อองตวน ปินโต ได้รับจดหมายจากประธานาธิบดี มาครง แห่งฝรั่งเศส

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 1 ธันวาคม 2565

อองตวน ปินโต ได้รับสารและคำชมเชยจากประธานาธิบดี มาครง แห่งฝรั่งเศษ สุดภูมิใจที่ได้เผยแพร่ศิลปะมวยไทย

เรียกว่าเป็นที่กล่าวถึงในโลกออนไลน์ก่อนหน้านี้อย่างมาก หลังจากที่ เอมานูว์เอล มาครง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส ได้ใช้เวลาในเมืองไทย ดื่มด่ำวัฒนธรรม และสัมผัสซอฟต์เพาเวอร์ไทยอย่างใกล้ชิด ระหว่างการเดินทางมาร่วมประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดยกำหนดการดังกล่าวไม่เป็นที่เปิดเผยให้ทราบ เพียงแต่พบเจอโดยบังเอิญเท่านั้น ซึ่งก็มี 2 คนบันเทิงชาวไทยที่ได้กระทบไหล่ มาครง และได้โพสต์เก็บโมเมนต์ประทับใจ อย่างเช่น อองตวน ปินโต อดีตนักมวยไทยชื่อดังสัญชาติฝรั่งเศส

โดยก่อนหน้านี้ อองตวน โพสต์เล่าว่า “วันนี้ได้เป็น guide ให้กับ President Macron (ประธานาธิบดีของประเทศฝรั่งเศส) เป็นเวลา 2 ชั่วโมงกว่าที่นำพาท่านมารู้จักกับมวยไทย คงไม่มีคำพูดอะไรที่จะสามารถทดแทนความรู้สึกตอนนี้

แต่เป็นความภูมิใจมาก ๆ กับคำพูดแรกตอนที่ต้อนรับท่านเวลาลงจากรถว่าท่านเป็น FC ผมกับน้อง คอยติดตามผลงานมาโดยตลอด และขอบคุณที่เป็นนักกีฬาตัวแทนของประเทศ และบรรยากาศในการพาท่านมาทัวร์ที่เวที rajadamner ท่านเป็นกันเองน่ารักมาก ๆ และก็ชื่นชอบและชื่นชมศิลปะมวยไทย ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจของผมที่ได้เผยแพร่ศิลปะมวยไทย ต้องบอกว่างานนี้ผมกับทีมงานทำงานกันหนักมากกว่าจะเตรียมทุกอย่างและพาท่านมา แต่ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี ผมอาจจะพิมพ์ไม่รู้เรื่องต้องขออภัยตอนนี้ยังตื่นเต้นและภูมิใจแทนมวยไทย”

และล่าสุด (30 พ.ย.) อองตวน ได้ออกมาโพสต์อินสตาแกรม @antoine_pinto หลังได้รับสารและคำชมเชยจากประธานาธิบดี มาครง แห่งฝรั่งเศษ ภายหลังที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชมการชกมวยไทยที่สนามเวทีมวยราชดำเนินในช่วงการประชุมเอเปกที่ผ่านมา

ทั้งนี้ อองตวน ระบุว่า “ได้รับจดหมายจากท่านประธานาธิบดี Macron วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่จะบันทึกความทรงจำที่ดี กับจดหมายที่ท่านส่งมาให้ ผมรู้สึกมาตลอดว่าหน้าที่สำคัญของผมคือการเผยแพร่มวยไทยให้ดีที่สุด เพื่อเป็นการตอบแทนสิ่งที่มวยไทยให้กับผมมา และนี่ก็คงเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่จะนำพามวยไทยสู่ระดับโลก และความเชื่อมประเทศด้วยมวยไทย แต่อย่างไรก็ตามความฝันของผมถึงแม้จะดูเป็นความฝันที่เป็นไปไม่ได้ก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม อยากจะทำหน้าที่เผยแพร่มวยไทยในฐานะของ ‘คนไทย’ คนหนึ่งครับ”