“หมอแล็บแพนด้า” เฉลยทำไมตรวจสารเสพติดต้องเรียก “ฉี่ม่วง” พร้อมอัปเดตวิธีตรวจหาสารเสพติดล่าสุด 2 ขั้นตอน
เพจเฟซบุ๊ก หมอแล็บแพนด้า ของทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ชื่อดัง โพสต์วิธีการตรวจหายาเสพติด โดยระบุว่า
ทำไมจึงเรียกฉี่ม่วง??
ช่วงนี้มีข่าวยาบ้ารายวันเลย ระบาดเยอะมากจริง ๆ พระบางรูปก็ยังฉี่ม่วง ทีนี้ทำไมต้องเรียกฉี่ม่วง
ก็เพราะเมื่อก่อน เวลาตรวจจะหายาบ้า เค้าจะเอาสารเคมีมาผสมกับฉี่ของผู้ต้องสงสัย ถ้ามียาบ้า หรือเมทแอมเฟตามีน มันก็จะทำปฏิกิริยากันเปลี่ยนจากฉี่สีเหลือง ๆ ให้กลายเป็นสีม่วง ทำให้เรียกกันติดปากว่าฉี่ม่วงยังไงล่ะครับ ซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยใช้กันแล้ว
ทีนี้การตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะมันมีอยู่ 2 ขั้นตอนครับ
- ขั้นตอนแรกคือ การตรวจหาสารเสพติดเบื้องต้น
- ขั้นตอนที่สองคือ การตรวจสารเสพติดขั้นยืนยันผล
การตรวจหาสารเสพติดเบื้องต้น ก็เพื่อตรวจหาความเป็นไปได้ว่า จะมีการใช้ยาบ้าหรือไม่ หลายคนคงจะเคยเห็นนะครับ ที่มันเป็นแผ่นจุ่มลงในปัสสาวะ (Strip test) หรือแบบตลับให้หยดปัสสาวะลงไป (Cassette test) ที่ตำรวจชอบเอามาตรวจนั่นแหละ
ถึงแม้ว่าวิธีนี้จะทำง่าย รวดเร็ว ราคาไม่แพง แต่มันก็ไม่ได้ให้ผลบวกกับยาบ้าอย่างเดียว แต่มันดั๊นนนนนไปทำปฏิกิริยากับสารชนิดอื่นด้วยที่ไม่ใช่ยาบ้า ที่เขาเรียกว่าผลบวกปลอมยังไงล่ะครับ เราก็เลยต้องเอาไปตรวจขั้นตอนที่สอง คือการตรวจยืนยันผลในห้องแล็บนั่นเอง
ตัวยาที่เกิดผลบวกลวง หรือผลบวกปลอมได้แก่ ยาแก้หวัด เช่น ซูโดอีเฟดรีน ยาลดความอ้วน เช่น เฟนเทอร์มีน เฟนฟลูรามีน ยาอื่น ๆ เช่น รานิทิดีน ไดเอทิลคาร์บามาซีน เป็นต้น
สารที่บวกปลอม ๆ พวกนี้เราไม่สนใจ เราสนใจแค่เมทแอมเฟตามีน ดังนั้นเราต้องตรวจยืนยันว่ามีสารเสพติดจริงหรือไม่
การตรวจยืนยันจะใช้เทคนิคโครมาโตกราฟี (chromatography) เช่น TLC, HPLC, GC, GC-MS, LC-MS เป็นต้น
พวกนี้เป็นวิธีการตรวจที่มีความถูกต้องสูงมาก ต้องทำให้ห้องแล็บ แพง และผู้มีความรู้ความชำนาญสูงในการใช้เครื่องมือและการแปลผลครับ
อั๊ยยะ มันจะมีสาระมากเกินไปแล้วนะวันนี้ 55555
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘สมศักดิ์’ ตั้งเป้าปี 66 ยึดทรัพย์ยาเสพติด 1 แสนล้าน
- ‘หมอแล็บแพนด้า’ เตือนเชื้ออะมีบา สำลักน้ำสกปรก ลามเข้าสมองถึงตายได้
- หมอแล็บแพนด้า ชี้ ดีเจสาว ถูกมอมยา อาจมีส่วนผสมของสิ่งนี้อยู่ด้วย