดี

กำกับติดตามประเมินคุณภาพการจัดอาหารกลางวัน ส่งเสริมให้สถานศึกษาจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ ผลักดันการเรียนการสอนด้านโภชนาการผ่านกลุ่มสาระการเรียนรู้ การจัดสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการบริโภคอาหาร และมีกิจกรรมทางกายที่เหมาะสม รวมทั้งคัดกรอง Obesity sign ในเด็กที่มีภาวะอ้วน เพื่อส่งต่อการรักษาในเด็กที่พบ Obesity sign

เด็กอ้วน

ประสานความร่วมมือภาคีเครือข่ายแก้ปัญหา

ทั้งนี้ ยังต้องการความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการเข้ามาขับเคลื่อนงาน ด้วยกระบวนการแบบมีส่วนร่วม

ดังนั้น กรมอนามัยจึงต้องพัฒนารูปแบบการจัดการลดน้ำหนักในเด็ก โดยร่วมกับภาคีเครือข่าย เพื่อแลกเปลี่ยนการดำเนินงานเพื่อลดน้ำหนักในเด็กนักเรียน ทั้งในเขตเมืองและนอกเขตเมือง ซึ่งมีความแตกต่างกัน เช่น การใช้โภชนาการบำบัด การสื่อสารสร้างฝึกทักษะให้รอบรู้ หรือการสร้างเป็นโมเดลการจัดการลดน้ำหนักในเด็กวัยเรียน 3 Modules ประกอบด้วย

  1. ทักษะโภชนาการ
  2. ทักษะกิจกรรมทางกาย
  3. การจัดการพฤติกรรม

เด็กอ้วน

โดยใช้เทคนิค 3 Self ประกอบด้วย

  1. ทักษะการดูแลตนเอง
  2. ทักษะการเผชิญปัญหา
  3. การจัดสิ่งแวดล้อมที่บ้าน โรงเรียน และเครื่องมือต่างๆ เช่น คู่มือ คลิปวีดีโอ สมุดบันทึก แบบประเมินพฤติกรรม

มุ่งหวังให้โรงเรียน สถานบริการสาธารณสุข ครอบครัวและชุมชน ร่วมกันแก้ไขปัญหา ให้เด็กไทยแข็งแรง มีสุขภาพดีดีต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo