POLITICS-GENERAL

ตั้งสติ !! 4 ทางรอดรับมือพายุ ‘ปาบึก’

กรมสุขภาพจิต แนะประชาชนเตรียมพร้อมรับมือพายุปาบึกอย่างมีสติ ช่วยป้องกัน-ลดความสูญเสียทั้งชีวิต ทรัพย์สิน และ ผลกระทบด้านจิตใจ โดยให้สมาชิกทุกคนในครอบครัวตั้งสติ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่ตื่นตระหนก และคำนึงถึงความปลอดภัยชีวิตไว้ก่อนเป็นอันดับแรก พร้อมติดตามข่าวสารจากทางราชการเป็นหลัก สำรองอาหารน้ำดื่มให้เพียงพอ

สำหรับผู้มีโรคประจำตัว ขอให้จัดเตรียมยาประจำตัวไว้ใกล้ตัว โดยเฉพาะผู้ป่วยจิตเวช ระมัดระวังการขาดยา

อธิบดีกรมสุขภาพจิต
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงผลกระทบจากพายุปาบึก ว่า กรมสุขภาพจิตมีความเป็นห่วงประชาชน เนื่องจากสถานการณ์ภัยพิบัติจากพายุ จะมีผลกระทบต่อสภาพจิตใจประชาชน ส่วนใหญ่อาจเกิดสภาวะเครียด วิตกกังวล วิธีการป้องกันผลกระทบดังกล่าวที่ดีที่สุด ทำได้โดยเตรียมความพร้อมรับมือไว้ล่วงหน้าทั้งตนเองและครอบครัว จะช่วยลดความสูญเสียต่างๆได้มาก

โดยขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากพายุในครั้งนี้ อย่าตื่นตระหนก แต่ขอให้ตั้งสติพร้อมรับมือกับผล กระทบที่จะเกิดขึ้น

ข้อปฏิบัติ 4 ประการ

  1. ผู้ที่อยู่ในพื้นที่มีโอกาสเสี่ยงภัยพิบัติจากพายุ ติดตามข่าวสารประกาศเตือนภัยจากทางราชการเป็นหลัก ระมัดระวังข่าวปลอมที่อาจก่อให้เกิดความตื่นตระหนก เพื่อลดความวิตกกังวล และวางแผนรับมือได้อย่างเหมาะสม
  2. ตั้งสติ อย่าตกใจ และให้คิดถึงความปลอดภัยของชีวิตและคนในครอบครัวไว้ก่อน เนื่องจากเป็นภัยที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ โดยให้เตรียมความพร้อมร่วมกันในครอบครัว จัดลำดับความสำคัญเร่งด่วนของปัญหา เรียงจากมากไปหาน้อย แก้ไปทีละข้อ จัดเตรียมสำรองเทียนไข ไฟฉาย อาหารแห้ง และน้ำดื่มให้เพียงพออย่างน้อย 3 วัน กำหนดหน้าที่ของคนในครอบครัว และช่วยเหลือกัน
    และวางแผนการขนย้ายผู้ที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้หรือได้น้อย เช่น ผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ ผู้พิการ รวมทั้งสิ่งของจากบ้านเรือนไว้ให้พร้อม การวางแผนโดยมีสตินั้นจะช่วยลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินลงได้มาก และผลกระทบด้านจิตใจจะลดน้อยลงได้
  3. สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวทุกโรค ขอให้จัดเตรียมยาที่กินประจำไว้ใกล้ตัว เพื่อหยิบง่ายในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน โดยเฉพาะผู้ป่วยจิตเวช ควรระมัดระวังการขาดยา เพราะอาจทำให้อาการจะกำเริบระหว่างที่รับมือกับภัยพิบัติครั้งนี้ แนะนำให้ครอบครัวผู้ป่วยช่วยตรวจสอบจำนวนยา หากพบยาใกล้หมด หรือยากินสูญหาย อาจไม่ต้องรอให้มีอาการป่วยก่อน ควรรีบแจ้งสถานพยาบาล หรืออาสาสม้ครสาธารณสุข (อสม.) ที่อยู่ใกล้บ้าน
    การได้รับยาต่อเนื่องจะทำให้ผู้ป่วยสามารถควบคุมอาการให้เป็นปกติได้ เพราะการปล่อยให้อาการกำเริบบ่อยๆ อาจส่งผลเสียเกิดอาการทางจิตรุนแรงขึ้นได้ และการรักษาจะยุ่งยากขึ้นในภายหลัง
  4. จดเบอร์ฉุกเฉินของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะด้านสุขภาพและความปลอดภัยไว้ติดตัว ได้แก่ สายด่วนสุขภาพจิต 1323, สายด่วนกู้ชีพ 1669, สายด่วนนิรภัย 1784 ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อสามารถโทรขอรับความช่วยเหลือได้ทันทีหากเกิดภาวะจำเป็นเร่งด่วน

สำหรับการเตรียมความพร้อมให้การดูแลจิตใจประชาชนในพื้นที่ประสบภัย ทางกรมสุขภาพจิตได้ให้โรงพยาบาลจิตเวช และศูนย์สุขภาพจิตที่เกี่ยวข้อง เตรียมทีมสุขภาพจิตเอ็มแคท (Mental Health Crisis Assessment and Treatment Team ;MCATT) เตรียมปฏิบัติการสนับสนุนการดำเนินการร่วมกับทีมสุขภาพจิตเอ็มแคทของสถานพยาบาลในเขตสุขภาพ ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมเวชภัณฑ์ยารักษา และการเยียวยาด้านอารมณ์จิตใจ สนับสนุนการปฏิบัติงานของทีมสุขภาพจิตเอ็มแคทเครือข่ายของโรงพยาบาลที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยอย่างใกล้ชิด

Avatar photo