COVID-19

โควิดขาลงทั่วโลก ‘WHO’ เผยประเทศที่ยังมีการระบาดจาก 6 ปัจจัยต่อไปนี้

ศูนย์จีโนมฯ เผย องค์การอนามัยโลกประกาศโควิดขาลงทั่วโลก ยกเว้นหลายประเทศในแปซิฟิกตะวันตก ที่ยังระบาดสูงจาก 6 ปัจจัยหลัก

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics ระบุว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) เผยสถานการณ์โควิดทั่วโลกเริ่มคลี่คลาย ยกเว้นประเทศสิงคโปร์ เกาหลี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ โดยระบุว่า

โควิดขาลง

องค์อนามัยโลกแถลงสถานการณ์ล่าสุดการระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกเริ่มคลี่คลายต่อเนื่อง ยกเว้นหลายประเทศในภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตกอัน ได้แก่ สิงคโปร์ เกาหลี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ปัจจัยหลักน่าจะมาจากอายุขัยเฉลี่ยของประชากร (life expectancies) ที่สูงมาก

ในระยะเวลา 28 วันที่ผ่านมา 5 ใน 6 ภูมิภาคที่องค์การอนามัยโลกกำหนดแบ่งเขตมีรายงานจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รายใหม่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ยกเว้นบางประเทศในภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตกที่เพิ่มขึ้น

28 วัน

สำหรับประเทศที่มีผู้ป่วยรายใหม่มากที่สุดล่าสุด ได้แก่ เกาหลี ออสเตรเลีย สิงคโปร์ นิวซีแลนด์ และ บราซิล

ส่วนประเทศที่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่มากที่สุดล่าสุด ได้แก่ สาธารณรัฐเกาหลี ออสเตรเลีย รัสเซีย เปรู และ บราซิล

หากพิจารณาถึง 6 ปัจจัยหลักที่สนับสนุนการระบาดและเสียชีวิตของโควิด-19 กล่าวคือ

1. อัตราการฉีดวัคซีน

อัตราการฉีดวัคซีนในภูมิภาคสามารถมีอิทธิพลอย่างมากต่อจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่และผู้เสียชีวิต หากภูมิภาคใดมีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ อาจมีความเสี่ยงต่อการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วย

2. มาตรการด้านสาธารณสุข

การดำเนินการ การปฏิบัติตาม และการบังคับใช้มาตรการด้านสาธารณสุขในแต่ละภูมิภาค เช่น กินร้อน ช้อนกลาง การใส่หน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่างทางสังคม และการปิดเมือง สามารถมีผลกระทบอย่างมากต่ออัตราผู้ป่วยรายใหม่และผู้เสียชีวิต

3. สายพันธุ์

การเกิดขึ้นของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งอาจแพร่ระบาดหรือร้ายแรงกว่า อาจนำไปสู่การเพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตได้

4. ความสามารถในการติดตามผู้ติดต่อสัมผัสกับผู้ที่มีเชื้อโควิด-19 (close contact tracing) ที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้จำนวนผู้ป่วยที่รายงานเพิ่มขึ้น เนื่องจากขณะนี้ตรวจพบผู้ป่วยจำนวนมากขึ้นที่ก่อนหน้านี้ไม่สามารถระบุได้

shutterstock 1753489781

5. ความหนาแน่นของประชากร การเคลื่อนย้าย และข้อมูลประชากร

ภูมิภาคที่มีความหนาแน่นของประชากรสูง หรือการเคลื่อนย้ายของประชากรในระดับสูงสามารถสัมผัสกับการแพร่กระจายของไวรัสได้เร็วกว่า

นอกจากนี้ ภูมิภาคที่มีประชากรสูงอายุจำนวนมากหรืออายุขัยที่สูงกว่าอาจพบผู้ป่วยหรือเสียชีวิตที่รุนแรงกว่า เนื่องจากผู้สูงอายุมักมีความเสี่ยงสูงต่อผลลัพธ์ที่รุนแรงจาก COVID-19

6. ความสามารถของระบบการดูแลสุขภาพ

ความแข็งแกร่งและความสามารถของระบบการรักษาพยาบาลของภูมิภาคอาจส่งผลต่ออัตราการเสียชีวิตจากโควิด หากระบบการรักษาพยาบาลล้มเหลว อาจนำไปสู่อัตราการเสียชีวิตที่สูงขึ้น

ที่น่าสนใจคือ ประเทศเกาหลี สิงคโปร์ นิวซีแลนด์ และ ออสเตรเลีย มีอัตราผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตรายใหม่สูงกว่าหลายประเทศทั่วโลก

แม้ว่าประเทศหล่านี้จะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว มีอัตราผู้ได้รับการฉีดวัคซีนสูงกว่าในหลายประเทศ มีมาตรการป้องกันด้านสาธารณสุขในการติดเชื้อโควิด-19 ยอดเยี่ยม มีระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (เช่นเดียวกับประเทศไทย) และมีความสามารถในการติดตามผู้ที่ติดต่อสัมผัสกับผู้ที่มีเชื้อโควิด-19 (close contact tracing ) ที่มีประสิทธิภาพ มีการระบาดของโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย XBB ที่ไม่ต่างไปจากซีกโลกอื่น และมีระบบการรักษาพยาบาลที่แข็งแกร่ง

1

ดังนั้นปัจจัยหลักที่ทำให้ประเทศเหล่านี้มีจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่และผู้เสียชีวิต สูงกว่าในหลายประเทศทั่วโลก น่าจะมีปัจจัยหลักมาจากอายุขัยเฉลี่ยของประชากร (life expectancies) สูงมาก

1. สิงคโปร์ อายุขัยเฉลี่ย 86.35 ปีสำหรับประชากรทั้งหมด, 83.65 ปีสำหรับผู้ชาย และ 89.20 ปีสำหรับผู้หญิง

2. สาธารณรัฐเกาหลี อายุขัยเฉลี่ย 85.03 ปีสำหรับประชากรทั้งหมด, 81.91 ปีสำหรับผู้ชาย และ 87.97 ปีสำหรับผู้หญิง

3. ออสเตรเลีย อายุขัยเฉลี่ย 83.8 ปีสำหรับประชากรทั้งหมด, 81.52 ปีสำหรับผู้ชาย และ 86.21 ปีสำหรับผู้หญิง

4. นิวซีแลนด์ อายุขัยเฉลี่ย 82.21 ปีสำหรับประชากรทั้งหมด, 80.50 ปีสำหรับผู้ชาย และ 84.00 ปีสำหรับผู้หญิง

5. ประเทศไทย อายุขัยเฉลี่ย 75.3 ปีสำหรับประชากรทั้งหมด, 72.4 ปีสำหรับผู้ชาย และ 78.3 ปีสำหรับผู้หญิง

6. บราซิล อายุขัยเฉลี่ย 72.8 ปีสำหรับประชากรทั้งหมด, 69.6 ปีสำหรับผู้ชาย และ 76.0 ปีสำหรับผู้หญิง

7. รัสเซีย อายุขัยเฉลี่ย 72.99 ปีสำหรับประชากรทั้งหมด, 67.62 ปีสำหรับผู้ชาย และ 78.15 ปีสำหรับผู้หญิง

8. เปรู อายุขัยเฉลี่ย 75.5 ปีสำหรับประชากรทั้งหมด, 72.5 ปีสำหรับผู้ชาย และ 78.5 ปีสำหรับผู้หญิง[6]

ดังนั้น จึงเป็นยืนยันว่ากลุ่มเปราะบาง 608 จึงควรรับวัคซีนครบโดส และได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น ตามเวลาที่กำหนด

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo