วัดไชยมงคล เป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมาที่เก่าแก่วัดหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี โดยเป็นวัดที่สร้างขึ้นเป็นลำดับที่ 4 ในบรรดาวัดที่สังกัดธรรมยุติกนิกายในจังหวัดอุบลราชธานี
วัดไชยมงคล เป็นวัดที่สร้างขึ้นระหว่างปี 2409-2425 โดยเจ้าพรหมเทวานุเคราะห์ หรือชื่อเดิมว่า “เจ้าหน่อคำ” พี่ชายเจ้าจอมมารดาด้วงคำ ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเจ้าพรหมเทวานุเคราะห์เป็นบุตรของเจ้าคลี่ (เจ้าเสือ) หลานปู่เจ้าอนุวงศ์ แห่งนครเวียงจันทร์ เป็นเหลนของเจ้าสิริบุญสาร ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้ครองเมืองนครจำปาศักดิ์ และเป็นต้นตระกูลพรหมโมบล
หลังจากที่พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้มีพระบรมราชโองการให้ เจ้าพรหมเทวานุเคราะห์นุสรณ์ เป็นเจ้าเมืองอุบลราชธานี องค์ที่ 4 แล้วนั้น ในปีเดียวกันได้เกิดกบฏฮ่อขึ้นที่นครเวียงจันทน์ ฝั่งประเทศลาว ซึ่งตอนนั้นแผ่นดินฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ยังเป็นประเทศราชของประเทศไทยอยู่ ซึ่งเมื่อเกิดกบฏขึ้น พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 จึงได้มีพระบรมราชโองการให้เจ้าพรหมเทวานุเคราะห์ เจ้าเมืองอุบลราชธานี ยกกองทัพไปปราบกบฏฮ่อที่นครเวียงจันทน์
เจ้าพรหมเทวานุเคราะห์ จึงได้สั่งแม่ทัพนายกองรวบรวมไพร่พลขึ้นที่ตรงวัดแห่งนี้ เพราะมีชัยภูมิที่เหมาะสม มีความร่มรื่นของต้นโพธิ์ต้นไทรงามเป็นจำนวนมาก เหมาะเป็นที่รวบรวมไพร่พล เพื่อยกกองทัพไปปราบกบฏฮ่อที่นครเวียงจันทน์
ด้วยความที่เจ้าพรหมเทวานุเคราะห์มีเชื้อสายมาจากกษัตริย์ที่เป็นนักรบ จึงปราบกบฏฮ่อสำเร็จอย่างง่ายดาย หลังเสร็จศึกจึงเดินทางกลับมาที่จังหวัดอุบลราชธานี และมีดำริที่จะสร้างอนุสรณ์สถานแห่งชัยชนะขึ้น
ท่านจึงรวบรวมพลังศรัทธาจากเหล่าข้าราชบริพาร ไพร่พล และชาวบ้านชาวเมือง สร้างวัดขึ้น ณ สถานที่เคยเป็นที่รวบรวมไพร่พลในปี 2414 โดยให้นามว่า “วัดไชยมงคล” เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะ พร้อมอัญเชิญ “พระปราบไพรีพินาศ” จากนครเวียงจันทน์ มาประดิษฐานที่วัดไชยมงคลแห่งนี้ ส่วนอีกองค์หนึ่ง คือ พระทองทิพย์ นำไปประดิษฐานไว้ที่ วัดศรีทอง (วัดศรีอุบลรัตนาราม ในปัจจุบัน)
เมื่อการสร้างวัดแล้วเสร็จ เจ้าพรหมเทวานุเคราะห์พร้อมทั้งชาวบ้านชาวเมืองได้กราบอาราธนา “เจ้าอธิการสีโห” หรือท่านอัญญาสิงห์ จากวัดศรีอุบลรัตนาราม มาเป็นเจ้าอาวาสวัดไชยมงคลรูปแรก
ที่วัดไชยมงคลแห่งนี้ ยังมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ คือ พระพุทธเจ้าใหญ่ไชยมงคลมิ่งเมือง (หลวงพ่อบุญเหลือ) และ พระพุทธนวราชบพิตร (หลวงพ่อบุญมี) ภายในพระอุโบสถ มี พระสัมมาพุทธไชยมงคล อุบลปูชนียบพิตร หรือ พระพุทธชัยมงคล เป็นพระประธาน
ชาวอุบลราชธานี เชื่อกันว่า ถ้าได้มากราบไหว้ พระพุทธชัยมงคล แล้ว จะเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง หน้าที่การงาน และธุรกิจ ด้วยเหตุผลที่ว่าในสมัยพระพรหมเทวานุเคราะห์ ได้รวมพลที่บริเวณนี้ จนได้เวลาเป็นชัยมงคล จึงเคลื่อนทัพไปช่วยปราบฮ่อที่เมืองเวียงจันทร์ จนได้รับชัยชนะกลับมา
นอกจากนี้ยังมี “ชิโนวาทสาทรนุสรณ์” เป็นวิหารหลังเล็ก ที่อยู่ด้านข้างของพระพุทธนวราชบพิตร ซึ่งเป็นที่สักการะรูปเหมือนของพระมหาอุทัย ปภสฺสโร อดีตเจ้าอาวาสวัดไชยมงคล
ที่สำคัญสายมูต้องห้ามพลาดเพราะวัดไชยมงคล ยังมีท้าวเวสสุวรรณตามสีประจำวันเกิด ทั้งยังมีองค์สีเขียวแบ่งเป็นเขียวกลางวัน และเขียวกลางคืน ทั้งยังมีพระพุทธบาทสี่รอย อยู่ในพระอุโบสถสีขาวด้วย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ศุกร์ (สุข) ละวัด ที่วัดปรางค์หลวง อายุกว่า 670 ปี ที่เมืองนนท์
- ศุกร์ (สุข) ละวัด :ที่วัดโบสถ์บน บางคูเวียง
- ศุกร์ (สุข) ละวัด พาชมศิลปะล้ำค่า ที่ ‘วัดนางนองวรวิหาร’
ติดตามเราได้ที่
เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg