เผยเยาวชนไทย 1.4 ล้านคน จัดอยู่ในกลุ่ม ‘NEET’ ไม่ได้เรียน-ไม่ได้ทำงาน เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ
วันที่ 22 มีนาคม 2566 นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมพิธีเปิดการนำเสนอผลการศึกษา “งานวิจัยเชิงลึกเกี่ยวกับเยาวชนที่ไม่ได้อยู่ในการทำงาน การศึกษา หรือการฝึกอบรม (Youth Not in Employment, Education, or Training: NEET) ในประเทศไทย” โดยองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กระทรวงแรงงาน และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ ห้องสุรศักดิ์ บอลรูม 1 โรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร
ในการนี้ นางคยองซัน คิม ผู้อำนวยการองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย เป็นผู้กล่าวต้อนรับ และนายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เป็นผู้กล่าวเปิดงาน
ประสบปัญหาการสำเร็จการศึกษา และเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ระบบการทำงาน
ปัจจุบันเยาวชนไทยจำนวนมากกำลังประสบปัญหาทั้งเรื่องการสำเร็จการศึกษา การเปลี่ยนผ่านจากระบบการศึกษาเข้าสู่การทำงาน หรือการหางานที่ดี ดังจะเห็นได้จากจำนวนเยาวชน (อายุระหว่าง 15 ถึง 24 ปี) ที่ไม่ได้อยู่ในการทำงาน การศึกษา หรือการฝึกอบรม (Youth Not in Employment, Education, or Training: NEET)
ซึ่งข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่าเยาวชนไทยจำนวน 1.4 ล้านคนจัดอยู่ในกลุ่ม NEET โดยจากเยาวชนชายและหญิงทั้งหมดที่มีอายุระหว่าง 15 ถึง 24 ปี พบว่ามีเยาวชนชาย NEET 10% และเยาวชนหญิง NEET 19%
นอกจากนี้ จำนวนเยาวชนในกำลังแรงงานก็ลดลงจากเดิม 4.8 ล้านคนในปี 2554 เหลือ 3.7 ล้านคนในปี 2564 และมีอัตราการว่างงานเยาวชนเพิ่มขึ้น โดยอัตราการว่างงานของผู้สำเร็จการศึกษาในระดับอุดมศึกษายังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในไตรมาสที่สองของปี 2564 มีผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีว่างงานมากถึง 290,000 คน
ปัญหาเยาวชน NEET เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ
การที่เยาวชนในประเทศไทยเป็น NEET เพิ่มมากขึ้นนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ทางสังคมและเศรษฐกิจที่น่ากังวล เยาวชน NEET มีความเสี่ยงสูงที่จะยากจนและถูกกีดกันทางสังคม เนื่องจากเยาวชนเหล่านี้มักขาดวิธีการพัฒนาทักษะและความสามารถของตน
ปัญหา NEET ยังเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขัดขวางความสามารถในการผลิตและความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน
ด้วยเหตุนี้ การพัฒนาโอกาสในการจ้างงาน การศึกษา และการฝึกอบรม ตลอดจนการส่งเสริมให้สังคมยอมรับเยาวชนด้อยโอกาส จึงเป็นนโยบายที่มีความสำคัญสำหรับรัฐบาลไทย หากต้องการพัฒนาเป็นประเทศที่มีรายได้สูง
การแก้ปัญหาช่องว่างด้านข้อมูลเกี่ยวกับเยาวชน NEET เป็นก้าวแรกในการพัฒนานโยบายการให้ความช่วยเหลือที่เหมาะสมและเจาะจงที่กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการความช่วยเหลือ
แต่ทว่า NEET มิใช่ประชากรที่เป็นกลุ่มที่มีลักษณะร่วมกัน กล่าวคือ ประชากรกลุ่มนี้ ประกอบด้วยเยาวชนที่ต้องออกจากโรงเรียนก่อนกำหนด เยาวชนว่างงานที่กำลังหางานทำ เยาวชนที่นิ่งเฉยหรือท้อแท้ ตลอดจนเยาวชนที่อยู่นอกตลาดแรงงานด้วยสาเหตุอื่น เช่น ต้องทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลครอบครัว แม่วัยรุ่น หรือเยาวชนผู้พิการ เป็นต้น ด้วยเหตุนี้จึงต้องการความช่วยเหลือแตกต่างกันเพื่อแก้ปัญหาความเปราะบางในแต่ละประเภท
