กรมอนามัย เปิดตัว 77 สถานประกอบการ “สาวไทยแก้มแดง” พร้อมรณรงค์ทั่วประเทศ เพื่อลดปัญหาภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กในหญิงวัยเจริญพันธุ์
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุข ให้ความสำคัญต่อการพัฒนางานทางด้านสาธารณสุข ตามแนวพระราชดำริ และโครงการเฉลิมพระเกียรติ โดยร่วมกับภาคีเครือข่าย เพื่อควบคุมและป้องกันภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก และป้องกันทารกพิการแต่กำเนิดจากการขาดโฟเลตมาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ มีนโยบายเสริมธาตุเหล็กให้กับประชาชนไทยในกลุ่มต่าง ๆ ภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์ของ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้แก่ เด็กอายุ 6 เดือนถึง 5 ปี ให้ได้รับยาน้ำเสริมธาตุเหล็ก เด็กวัยเรียน อายุ 6 ถึง 12 ปี ให้ยาเม็ดเสริมธาตุเหล็ก หญิงวัยเจริญพันธุ์ ให้ยาเม็ดเสริมธาตุเหล็กและกรดโฟลิก รวมทั้งหญิงตั้งครรภ์ หญิงหลังคลอดบุตร 6 เดือน ให้ได้รับยาเม็ดเสริมไอโอดีน ธาตุเหล็ก และกรดโฟลิก
การรณรงค์สาวไทยแก้มแดงครั้งนี้ แสดงถึงพลังการบูรณางานสาวไทยแก้มแดงตั้งแต่เริ่มต้น รวมทั้งสร้างแรงกระเพื่อมให้ประชาชนรู้จักมากขึ้น โดยเฉพาะหญิงไทย ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายเข้าถึงสิทธิการรับบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค จากระบบหลักประกันสุขภาพมากขึ้น
ที่ผ่านมา ได้มีการประชาสัมพันธ์ และขับเคลื่อนผ่านสถานประกอบการ ที่เห็นความสำคัญ และสมัครใจเข้าร่วมโครงการ มากกว่า 120 แห่ง พร้อมสนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการเสริมสร้างให้คนไทยมีสุขภาวะที่ดี ส่งเสริมสุขภาพทุกกลุ่มวัยและอนามัยสิ่งแวดล้อม สร้างการเกิดและเติบโตอย่างมีคุณภาพ
นายแพทย์มณเฑียร คณาสวัสดิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากข้อมูล Health Data Center กระทรวงสาธารณสุข ปี 2566 พบว่า หญิงตั้งครรภ์มีภาวะโลหิตจาง 31.2% และหญิงวัยเจริญพันธุ์ อายุ 15 ถึง 49 ปี ที่ได้รับการคัดกรองภาวะโลหิตจาง ในขณะที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ พบภาวะโลหิตจาง 37%
ขณะที่ สมัชชาอนามัยโลก Global Nutrition Targets ได้กำหนดเป้าหมาย ลดอัตราภาวะโลหิตจางของหญิงวัยเจริญพันธุ์ลง เหลือ 50% ภายในปี 2573 ดังนั้น ประเทศไทยจึงตั้งเป้าหมายลดหญิงวัยเจริญพันธุ์ที่มีภาวะโลหิตจาง ให้ไม่เกิน 12.4%
จากข้อมูลดังกล่าว จึงต้องเร่งหามาตรการเพื่อป้องกันภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กอย่างต่อเนื่อง ผ่านการสื่อสารและรณรงค์ สาวไทยแก้มแดง รวมทั้งเปิดตัว 77 สถานประกอบการทั่วไทย มุ่งสู่สถานประกอบการสาวไทยแก้มแดงต้นแบบ
นอกจากนี้ กรมอนามัยยังได้เร่งหารือกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อปรับแนวทางการให้บริการและเพิ่มการเข้าถึงชุดสิทธิประโยชน์สำหรับหญิงวัยเจริญพันธุ์ ให้มีการจ่ายยาเม็ดเสริมธาตุเหล็กและกรดโฟลิกแก่หญิงวัยเจริญพันธุ์ อายุ 13 ถึง 45 ปี ในรายการ Fee schedule เพื่อให้หญิงวัยเจริญพันธุ์มีสุขภาพดีมากขึ้น
กรมอนามัยยังส่งเสริมให้หญิงไทยกินผัก ผลไม้ และเลือกแหล่งอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น เนื้อสัตว์ ตับ เลือด จะช่วยลดปัญหาภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก และลดความเสี่ยงของทารกพิการแต่กำเนิดซึ่งจะนำไปสู่การตั้งครรภ์อย่างมีคุณภาพ เป็นสาวไทยแก้มแดงของไทยต่อไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สธ. แจงค่าเสี่ยงภัยโควิด-ค่าเสี่ยงภัย 3 จังหวัดชายแดนใต้-การปรับลูกจ้างเป็น พกส.
- อ่านที่นี่!! วิธีเลือกคาร์ซีทให้ลูกน้อย เตรียมพร้อมก่อน พ.ร.บ.จราจรทางบก บังคับใช้
- ไขข้อข้องใจ 4 คำถาม ‘ไวรัสมาร์บวร์ก-อีโบลา’ อาการต่างกันอย่างไร ตรวจวินิจฉัยแบบไหน