สรุปน้ำท่วม 2565 และมาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาล วงเงิน 6,258 ล้าน เยียวยา 1 ล้านครัวเรือน
น้ำท่วม 2565 เตรียมแผนรับมืออย่างดี แต่ไม่รอด
ปี 2565 นับเป็นอีกปีที่ประเทศไทยเจอสถานกาณ์อุทกภัย จากพายุถล่ม ส่งผลให้หลายพื้นที่มีปริมาณน้ำฝนสะสมสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ยืนยันว่า “ไม่รุนแรงเท่าปี 2554” โดยปริมาณฝนทั้งประเทศในช่วงเดือน มกราคม–กันยายน สูงกว่าค่าเฉลี่ย 30 ปี ประมาณ 205 มิลลิเมตร คิดเป็น 16% แต่ยังต่ำกว่าในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2554 ประมาณ 92 มิลลิเมตร หรือคิดเป็น 6%
แม้รัฐบาลจะมีบทเรียนจากน้ำท่วม ปี 2554 และได้เตรียมแผนการรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็ยังมีบ้านเรือน พื้นที่ทำการเกษตร และโรงงานอุตสาหกรรมบางส่วน ที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะน้ำท่วมในครั้งนี้ ข้อมูลจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ระหว่างวันที่ 28 กันยายน – 14 ตุลาคม 2565 ฤทธิ์จาก “พายุโนรู” ทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 56 จังหวัด ทั้งภาคเหนือ อีสาน ภาคกลาง ตะวันออก และกรุงเทพฯรวม 56 จังหวัด 297 อำเภอ 1,476 ตำบล 9165 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 394,338 ครัวเรือน
ครม. เคาะช่วยน้ำท่วม วงเงิน 6,258 ล้าน เยียวยา 1 ล้านครัวเรือน!
มติคณะรัฐมนตรี (29 พฤศจิกายน 2565) เห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝนปี 2565 พร้อมอนุมัติกรอบวงเงิน 6,258.54 ล้านบาท สำหรับจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจำนวน 1,046,460 ครัวเรือน ซึ่งเป็นจำนวนครัวเรือนจากการสำรวจเบื้องต้นในพื้นที่กรุงเทพมหานครและ 66 จังหวัด ที่อยู่ในพื้นที่ได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยหรือประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉินในกรณีใด กรณีหนึ่งใน 3 กรณี ดังนี้
การจ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วมปี 2565
1. กรณีที่อยู่อาศัยประจำอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขังติดต่อกันตั้งแต่ 1 วัน (24 ชั่วโมง) แต่ไม่เกิน 7 วัน และทรัพย์สินได้รับความเสียหายหรือที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขังเกินกว่า 7 วัน แต่ไม่เกิน 30 วัน
- ให้ความช่วยเหลือครัวเรือนละ 5,000 บาท
2.กรณีที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขังติดต่อกันเกินกว่า 30 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน
- ให้ความช่วยเหลือครัวเรือนละ 7,000 บาท
3.กรณีที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขังติดต่อกันเกินกว่า 60 วัน ขึ้นไป
- ให้ความช่วยเหลือครัวเรือนละ 9,000 บาท
หลักเกณฑ์การจ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วมปี 2565
กรณีที่ 1 เป็นอุทกภัยที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อที่อยู่อาศัยในช่วงฤดูฝน ปี 2565 ตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม 2565 – 28 ตุลาคม 2565 ทั้งในกรณีน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง รวมถึงการระบายน้ำจนส่งผลกระทบให้ไม่สามารถดำรงชีวิตได้
กรณีที่ 2 เป็นที่อยู่ที่ประสบอุทกภัยตามห้วงเวลาดังกล่าวและได้รับผลกระทบในกรณีใดกรณีหนึ่ง ดังต่อไปนี้
- ที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขัง ตั้งแต่ 1 วัน (24 ชั่วโมง) แต่ไม่เกิน 7 วัน และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย
- ที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขัง เกินกว่า 7 วันขึ้นไป
หลักเกณฑ์เยียวยาเกษตรกรน้ำท่วม
ในส่วนของการช่วยเหลือเกษตรกร จะช่วยเหลือตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ อาทิ
- ข้าว 1,340 บาทต่อไร่
- พืชไร่และพืชผัก 1,980 บาทต่อไร่
- ไม้ผลไม้ยืนต้น และอื่น ๆ 4,048 บาท ต่อไร่
ประมง สัตว์น้ำ
- ปลาทุกชนิด หรือ สัตว์น้ำอื่น ไร่ละ 4,682 บาท
- กุ้งหอยทะเล ไร่ละ 11,780 บาท โดยจะช่วยเหลือไม่เกินรายละ 5 ไร่
- การเลี้ยงสัตว์น้ำในกระชัง บ่อซีเมนต์ ช่วยเหลือตารางเมตรละ 368 บาท ไม่เกินรายละ 80 ตารางเมตร
ปศุสัตว์
- โค ตัวละ 13,000-35,000 บาท
- กระบือ ตัวละ 15,000-39,000 บาท รายละไม่เกิน 5 ตัว
- สุกร ตัวละ 1,500-3,000 บาท
- แพะ/แกะ ตัวละ 1,500-3,000 บาท รายละไม่เกิน 10 ตัว
ข้อมูล กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย , กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ,เว็บรัฐบาล
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เปิดวิ่งวันนี้!! รฟท. เปิดเดินขบวนรถไฟสายใต้ตามปกติ หลังซ่อมทางน้ำท่วมเสร็จ
- ‘ซีพีเอฟ’ ร้อยเรียงความดี ช่วยชาวสงขลา ‘ส่งอาหารจากใจ สู้ภัยน้ำท่วม’
- ‘บิ๊กป้อม’ เคาะจังหวัดเร่งเยียวยาน้ำท่วม ชาวอุบล-ศรีสะเกษ ระดมแผนฟื้นฟูหลังน้ำลด