อย่างไรก็ตาม การขาดแคลนข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลเชิงคุณภาพ เป็นอุปสรรคในการศึกษาสถานการณ์และความเป็นมาของกลุ่ม NEET ในประเทศไทยให้เกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ซึ่งข้อมูลเชิงคุณภาพนี้เป็นปัจจัยที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการออกแบบนโยบายและการบริการต่าง ๆ เพื่อขจัดปัญหาที่ทำให้เยาวชนกลายเป็นเยาวชน NEET
นำเสนอผลการวิจัย เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหา
ฉะนั้น เพื่อปิดช่องว่างเกี่ยวกับความรู้ในเรื่อง NEET นี้ โครงการวิจัยเชิงลึกเกี่ยวกับเยาวชนที่ไม่ได้อยู่ในการทำงาน การศึกษา หรือการฝึกอบรม (Youth Not in Employment, Education, or Training: NEET) ในประเทศไทย จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอภาพรวมเกี่ยวกับเยาวชน NEET ในประเทศไทยให้รอบด้าน
นอกจากนี้ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่ทำให้เยาวชนถูกกีดกันออกจากระบบการศึกษาและตลาดแรงงาน รวมทั้งระบุหาช่องว่างในนโยบายและบริการที่มีอยู่ ตลอดจนให้ข้อเสนอแนะในการพัฒนาแนวทางการช่วยเหลือที่มีประสิทธิภาพ เพื่อลดประชากรเยาวชน NEET
สำหรับการจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์สองประการ คือ
- เพื่อนำเสนอผลการวิจัยเชิงลึกเกี่ยวกับเยาวชนที่ไม่ได้อยู่ในการทำงาน การศึกษา หรือการฝึกอบรม (NEET) ในประเทศไทยให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียของประเทศ (รัฐบาล องค์กรประชาสังคม องค์กรระหว่าง ประเทศ ภาคเอกชน นักวิชาการ และเยาวชน)
ผลการวิจัยดังกล่าวได้แก่ภาพรวมของปรากฏการณ์ NEET ในประเทศไทย รวมทั้งองค์ประกอบ สาเหตุ ปัจจัยความเสี่ยง และตัวขับเคลื่อนประชากรเยาวชนกลุ่ม NEET ในประเทศไทย รวมทั้งนโยบายและข้อเสนอแนะ
- เพื่อแบ่งปันความรู้และแนวปฏิบัติที่ดีจากประเทศในทวีปยุโรปที่ประสบความสำเร็จในการให้บริการแบบบูรณาการแก่เยาวชน NEET
โดยเป้าหมายสูงสุดในการจัดงาน คือ เพื่อให้มีการพูดคุยและการแบ่งปันความรู้ในระดับประเทศเกี่ยวกับประเด็นปัญหา NEET และช่วยเหลือรัฐบาล ตลอดจนผู้มีส่วนได้เสียอื่นในการแก้ปัญหาของเยาวชน NEET ซึ่งมีคำถามสำคัญที่ต้องพูดคุยกันในระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ ได้แก่
- แผนกลยุทธ์ในระยะสั้นและระยะกลางเพื่อส่งเสริมความเชื่อมต่อของนโยบายและลดจำนวนเยาวชนที่เป็น NEET ในประเทศไทยคืออะไร
- ควรมีโครงสร้างหรือสถาบันใด (เช่น รัฐบาล การเมือง กฎหมาย ฯลฯ) เพื่อให้บริการแบบบูรณาการแก่เยาวชน NEET ในประเทศไทย
- ผู้มีส่วนได้เสีย เช่น รัฐบาล (ในเรื่องการศึกษา การจ้างงาน และการบริการสังคม) ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และเยาวชนควรมีบทบาทที่สำคัญอะไรบ้างในการแก้ไขปัญหา NEET
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สธ. กรมพินิจฯ และ สปสช. หนุนดูแลสุขภาพ เด็กและเยาวชน 1.2 หมื่นคน ในสถานพินิจฯ ทั่วประเทศ
- ครบรอบ 1 ปี ฟื้นความสัมพันธ์ ‘ไทย-ซาอุฯ’ ตัวเลขมูลค่าทางการค้าพุ่งกว่า 3.2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.64%
- สำเร็จ! กรมปศุสัตว์ เจรจา ‘เปิดตลาดไข่ไก่’ ไปไต้หวันได้ ‘เป็นครั้งแรก’ เดือนมี.ค. ส่งออก 5-8 ล้านฟอง