อโกด้า เผยผลสำรวจวิถีท่องเที่ยวศตวรรษ 2020 เอเชียขึ้นนำ จุดหมายปลายทางยอดนิยมโลก ขณะที่ เกียวโต แซงหน้า กรุงเทพ-บาหลี แชมป์เมืองยอดนิยมของโลก เผยเทรนด์ใหม่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางภายในประเทศมากขึ้น
นายทิโมธี ฮิวจ์ส รองประธานฝ่ายพัฒนาองค์กร บริษัท อโกด้า จำกัด เปิดเผยว่า จากผลสำรวจวิถีการท่องเที่ยวในทศวรรษ 2020 พบว่า ทวีปเอเชียขึ้นแท่นอันดับ 1 ของจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวระดับโลกที่นักเดินทางจากทั่วโลกอยากเดินทางเยือน โดยมี กรุงเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น เป็นเมืองยอดนิยมอันดับ 1 ของโลกตามด้วยกรุงเทพ ประเทศไทย และเกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย
สำหรับเทรนด์การท่องเที่ยวในทศวรรษ 2020 ของประเทศไทย พบว่า คนไทยเชื่อว่าจะใช้มือถือเพื่อการเช็กอินที่พักเป็นเรื่องปกติกว่า 49% และคนไทยกว่า 39% คาดว่าจะสามารถใช้แอปพลิเคชั่นเดียวสำหรับทุกความต้องการในการเดินทางได้ โดยกว่า 36% เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการเที่ยวในประเทศมากขึ้น โดยมีกรุงเทพ, เกียวโต และภูเก็ตเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม 3 อันดับของคนไทย
ด้านนักท่องเที่ยวในฝั่งตะวันตกพบว่า นักเดินทางชาวอเมริกันและชาวอังกฤษอยากไปท่องเที่ยวที่มหานครนิวยอร์กมากที่สุดในทศวรรษหน้า เช่นเดียวกับนักเดินทางจากประเทศออสเตรเลีย ประเทศญี่ปุ่น และประเทศเกาหลีใต้ที่ให้ความสำคัญกับนิวยอร์ก ขณะที่นักเดินทางทั้งชาวมาเลเซียและอินโดนีเซียต่างมีความต้องการอยากไปเยือนกรุงมักกะฮ์ให้ได้ก่อนปี 2573
ทั้งนี้ ในทศวรรษหน้านักเดินทางอายุ 35-44 ปี และมากกว่า 55 ปีขึ้นไปทั่วโลกมีความต้องการที่จะท่องเที่ยวในประเทศให้มากขึ้น โดยมีนักเดินทางกว่า 40% เลือกจุดหมายปลายทางในประเทศเป็น 1 ใน 3 อันดับแรกบนรายการจุดหมายปลายทางที่อยากไปในทศวรรษหน้า และอีก 35% อยากเที่ยวในต่างประเทศให้มากขึ้น
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวจากฝั่งเอเชียกว่า 50% ระบุว่า มี 3 เทรนด์ที่จะกลายเป็นเทรนด์ชั้นนำที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ได้แก่ แอปพลิเคชั่นเดียวสำหรับทุกความต้องการในการเดินทาง, การเช็กอินผ่านแอปพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ และการเดินทางโดยไม่ใช้พาสปอร์ต ในขณะที่ฝั่งสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกาที่มีเพียง 33% ที่คิดว่าเทรนด์เหล่านี้จะเป็นเรื่องปกติ
แนวโน้มดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชั่นการท่องเที่ยวและสัญญาณการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ดีขึ้น ส่งผลให้นักเดินทาง โดยเฉพาะนักเดินทางชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความคาดหวังเกี่ยวกับการท่องเที่ยวมากขึ้น ตั้งแต่การลดเวลาเข้าคิวเช็กอินที่ล็อบบี้ ไปจนถึงการลดภาระที่จะต้องถือพาสปอร์ตในระหว่างการเดินทาง
นายฮิวจ์ส กล่าวว่า สิ่งแวดล้อมเป็นประเด็นที่ได้รับความสำคัญมากขึ้นจากนักท่องเที่ยว โดยต้องการการเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด และประเด็นความรับผิดชอบต่อสภาพภูมิอากาศอย่างยั่งยืนในระดับโลก โดยเฉพาะนักเดินทางจากประเทศสิงคโปร์, ไทย และอินโดนีเซีย
