ศูนย์จีโนมฯ เผย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้องระวัง WHO ระบุ ติดเชื่อรายใหม่เพิ่มขึ้น 666% เสียชีวิต 305% ในรอบ 28 วัน
ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics ระบุว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานล่าสุดถึงจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้ชีวิตทั่วโลกเนื่องจากโรคโควิด-19 ได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญต่อเนื่องในช่วง 28 วันที่ผ่านมา (8 พ.ค. ถึง 4 มิ.ย. 2566)
เว้นแต่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ยังมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในรอบ 28 วันเพิ่มขึ้น +666% (2.75 เท่า) และผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น +305%(1.63 เท่า)
โดยเห็นแนวโน้มของโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย XBB.1.16*,XBB*,XBB.1.9.1*,XBB.1.9.2* ที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่โอไมครอนสายพันธุ์ย่อย XBB.1.5* แสดงแนวโน้มที่ลดลงในช่วงเวลาการรายงาน
เนื่องจากไทยเราอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้นไม่ควรประมาณหากท่านเป็นกลุ่มเปราะบางควรป้องกันตนเองด้วยการ กินร้อน ช้อนกลาง สวมใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลหากต้องเข้าไปอยู่ในกลุ่มคนแออัด พิจารณาฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นหากเคยรับวัคซีนเข็มสุดท้ายมานานกว่า 6-12 เดือน และหากมีการติดเชื้อควรเข้าถึงยาต้านไวรัสโดยเร็วหลัง ATK ให้ผลบวก หรือ เริ่มมีอาการ
รายละเอียด
- WHO รายงานว่ามีผู้ป่วยรายใหม่กว่า 7 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 10,000 คนทั่วโลกในช่วง 28 วันที่ผ่านมา (8 พ.ค. ถึง 4 มิ.ย. 2566)
โดยจำนวนผู้ป่วยทั่วโลกลดลง 38% และเสียชีวิตลดลง 47% เมื่อเทียบกับ 28 วันก่อนหน้า (10 เมษายน ถึง 7 พฤษภาคม 2566)
รายละเอียดในระดับประเทศ
จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุดใน 28 วันได้รับรายงานจาก:
- สาธารณรัฐเกาหลี: ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 470,093 ราย; เพิ่มขึ้น +29%
- ออสเตรเลีย: ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 147,684 ราย; เพิ่มขึ้น +27%
- บราซิล: ติดเชื้อรายใหม่ 113,286 ราย; ลดลง -33%
- ฝรั่งเศส: ติดเชื้อรายใหม่ 93,850 ราย; ลดลง-46%
- สหรัฐอเมริกา: ติดเชื้อรายใหม่ 93,260 ราย; ลดลง -75%
- จำนวนผู้เสียชีวิตรายใหม่สูงสุดใน 28 วันได้รับรายงานจาก:
- สหรัฐอเมริกา: ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 1,943 ราย; ลดลง -58%
- บราซิล เสียชีวิตเพิ่ม 1,074 ราย; ลดลง -16%
- ฝรั่งเศส: เสียชีวิตรายใหม่ 555 ราย; ลดลง -41%
- อิตาลี เสียชีวิตเพิ่ม 549 ราย ลดลง -17%
- สหพันธรัฐรัสเซีย: ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 532 ราย; ลดลง -44%
การกลายพันธุ์
- ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคมถึง 23 เมษายน 2566 มีการอัปโหลดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมของ SARS-CoV-2 จำนวนทั้งสิ้น 35,474 ตัวอย่างจากทั่วโลกแชร์บนฐานข้อมูลโควิดโลก “จีเสส (GISAID)”
- องค์การอนามัยโลกกำลังติดตามเชื้อโอไมครอนสายพันธุ์ย่อยที่น่าสนใจ (VOI: variant of interest) สองสายพันธุ์ย่อยคือ XBB.1.5 และ XBB.1.16
- องค์การอนามัยโลกกำลังตรวจสอบ (VUM: variant under monitoring) โอไมครอนเจ็ดสายพันธุ์ย่อยที่สืบทอดมา: BA.2.75, CH.1.1, BQ.1, XBB, XBB.1.9.1, XBB.1.9.2 และ XBF โดยวันที่ 26 เมษายน 2566 โอไมครอน XBB.1.9.2 ถูกปรับเข้ามาอยู่ในกลุ่มโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย VUM
- มีการรายงานโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย XBB.1.5 จาก 103 ประเทศทั่วโลก
- ในสัปดาห์ระบาดวิทยาที่ 14 (3 ถึง 9 เมษายน 2566) โอไมครอนสายพันธุ์ย่อย XBB.1.5 คิดเป็น 45.4% ลดลงจาก 49.1% ในสัปดาห์ที่ 10 (6 ถึง 12 มีนาคม 2566)
- พบ XBB.1.16 จาก 37 ประเทศ ในสัปดาห์ที่ 14 โอไมครอนสายพันธุ์ย่อย XBB.1.16 คิดเป็น 4.3% เพิ่มขึ้นจาก 1.3% ในสัปดาห์ที่ 10
ในบรรดา VUM นั้น โอมิครอนสายพันธุ์ย่อย XBB, XBB.1.9.1 และ XBB.1.9.2 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
- XBB คิดเป็น 13.3% ในสัปดาห์ที่ 14 เทียบกับ 6.6% ในสัปดาห์ที่ 10
- XBB.1.9.1 คิดเป็น 9.4% ในสัปดาห์ที่ 14 เทียบกับ 5.8% ในสัปดาห์ที่ 10
- XBB.1.9.2 คิดเป็น 2.7% ในสัปดาห์ที่ 14 เทียบกับ 1.3% ในสัปดาห์ที่ 10
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- กรมวิทย์ เผย ‘โอไมครอน XBB.2.3’ ที่ WHO จับตา พบในไทย 60 ราย หลบภูมิเก่ง ยังไม่มีข้อมูลระบาดเร็ว
- สธ. เผยแนวโน้ม ‘ติดเชื้อโควิด’ เพิ่มขึ้น ย้ำมาตรการ 2 ด้าน สถานประกอบการ-ประชาชนปฏิบัติอย่างคร่งครัด
- ห่วง ‘โควิดในเด็ก’ แนวโน้มสูง โดยเฉพาะเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 1 ปีติดเชื้อสูงสุด ย้ำวัคซีนจำเป็น