รวบคาโบกี้! สาวแสบ ‘มือทำเอกสาร’ แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ หลอกเหยื่อ สูญ 3.2 ล้าน
เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2566 พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. สั่งการให้,พ.ต.อ.คำภีร์ พรหมสนธิ รอง ผบก.สอท.3 นำกำลังจับกุม น.ส.ปณิตา (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับของ ศาลอาญา ที่ 496/2566 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566 ในความผิดฐานร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ,ร่วมกันเป็นอั้งยี่ ,ร่วมกันเป็นซ่องโจร ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ,โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ,ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน และข้อหาร่วมกันฟอกเงิน
ผู้ต้องหารายนี้ได้ร่วมกับพวก แอบอ้างเป็น ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี หลอกลวงผู้เสียหายว่า มีคนนำเอาเอกสารผู้เสียหายไปปลอมแปลงเช่ารถยนต์ และเกี่ยวข้องกับการขนย้ายยาเสพติดและฟอกเงิน ก่อนที่จะให้ผู้เสียหาย ติดตั้งแอป “DSI ปลอดภัย” พร้อมส่งลิ้งค์มาให้ผู้เสียหายติดตั้งดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น “DSI ปลอดภัย” ในโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้แสดงความบริสุทธิ์ของเส้นทางการเงินและล็อคบัญชีไม่ให้มีผู้ใดมาใช้
เมื่อเหยื่อหลงเชื่อ ติดตั้งเสร็จเรียบร้อย พบภายหลังว่าเงินหายจากบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย ทั้งสองบัญชี เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายรวม 3,291,971.80 บาท โดยระหว่างที่ทำการหลอกลวง ได้มีการวีดีโอคอลเพื่อให้เหยื่อหลงเชื่อด้วย
ต่อมา เจ้าหน้าที่สืบสวนจนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ น.ส.ปณิตา จึงติดตามจนทราบว่าโดยสารมากับรถไฟเที่ยวล่องที่ 8 (เชียงใหม่–สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์) เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวจับกุม
น.ส.ปณิตา ให้การรับสารภาพว่า ร่วมกับพวกก่อเหตุจริงโดยทำหน้าที่ฝ่ายเอกสาร ปลอมแปลงเอกสารต่างๆ เพื่อส่งไปหลอกลวงเหยื่อทางแอพพลิเคชันไลน์ ประกอบการสร้างความน่าเชื่อถือ กับการสมอ้างกับคนร้ายที่แต่งกายเครื่องแบบตำรวจ ที่วีดีโอคอลไลน์หลอกเหยื่อในขณะเดียวกัน จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.สอท.3 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ขอบคุณข้อมูล สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- หนักข้อขึ้นทุกวัน! ตำรวจไซเบอร์ เตือน ‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ อ้างอดีต รอง ผบ.ตร. ข่มขู่ให้เหยื่อโอนเงิน
- ชี้แจงความคืบหน้า ‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ เสียหายรวมกว่า 150 ล้าน