General

องค์กรวิชาชีพแพทย์ แนะวิธีดูแลตัวเองใน ‘วิกฤติฝุ่น PM2.5’

องค์กรวิชาชีพแพทย์ ออกคำแนะนำประชาชน ดูแลตัวเองอย่างไรในวิกฤติฝุ่น PM2.5″

พล...นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา เผยแพร่ ประกาศราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯ และองค์กรวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง ให้คำแนะนำประชาชนช่วงวิกฤตฝุ่น PM2.5 ระบุ ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยและองค์กรวิชาชีพที่เกี่ยวข้องออกประกาศเรื่องการปฏิบัติตัวของประชาชนในช่วงวิกฤตฝุ่น PM2.5”

วิชาชีพแพทย์

เป็นที่ทราบและตระหนักกันดีถึงพิษภัยต่อสุขภาพจากฝุ่น PM2.5 ทั้งผลเฉียบพลันและผลเรื้อรัง ไม่เฉพาะผลต่อระบบการหายใจที่เป็นช่องทาง นําพาฝุ่นเข้าสู่ร่างกายเท่านั้น ฝุ่น PM2.5 ยังมีผลต่อการเกิดโรคระบบต่าง เช่นระบบหลอดเลือดและหัวใจ ระบบประสาท หลอดเลือดสมอง และโรคไต ประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายได้มากคือ เด็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคเรื้อรัง (โรคปอด หัวใจ สมอง และไต) ในขณะที่ทุกภาคส่วนกําลัง ระดมสมองแก้ไขปัญหาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ประชาชนควรดูแลสุขภาพของตัวเองในช่วงที่ฝุ่นมีปริมาณสูง ดังนี้

1. หมั่นตรวจสอบคุณภาพอากาศจากแหล่งข้อมูลของรัฐและเอกชนอย่างสม่ําเสมอ หรือใช้เครื่องวัดปริมาณฝุ่นแบบพกพา เพื่อวางแผนกิจวัตร ประจําวันใหเ้หมาะสมและให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสสูดPM2.5โดยการจัดให้มีพื้นที่ปลอดภัย(safetyzone)

2. เมื่อค่า PM2.5 ในขณะนั้น (ค่ารายชั่วโมง) ขึ้นสูงเกินเกณฑ์ คือ

  • . สูงกว่า 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร กลุ่มเสี่ยงควรงดทํากิจกรรมกลางแจ้ง บุคคลทั่วไปควรลดและปรับเวลาทํากิจกรรมกลางแจ้ง โดยใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา
  • . สูงกว่า 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทุกคนควรงดทํากิจกรรมกลางแจ้ง ยกเว้นผู้ที่ต้องทําหน้าที่บริการสาธารณะกลางแจ้งให้ใส่หน้ากาก N95 ตลอดเวลา
  • . สูงกว่า 150 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทุกคนควรอยู่ในตัวอาคารซึ่งติดตั้งระบบระบายและฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ยกเว้นผู้ที่ต้องทําหน้าที่บริการสาธารณะกลางแจ้ง ให้ใส่หน้ากาก N95 ตลอดเวลา และจํากัดช่วงเวลาปฏิบัติงานไม่ให้ เกินครั้งละ 60 นาที

3. ขณะที่ปริมาณฝุ่นภายนอกขึ้นสูง ภายในตัวอาคารควรจัดให้มีระบบระบายและฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ

4. การออกกําลังกายสม่ําเสมอจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงลดโอกาสเจ็บป่วย แต่ขณะที่ปริมาณฝุ่นขึ้นสูงควรหลีกเลี่ยงหรือลดเวลาการออกกําลังกายกลางแจ้งตามระดับเตือนภัยในข้อ 2 หรือออกกําลังกายในร่มที่มีระบบระบายและฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ

5. ดื่มน้ําสะอาดให้เพียงพอ จะช่วยเร่งการขับฝุ่น PM2.5 ที่เล็ดลอดเข้ากระแสเลือด ออกไปทางไตในรูปของปัสสาวะได้มากขึ้น

6. การอยู่ในบริเวณที่มีต้นไม้ใบเขียว จะช่วยการดูดซับฝุ่นในอากาศได้เพิ่มมากขึ้น

ประกาศ วันที่ 10 มีนาคม .. 2566

วิชาชีพแพทย์

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo