COVID-19

ของจริง! โฆษก’ศบค.’ ย้ำไม่ปกปิดข้อมูล ยอดป่วยโควิด-19 ลดลงต่อเนื่อง จากความร่วมมือของคนไทย

ศบค.ยืนยันซ้ำ ไม่ปิดบังข้อมูล ผู้ป่วยโควิด-19 ลดลงจริง วันนี้ ( 11 เม.ย.) ป่วยรายใหม่ เหลือ 45 ราย จากความร่วมมือของประชาชน วอนให้ละทิ้งความขัดแยัง ให้มีศัตรูเดียวกัน คือ โควิด-19 สร้างบรรยากาศความเป็นอันหนึ่งอันเดียว  แสดงพลัง ลดผู้ป่วยเหลือ”ศูนย์” ในเวลาอันสั้น ย้ำอานิสงค์ร่วมมือใส่หน้ากาก ทำป่วยไข้หวัดใหญ่ลดลงไปด้วย 

report03 016

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนยบริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวันที่ 11 เมษายน 2563 ว่า มีผู้ป่วยรายใหม่ 45 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 2,518 ราย เสียชีวิต 2 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 35 ราย

ผู้เสียชีวิตรายแรกเป็นชายไทยอายุ 46 ปี เป็นเจ้าหน้าที่โรงรับจำนำ มีภาวะอ้วน และมีโรคประจำตัว คือ ความดันโลหิตสูง ประวัติอาศัยแม่และน้องสาว ซึ่งเป็นผู้ป่วยยืนยัน เริ่มมีไข้ 39 องศา ไอ รักษาที่รพ.เอกชนในจังหวัดนนทบุรี ต่อมามีอาการเหนื่อยหอบ มากขึ้น แพทย์ใส่ท่อช่วยหายใจ และ เสียชีวิต วันที่ 9 เมษายน

รายที่ 2 เป็น ชายอายุ 65 ปี เป็นพนักงานทำความสะอาด มีประวัติสัมผัสชาวต่างชาติในกรุงเทพ เดินทางกลับบ้านที่จังหวัดพะเยา เข้ารับการรักษาที่รพ.แห่งหนึ่งด้วย อาการ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก อ่อนเพลีย วันที่ 27 มีนาคม มีอาการเหนื่อยหอบ ไม่รู้สึกตัว และเสียชีวิตในวันที่ 10 เมษายน

กราฟฟิกใหม่2

ผู้ป่วยรายใหม่ 45 คน ประกอบด้วย

  • กลุ่มสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน 23 ราย
  • ชาวต่างชาติเดินทางมาประเทศไทย 1 ราย
  • คนไทยกลับมาจากต่างประเทศอังกฤษ 2 คน
  • อาชีพเสี่ยง 1 ราย
  • บุคลากรการแพทย์ 2 ราย
  • ไปสถานที่ชุมชน 3 ราย
  • รอสอบสวนโรค 4 ราย

report04 01 1

และมีผู้ป่วยจากการเดินทางกลับจากต่างประเทศ และอยู่ใน State Quarantine 9 ราย อยู่ที่กรุงเทพ 1 รายมาจากสหรัฐ และ สงขลา 8 ราย กลับจากอินโดนิเซีย รวมกลุ่มที่กลับจากอินโดนิเซียป่วยสะสม 53 ราย จากที่เดินทางมา 70 ราย จะพบว่าแม้จะมีการตรวจแบบเร็ว หรือ Rapid Test จากอินโดนิเซีย มาแล้ว แต่เมื่อเรามาตรวจซ้ำด้วยวิธี PCR ที่ไทย เพื่อตรวจหาตัวเชื้อโรค ก็มาพบว่าติดเชื้อ นพ.ทวีศิลป์ จึงเน้นย้ำ 2 เรื่องว่า วิธี PCR เป็น Global Standard  และจากสถิติที่มีคนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศป่วยโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง กลุ่มนี้จึงต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ และวันนี้คนไทยเดินทางเข้ามาอีก 35 ราย จากรัสเซีย 34 ราย และญี่ปุ่น 1 ราย

และเพื่อหยุดการเคลื่อนย้าย ต่างด้าวที่มาทำงานในเมืองไทยทุกระดับ ตั้งแต่ผู้บริหาร ระดับปฏิบัติ ระดับแรงงาน ได้รับการอนุญาตให้อยู๋ต่อเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งกลุ่มนี้มีกว่า 1.6 ล้านราย ก็ขอให้อยู่กับที่

กราฟฟิกใหม่

Map New cases 01

สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 5 อันดับแรก อยู่ในกรุงเทพ 17 ราย สงขลา 8 ราย ปัตตานี 7 ราย ภูเก็ต 6 ราย ปทุมธานี 3 ราย ส่วนผู้ป่วยสะสม พบที่กรุงเทพ สูงสุด 1,280 ราย รองลงมาเป็นภูเก็ต 172 ราย นนทบุรี 148 ราย สมุทรปราการ 106 ราย และยะลา 77 ราย

กราฟฟิกใหม่1

 

ทางด้านอัตราผู้ป่วยสูงสุดเทียบประชากรแสนคนภูเก็ตยังสูงสุด คือ 41.61 กรุงเทพ 22.57 ยะลา 14.41 นนทบุรี 11.78 ปัตตานี 10.26  ทั้งนี้ถือว่าพื้นที่กรุงเทพ ตัวเลขผู้ป่วย มีทิศทางที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง จากหลักร้อยเป็นหลักสิบ นอกจากนี้ยังมี 9 จังหวัดไม่มีรายงานพบผู้ป่วย อยากให้จังหวัดเหล่านี้ยืนสีเขียว หรือไม่พบผู้ป่วยให้นานที่สุด

chomburi 01

นพ.ทวีศิลป์ โฟกัสจังหวัดชลบุรี มีความชุกของโรคสูง จากตัวเลขผู้ป่วยสะสม 75 ราย มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคน ที่ 4.85 จึงต้องมีมาตรการปิดสถานที่ต่างๆอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปิดสถาบันเทิง และพื้นที่เสียง เมื่อยังพบการนั่งกินดื่มคุยกัน ไม่รักษาระยะห่าง จึงต้องปิดเกาะ ปิดห้างสรรพสินค้า และ สวนสาธารณะ ปิดโรงแรม และเข้าออกเมืองพัทยา ต้องขอให้ทุกคนร่วมมือ

ทางด้านปัจจัยเสี่ยงการติดเชื้อของไทย  คือ การสัมผัสใกล้ชิดคนในบ้าน รองลงมาเป็นที่ทำงาน ดังนั้นจึงมีมาตรการช่วงสงกรานต์ออกมาเพิ่มเติม เพื่อลดการสัมผัสใกล้ชิด เพราะตอนนี้สุขภาพต้องมาก่อน สุขภาพของคนในประเทศดี จึงจะสืบสานวัฒนธรรมประเพณีได้ หากสุขภาพมีปญหา การสืบสานจากรุ่นต่อรุ่นก็ไปไม่ได้

” เราทุกคนต้องการกดกราฟผู้ติดเชื้อรายวันให้ลดลงอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้กราฟของเราเป็นเนินเตี้ย นับเป็นความสามารถของคนไทยทั้งประเทศ ทั้ง 65 ล้านคน ต้องขอให้อยู่บ้านกัน และเว้นระยะห่าง 2 เมตรต่อไป ทียบประเทศอื่นที่กราฟยังสูง โดยเฉพาะสหรัฐ รวมไปถึง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง ส่วนเกาหลีใต้ ผู้ติดเชื้อก็มากกว่าเรา”

มีตัวเลขที่น่าสนใจเมื่อเราไปดูตัวเลขผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ พบว่าน้อยลงด้วย เป็นอานิสงค์ของโควิด-19 เพราะเราใส่หน้ากากกัน เท่ากับใส่หน้ากาก ไม่ได้คุมแต่โควิด-19 เท่านั้น แต่คุมไข้หวัดใหญ่ได้ด้วย และทำให้อัตราเสียชีวิตจากปอดอักเสบก็น้อยลงด้วย ย้ำว่าเราไม่มีการปิดบังข้อมูลใดๆ ไม่มีการนำตัวเลขป่วยโควิด-19 ไปใส่ในตัวเลขผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ เราไม่ปกปิดข้อมูล เพราะเราต้องการให้ประชาชนทราบตัวเลขและข้อมูลต่างๆไปพร้อมกับเรา ยืนยันว่าตัวเลขผู้ป่วยลดลงจริง เพราะความร่วมมือ ผลจึงออกมาดี

แต่ยังมีจุดที่น่าเป็นห่วง คือ ผู้กระทำความผิดเคอร์ฟิวยังมีอยู่ต่อเนื่อง วันนี้มีการรายงานตัวเลข ออกนอกเคหสถาน 1,065 ราย และชุมนุม มั่วสุม 109 ราย 

ทางด้านของการรังเกียจผู้ติดเชื้อแม้จะหายแล้วก็ตาม ยืนยันว่า โรคนี้หายแล้วหายเลย และเมื่อหายแล้ว ยังทำให้คนนั้น มีภูมิคุ้มกัน และยังทำประโยชน์ได้ด้วย เช่น คนขับแท็กซี่ ร่างกายแข็งแรง มาบริจาคพลาสมา นำไปรักษาคนป่วย แล้วเราจะรังเกียจเขาทำไม เราต้องดึงเขาเข้ามาด้วยซ้ำ ตอนนี้สภากาชาดไทย ก็เรียกคนกลุ่มนี้เข้ามาบริจาคพลาสมา เพื่อนำไปไปรักษาคนป่วยโควิด-19 เพราะหลังจากเขาหายแล้ว เขาไม่มีความเสี่ยง กรณีที่ที่เห็นว่ามีการติดเชื้อซ้ำนั้น ต้องนับว่าเกิดขึ้นได้น้อยมาก ไม่ควรนำมาเป็นประเด็นทำให้เกิดการแบ่งแยก กีดกัน

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวในตอนท้ายระบุถึงข้อวิพากวิจารณ์ในฐานะโฆษก ศบค. ว่า ต้องขอบคุณคำแนะนำของทุกท่าน ในเรื่องวิธีการแถลงข่าว รับฟังทุกเรื่อง ต้วเองจะนำไปปรับ และทำให้ดีขึ้น เพราะคิดอยู่เสมอว่า วันพรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้ เป้าหมายของการรายงานสถานการณ์ คือ ทำให้คนทุกๆส่วนของประเทศไทย ร่วมมือกันให้ได้เกือบ 100 %

S 45359166
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน

“ผมไม่ใช่มืออาชีพ เมื่อได้รับมอบหมายก็พยายามทำให้ดีที่สุด พยายามใช้ข้อมูลทางการแพทย์เข้ามา ต้องรวบรวมข้อมูลของศูนย์ 8 ศูนย์ที่อยู่ภายใต้ศบค. และมีทุกเรื่องที่เกี่ยวข้อง ต้องนำข้อมูลต่างๆ มาแปลงเป็นชุดที่เหมาะสม และสือสารต่อประชาชน  บางเรื่องต้องเชื่อมโยง เพื่อทำตวามเข้าใจ ทีมกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรคที่ส่งข้อมูลมาให้ผม ก็ทำงานหนัก ตี 2 ตี 3 ส่งข้อมูลมาให้ตนเอง เพื่อนำไปประชุมเวลา 7.30 น.ที่กระทรวงสาธารณสุข และ 8.30 น.ที่ทำเนียบรัฐบาลทุกวัน หากติดขัดต้องขออภัย “

พร้อมย้ำว่า ความตั้งใจของเรา คือ ต้องการความมือ ของพี่น้องประชาชนทั่งประเทศ ไวรัสโควิด-19 เป็นเรื่องใหม่ ซึ่งเราต้องสู้กับไวรัสตัวเล็ก ที่เรามองไม่เห็น และเรื่องต่างๆภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ต้องตัดสินใจโดยเร็ว แต่ปรับปรุงแก้ไขได้ ขอให้เรามาช่วยกันสร้างบรรยากาศ ให้ทั้งโลก เห็นว่าเราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ละทิ้งตวามขัดแย้ง มีศัตรูร่วมกัน คือ เชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เราต้องอยู่ด้วยไปอีกหลายเดือน ดึงพลังของเราออกมา ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อเหลือ “ศูนย์” ในเวลาอันสั้น

Avatar photo