วัดสุวรรณารามราชวรวิหาร หรือนิยมเรียกกันสั้น ๆ ว่า “วัดสุวรรณาราม” เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดราชวรวิหาร
ปัจจุบันวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 32 ถนนจรัญสนิทวงศ์ ตรงข้ามกับแยกบางขุนนนท์ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กทม.
วัดสุวรรณารามราชวรวิหาร เป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อ “วัดทอง” มีลักษณะเป็นลานกว้างขวาง ในสมัยกรุงธนบุรี เป็นสถานที่ซึ่ง สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี มีพระราชดำรัสให้นำเชลยศึกพม่าจากค่ายบางแก้วไปประหารชีวิต
ต่อมา พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ทรงรับเข้ามาอยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสถาปนาขึ้นใหม่ ทั้งพระอาราม และพระราชทานนามว่า “วัดสุวรรณาราม” เนื่องจากพระองค์มีพระนามเดิมว่า “ทองด้วง” เช่นเดียวกับชื่อวัด
นอกจากนี้ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ได้มีพระราชศรัทธาสร้างเมรุหลวงสำหรับใช้ในการพระราชทานเพลิงศพเจ้านาย และขุนนางผู้ใหญ่ ซึ่งตามประเพณีต้องนำไปฌาปนกิจนอกกำแพงพระนครชั้นนอก โดยเมรุหลวงนี้ใช้มาจนถึงในสมัยรัชกาลที่ 5
ในสมัยรัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์วัดสุวรรณาราม และให้ช่างเขียนภาพฝาผนังในพระอุโบสถด้วย มีงานของ หลวงวิจิตรเจษฎา (ทองอยู่) ผู้เขียนเนมิราชชาดก กับ หลวงเสนีย์บริรักษ์ (คงแป๊ะ) ผู้เขียนมโหสถชาดก ซึ่งเป็นจิตรกรขึ้นชื่อในยุคนั้นทั้งคู่
ทั้งคู่เขียนภาพด้วยวิธีประชันกัน โดยใช้ผ้าคลุมภาพเอาไว้ และเปิดออกให้เห็นเมื่องานเสร็จแล้ว นับเป็นจิตรกรรมฝาผนังในยุครัตนโกสินทร์ที่สวยงาม มีความละเอียดอ่อนของลายเส้น มีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ และมีความสมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร และประเทศไทย
พระอุโบสถของวัด สร้างตามแบบแผนศิลปกรรมสมัยรัชกาลที่ 1 มีเสาทรงสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง มีระเบียงทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ช่อฟ้าใบระกาประดับกระจก หน้าบันจำหลักลายรูปเทพนม และรูปนารายณ์ทรงครุฑปิดทอง
ภายในพระอุโบสถ นอกจากภาพจิตรกรรมฝาผนังแล้ว ยังเป็นที่ประดิษฐานของ “พระศาสดา” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปหล่อปางมารวิชัย ฝีมือช่างเดียวกันกับ พระศรีศากยมุนีที่วัดสุทัศน์ สันนิษฐานว่าเป็นพระพุทธรูปที่เชิญมาแต่กรุงสุโขทัย ในสมัยรัชกาลที่ 1
มีความเชื่อ และความศรัทธาในพระศาสดาว่า มีความศักดิ์สิทธิ์ และดลบันดาลให้สมประสงค์ได้ในหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการเกณฑ์ทหาร ผู้คนจึงนิยมมาแก้บนด้วยการนำผ้าขาวม้ามาผูกเอว และวิ่งวนรอบพระอุโบสถ 3 รอบ พร้อมกับส่งเสียงเหมือนม้าร้องไปด้วย เรียกว่า “วิ่งม้า” เนื่องจากมีเรื่องเล่าว่าในอดีต มีผู้พบเห็นม้าสีขาวตัวหนึ่งวิ่งวนรอบพระอุโบสถ จึงเชื่อกันว่าพระศาสดาคงโปรดม้า
สถาปัตยกรรมอื่น ๆ ภายในวัดได้แก่ พระวิหาร สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 ซึ่งมีมุขขวางทั้งด้านหน้า และด้านหลัง กับ หมู่กุฏิสงฆ์ ที่เป็นเรือนไม้ฝาปะกน เก่าแก่และงดงามมาก โดยเป็นหมู่ตึก 6 หลัง มีหอฉันอยู่กลาง และมีหอเล็กติดกำแพง 2 หอพร้อมทั้งหอระฆังและหอไตร
ใครผ่านวัดนี้ ลองแวะมาดูความสวยงามของจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถกันสักครั้ง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ศุกร์ (สุข) ละวัด ที่วัดพุทไธศวรรย์ สมัยกรุงศรีอยุธยา
- ศุกร์ (สุข) ละวัด แวะไปที่ ‘วัดบางจาก’
- ศุกร์ (สุข) ละวัด สถาปัตยกรรมเก่าแก่ ที่ ‘วัดพระธาตุลำปางหลวง’