“F.A.S.T” 4 สัญญาณเตือน “โรคหลอดเลือดสมอง” ลดความเสี่ยงเป็นอัมพาต กรมควบคุมโรค แนะ 8 วิธีป้องกัน
รายงานขององค์การอัมพาตโลก (WSO) พบว่า “โรคหลอดเลือดสมอง” เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 2 ของโลก พบผู้ป่วยจำนวน 80 ล้านคน ผู้เสียชีวิตประมาณ 5.5 ล้านคน และยังพบผู้ป่วยใหม่ถึง 13.7 ล้านคนต่อปี
และ 1 ใน 4 เป็นผู้ป่วยที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป และ 60% เสียชีวิตก่อนวัยอันควร นอกจากนี้ ยังได้ประมาณการความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมองในประชากรโลกปี 2562 พบว่า ทุกๆ 4 คน จะป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมอง 1 คน อย่างไรก็ตาม 80% ของประชากรโลกที่มีความเสี่ยง สามารถป้องกันได้
สำหรับประเทศไทย จากรายงานข้อมูลย้อนหลัง 5 ปี ของกองยุทธศาสตร์และแผนงาน กระทรวงสาธารณสุข พบว่า จำนวนผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ตั้งแต่ปี 2556-2560 มีแนวโน้มสูงขึ้น ในปี 2559 พบผู้ป่วย 293,463 รายปี 2560 พบผู้ป่วย 304,807 ราย จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองปีละประมาณ 30,000 ราย
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า อัมพาต หรือ โรคหลอดเลือดสมอง เป็นภาวะที่สมองขาดเลือดหล่อเลี้ยง ทำให้มีอาการชาที่ใบหน้า ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด แขน ขา ข้างใดข้างหนึ่งอ่อนแรง เคลื่อนไหวไม่ได้ แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่
1.หลอดเลือดสมองตีบ หรือตัน
2.หลอดเลือดสมองแตก
ทั้งนี้จากข้อมูลจะเห็นได้ว่าโรคหลอดเลือดสมองเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของประเทศไทย สามารถเกิดได้กับประชาชนทุกกลุ่มวัย และปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญในการเกิดโรคได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ภาวะโรคหัวใจ ไขมันในเลือดสูง สูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น
กรมควบคุมโรค เห็นถึงความสำคัญของปัญหาโรคหลอดเลือดสมอง จึงได้กำหนดคำขวัญการรณรงค์วันอัมพาตโลกในวันที่ 29 ตุลาคม 2562 คือ “อย่าให้ อัมพฤกษ์ อัมพาต…เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตคุณ” เพื่อให้เกิดความตระหนักในการป้องกันโรคดังกล่าว
และรู้ถึงสัญญาณเตือนของโรค คือ “F.A.S.T”
- F (Face) เวลายิ้มแล้วพบว่า มุมปากข้างหนึ่งตก
- A (Arms) ยกแขนข้างใดข้างหนึ่งไม่ขึ้น
- S (Speech) มีปัญหาด้านการพูด แม้แต่ประโยคง่ายๆ
- T (Time) เวลามีอาการเหล่านี้ ให้รีบไปโรงพยาบาลโดยด่วนภายใน 4 ชั่วโมงครึ่ง รวมการรักษา เพื่อจะได้รับการรักษาให้ทันเวลา และสามารถฟื้นฟูให้กลับมาได้เป็นปกติมากที่สุด หรือโทรสายด่วน 1669 ให้บริการฟรีตลอด 24 ชั่วโมง
นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า อัมพาต หรือโรคหลอดเลือดสมองสามารถป้องกันได้ โดยประชาชนทุกคนต้องเรียนรู้สัญญาณเตือนของการเกิดโรค และปฏิบัติตามแนวทาง เพื่อลดความเสี่ยง 8 วิธี ดังนี้
1.เลิกสูบบุหรี่
2.งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
3.กลุ่มเสี่ยงที่มีโรคประจำตัว ควรดูแลรักษาสุขภาพตามที่แพทย์แนะนำ ควรรับประทานยา และไปพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอตามแผนการรักษา
4.ควบคุมน้ำหนักตัวเองให้อยู่ในเกณฑ์
5.ออกกำลังกายวันละ 30 นาที อย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์
6.ทำจิตใจให้ผ่อนคลาย มีการจัดการความเครียดที่เหมาะสม
7.ลดอาหารหวาน มัน เค็ม และเพิ่มผัก ผลไม้
8.ตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอทุกปี อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422