COVID-19

สธ. ย้ำผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ยังเป็นกลุ่ม 608 ติดเชื้อจากครอบครัว ไม่ได้รับวัคซีนตามเกณฑ์

สธ. เผย ผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ยังเป็นกลุ่ม 608 ติดเชื้อจากครอบครัว ไม่ได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ กทม.-ปริมณฑล ระบาดสูง ขณะที่ไข้เลือดออกพบเพิ่มขึ้น

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัด กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์โรคโควิด 19 ว่า สถานการณ์การระบาดเป็นไปตามคาดการณ์ คือ หลังเทศกาลสงกรานต์ โรงเรียนเปิดเทอมและเข้าสู่ฤดูฝน จะพบผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วย และผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น

เสียชีวิตจากโควิด-19

ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยเข้ารักษาในโรงพยาบาล 2,970 ราย เฉลี่ยวันละ 424 ราย ผู้ป่วยปอดอักเสบ 425 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 253 ราย และเสียชีวิต 42 ราย เฉลี่ยวันละ 6 ราย แนวโน้มผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ลดลงจากสัปดาห์ก่อนที่มี 60 กว่าราย

ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงของผู้เสียชีวิตยังเหมือนเดิม คือ เป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง 7 โรค และหญิงตั้งครรภ์ ส่วนใหญ่ได้รับเชื้อจากคนในครอบครัวที่มีกิจกรรมนอกบ้าน

ที่สำคัญคือ เกือบทั้งหมดไม่ได้ฉีดวัคซีน ฉีดไม่ครบตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์

การฉีดวัคซีน ถือเป็นมาตรการเร่งด่วนสำหรับผู้สูงอายุ เพราะช่วยลดการป่วยและเสียชีวิตได้ ขอให้ลูกหลานพาผู้สูงอายุในบ้านไปฉีดวัคซีน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้รณรงค์การฉีดวัคซีนประจำปี ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา

หากลูกหลานป่วยมีอาการทางเดินหายใจ ต้องไม่เข้าไปสัมผัสใกล้ชิดผู้สูงอายุ หรือหากจำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัย เพื่อช่วยลดความเสี่ยงการนำเชื้อไปแพร่ให้ผู้สูงอายุ

ขณะนี้ในเขต กทม.และปริมณฑล พบมีการระบาดมากกว่าพื้นที่อื่น จึงให้กรมควบคุมโรคในฐานะเลขานุการคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ทำหนังสือประสานประธานคณะกรรมการโรคติดต่อ กทม./จังหวัด ให้สำรวจผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือยังไม่ได้ฉีดวัคซีนประจำปี เพื่อเร่งรัดการฉีดวัคซีนให้มากขึ้น

สธ

จากการเฝ้าระวังสายพันธุ์ในประเทศไทย โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ XBB.1.16 ซึ่งความสามารถในการแพร่ระบาดและความรุนแรงไม่ได้มากกว่าสายพันธุ์เดิม เตียงรองรับผู้ป่วยภาพรวมทั้งประเทศและกทม. ยังคงเพียงพอ ขณะที่ยาที่ใช้ในการรักษามีเพียงพอเช่นกัน

นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า กรมควบคุมโรคได้รายงานสถานการณ์โรคไข้เลือดออก ตั้งแต่ต้นปี 2566 พบผู้ป่วยจำนวน 16,650 ราย เสียชีวิต 17 ราย คาดว่าเดือนหน้าจะมีผู้ป่วยเพิ่มสูงมากขึ้น

ทั้งนี้ เนื่องจากการสำรวจลูกน้ำยุงลาย ที่เป็นพาหะนำโรคตามบ้านเรือนประชาชนและสถานที่ต่าง ๆ พบว่า บางแห่งดัชนีลูกน้ำยุงลายสูงกว่า 50% เช่น โรงเรียน วัด สถานที่ราชการ และโรงงาน โดยจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำชับเรื่องการสำรวจและเร่งกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายต่อไป

สำหรับอาการของโรคไข้เลือดออกในช่วงแรกจะคล้ายคลึงกับโรคติดต่อทางเดินหายใจอื่น ๆ เช่น โควิด 19 ไข้หวัดใหญ่ ทำให้วินิจฉัยได้ยาก ได้กำชับให้บุคลากรทางการแพทย์ตระหนักและติดตามอาการอย่างใกล้ชิด สำหรับผู้ป่วย หากมีอาการไข้ สงสัยโรคไข้เลือดออก ขอให้ปรึกษาแพทย์

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo