สำรวจพฤติกรรม คนไทย เว้นระยะห่างทางสังคมลดลง หมอขอความร่วมมือ เว้นระยะห่างต่อไป อย่าเพิ่งผ่อนปรน ส่วนการใส่หน้ากาก-ล้างมือบ่อยๆดีขึ้น
กรมสุขภาพจิต สำรวจชุดพฤติกรรมคนไทย ต่อมาตรการป้องกัน 3 เรื่อง แบ่งเป็นบุคลากรการแพทย์ และประชาชนทั่วไป เปรียบเทียบ 2 ช่วงเวลา สำรวจ ครั้งที่ 1 ระหว่าง 12-18 มีนาคม และครั้งที่ 2 วันที่ 30 มีนาคม – 5 เมษายน 2563
1. พฤติกรรม การเว้นระยะห่าง หลีกเลี่ยงการพูดคุย ใกล้ชิดผู้อื่น พบว่า
- บุคลากรการแพทย์ ทำมาตรการนี้เพิ่มขึ้น จากครั้งที่ 1 สัดส่วน 87.1% ครั้งที่ 2 เป็น 87.7%
- ประชาชนทั่วไป ลดลง ครั้งที่ 1 สัดส่วน 86.9% ครั้งที่ 2 สัดส่วน 82.4% ลดลง 4.5%
2.พฤติกรรมการล้างมือ พบว่า ให้ความสำคัญ ดีขึ้น ทั้ง 2 กลุ่ม
- บุคลากรการแพทย์ ครั้งที่ 1 สัดส่วน 93 % ครั้งที่ 2 97.4%
- ประชาชนทั่วไป ครั้งที่ 1 สัดส่วน 83.6% ครั้งที่ 2 สัดส่วน 87.5%
3. พฤติกรรมใส่หน้ากากอนามัย ไปที่ชุมชน พบว่า ดีขึ้นทั้ง 2 กลุ่ม
- บุคลากรการแพทย์ ครั้งที่ 1 สัดส่วน 84.3% ครั้งที่ 2 สัดส่วน 97.7%
- ประชาชนทั่วไป ครั้งที่ 1 สัดส่วน 60.7% ครั้งที่ 2 สัดส่วน 92.6%
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ย้ำว่า ประชาชน ผ่อนมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมแล้วตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน ขอความร่วมมืออย่าเพิ่งผ่อนปรนตอนนี้ ขอให้ทำต่อไปก่อน ส่วนพฤติกรรมที่ดีขึ้น คือ การใส่หน้ากากไปที่ชุมชนเพิ่มขึ้น รวมถึงการล้างมือบ่อยๆ ก็เพิ่มเช่นกัน
- อ่านกันชัดๆ!! ทำไมต้องใส่หน้ากากอนามัย ยุค ‘โควิด-19’ ระบาด
- คุ้มสุดๆ ! ใส่หน้ากาก 1 คน ลดการสูญเสียได้อย่างน้อย 1 แสนบาท
- น่ากังวล! ประชาชน ไม่ใส่หน้ากากเพิ่ม เป็น 4% หลังยอดผู้ป่วยโควิด-19 ลดลง