POLITICS-GENERAL

’ชูวิทย์’ ชี้คดี ‘ตู้ห่าว’ สะเทือนวงการยุติธรรม

“ชูวิทย์” ชี้คดีทุนจีนสีเทาสะเทือนวงการยุติธรรม แจงยิบใครทำหน้าที่อะไรบ้าง ลั่นหากตู้ห่าว” หลุดคดี มีคนได้พังกันเป็นแถบๆ

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ผู้เปิดโปงเครือข่ายแก๊งนายทุนจีนสีเทา “ตู้ห่าว” ได้โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ”คดีตู้ห่าว สะเทือนวงการยุติธรรม” โดยระบุว่า คดีใหญ่ระดับประเทศเกิดขึ้นจากประกายไฟของ “จินหลิง” ขยายผลไปถึงทุกวงการของกระบวนการยุติธรรม ผมต้องการให้สังคมได้รับรู้การทำงานทุกขั้นตอนที่ไม่มีปรากฏในสื่อ

ชูวิทย์

โดยวันนี้ ขอทำความเข้าใจว่า ใครทำอะไร?

– ตำรวจ โดยมี ผบช.น. เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน ทำคดีจินหลิง และการขยายผลที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่า ท็อปวัน คลับวันพัทยา ที่รองโจ๊กจับมา เพื่อนำรวบรวมไว้ในสำนวน

– อัยการสูงสุด สั่งตั้งคณะทำงานตามที่ผมร้องกับท่านไว้ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม แต่เมื่อผมเป็นเพียงบุคคลธรรมดา จึงให้ทาง บชน. ตั้งเรื่องส่งให้อัยการสูงสุด และได้ให้ตั้งคณะทำงาน มี ผบ.ตร. และ ผบช.น. ร่วมคณะในการพิจารณาว่าเป็นคดี “อาชญากรรมข้ามชาติ” หรือไม่?

โดยวันนี้ มีการประชุมนัดแรก

อย่างไรก็ดี คดีจินหลิง ผบช.น. รับแยกออกไป และสำนวนจะหมดเวลานับจากวันที่ 26 ตุลาคม 65 จะสิ้นสุดครบ 7 ฝาก 84 วัน ประมาณวันที่ 13 มกราคม 66 ดังนั้น กรุณาอย่าหยุดปีใหม่ ทำ 9 โมงเช้า ถึง 4 ทุ่ม ทุกวัน เพราะเวลาเหลือน้อยเต็มที ขอให้กำลังใจตำรวจทุกท่านในทีมเพราะอัยการต้องสั่งฟ้องคดีให้ทัน ไม่งั้นนายตู้ห่าวหลุดระยะเวลาฝากขัง หากฟ้องไม่ทัน 13 มกราคม 66 ส่วนคดีอาชญากรรมข้ามชาติ ยังสามารถขยายเวลาได้

ชูวิทย์

ผมได้ยื่นร้องต่ออัยการสูงสุด และรองอัยการสูงสุด ท่านสมเกียรติ ไว้ ขอเข้าร่วมชี้แจงขอเท็จจริง กรณีนายตู้ห่าว และคดีอาชญากรรมข้ามชาติ โดยผมมีข้อมูลที่ไม่ได้เปิดเผยอีกมาก อันเป็นการจัดการ สั่งการ ช่วยเหลือ ยุยง อำนวยความสะดวก ให้คำปรึกษาในการกระทำผิดขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

– ดีเอสไอ วันนี้มีการออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด 21 บริษัทของนายตู้ห่าว โดยดีเอสไอทำงานรวดเร็ว ขยายผลไปได้อีก จนพบถึง 40 บริษัท ที่เกี่ยวข้องกับตู้ห่าว

เริ่มวันที่ 3 มกราคม 66 ระฆังดัง หมายเรียกมารายงานตัวกับดีเอสไอ ให้ปากคำคดีฟอกเงิน นอมินี เส้นทางการเงินพัวพันถึงใคร ต้องเรียกมาสอบให้หมด และหากพบหลักฐานเกี่ยวข้อง ต้องแจ้งดำเนินคดีข้อหา “สมคบฟอกเงิน”

ผมขอย้ำตรงนี้ว่า ไม่ได้มีอะไรขัดแย้งกับท่าน ผบช.น. แต่อย่างใด การติของผมนั้น เป็นเพื่อก่อ ไม่ใช่ทำลาย เราต้องผนึกกำลังกำจัดพวก “เนรคุณประเทศ” ที่ให้ร่มเงาอาศัยแล้ว กลับ “กินบนเรือน แต่ไปขี้รดบนหลังคา”

ผมได้พยายามอย่างยิ่งในฐานะประชาชน ที่ไม่มีอำนาจ ไม่มีตำแหน่งแห่งหน จึงย่อมมีข้อจำกัดมากมาย แต่จากประสบการณ์โดนคดีมาแล้วเกือบ 20 คดี ติดคุก 3 รอบ ลูกเล่นต่างๆ ได้เรียนรู้ จึงพยายามสุดความสามารถ ดักทางอุดรูรั่วเท่าที่ทำได้ ท่าน ผบช.น. ทำงานของท่านให้ดีที่สุด เพราะหากนายตู้ห่าวหลุดคดีล่ะก็ มีคนได้พังกันเป็นแถบๆ

ขอบคุณข้อมูล ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo