Entertainment

หมอก้อง ฟาดลอย ๆ พูดเพื่อ? แห่โยง หมอริท ถามมันใช่เวลามั้ย ไม่เห็นด้วยก็น่าจะเฉยไว้

หมอก้อง สรวิชญ์ ฟาดลอย ๆ พูดเพื่อ? แห่โยง หมอริท เรืองฤทธิ์ หลังบอก โตโน่ ภาคิน ว่ายข้ามโขงไปก็ไม่ทำให้หมอ พยาบาลเหนื่อยน้อยลง ถามมันใช่เวลามั้ย ไม่เห็นด้วยก็น่าจะเฉยไว้

ภายหลัง โตโน่ ภาคิน จบภารกิจว่ายน้ำข้ามโขง กิจกรรม One Man And The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้ ระดมเงินจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้โรงพยาบาลนครพนม และโรงพยาบาลแขวงคำม่วน สปป.ลาว ได้ยอดเงินบริจาคกว่า 60 ล้านบาท นั้น

1 หมอก้อง หมอริท 5

หมอก้อง ฟาดลอย ๆ พูดเพื่อ? แห่โยง หมอริท ถามมันใช่เวลามั้ย ไม่เห็นด้วยก็น่าจะเฉยไว้

ทางด้าน หมอริท นพ.เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช รุ่นน้องคนสนิทของโตโน่ ได้ทวีตข้อความยินดีกับพี่ และได้ฝากมุมมองไว้ให้คิดในทำนองว่า การกระทำครั้งนี้ของโตโน่ถือว่าดีและดีมาก ๆ แต่มันไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้จริงต่อให้ว่ายน้ำข้ามโขงอีก 10 รอบ ได้เงินมากกว่า 1,000 ล้านบาท หมอ พยาบาล ก็เหนื่อยเท่าเดิม

ท่ามกลางความคิดเห็นหลากหลายมุมจากคำพูดของ หมอริท ทั้งให้กำลังใจและบอกว่าพูดถูก รวมถึงเขาทำดีขวางทำไม ขณะเดียวกันล่าสุด ก็ทำเอาคนโฟกัสข้อความคอมเมนต์ของ หมอก้อง สรวิชญ์ นักแสดงและแพทย์คนดังอีกคน โดยโยงว่าต้องฟาด หมอริท แน่ ๆ โดยหมอก้องเขียนข้อความว่า

1 หมอก้อง หมอริท 3

“พูดเพื่อ ??? หวังดีเหรอ มันใช่เวลามั้ย ใครทำอะไรได้ก็ช่วยกันสิ จะรอคนโน้นคนนี้มาทำทำไม คนมีหน้าที่หลัก ๆ เค้าก็ทำอยู่ ไม่ใช่ไม่ทำ อย่าอคติ เพียงแต่อาจจะทำได้ยังไม่ถึงระดับที่น้องพอใจ ก็นี่ไง… ก็มีคนมาช่วยเท่าที่เขาทำได้อยู่นี่ไง จากหนึ่งคนเป็นหลาย ๆ คน ช่วยกันบริจาค ก็การบริจาคเป็นทางที่พวกเขาสามารถช่วยได้ไงเขาเลยทำ จะให้เขาไปแก้ไขโครงสร้างสาธารณสุขหรือไง

ไม่เห็นด้วยก็น่าจะเฉยไว้ คนที่เค้าทำ เค้ายอมเหนื่อยให้ส่วนรวม แม้คนที่ไม่เห็นด้วยกับกิจกรรม ด่าเค้าปาว ๆ ก็ยังได้ประโยชน์ไปด้วย เพราะเขาทำ ‘เพื่อส่วนรวม’ จริง ๆ ผมก็ไม่ได้สนิทกับโตโน่ แต่ในฐานะแพทย์คนนึง กล้าพูดได้เต็มปากว่า หมอคนนี้เห็นสิ่งที่โน่ทำแล้วปลื้มใจ หายเหนื่อยครับ ยิ่งเห็นว่ามีคนร่วมบริจาคมาเยอะขนาดนี้ด้วย ยิ่งหายเหนื่อย มันหายเหนื่อยเพราะเห็นว่าในสังคมยังมีคนกลุ่มหนึ่ง ไม่เล็กด้วย ที่เห็นใจพวกเรา และอยากช่วยเหลือพวกเราด้วยวิธีที่พวกเขาทำได้ ขอบคุณมากครับ”

1 หมอก้อง หมอริท 4

ทั้งนี้ โพสต์ดังกล่าวของ หมอริท ได้สะท้อนอีกแง่มุมว่า “ยินดีด้วยกับการ #ว่ายน้ำข้ามโขง ของพี่ #โตโน่ภาคิน ในวันนี้นะครับ ที่ปลอดภัย และได้รับเงินบริจาคจำนวนมาก อย่างแรกต้องขอขอบคุณในน้ำใจและความเสียสละของพี่ที่มีต่อบุคลากรทางการแพทย์ คนที่พร้อมจะเสียสละเพื่อคนอื่นแบบพี่ ไม่ได้หาได้ง่ายเลย นับถือใจจริง ๆ

ในบทสัมภาษณ์มีหลายครั้งที่พี่พูดว่า ที่พี่มาว่ายน้ำครั้งนี้ เพราะหมอและพยาบาลเค้าเหนื่อยกว่า เสี่ยงกว่า เลยอยากขออนุญาตฝากมุมมองไว้ซักนิดครับ เผื่อพี่อาจจะลืมมองเหตุผลพวกนี้นะครับ (ไหน ๆ คนก็สนใจโครงการพี่เยอะแล้ว)

1. ต่อให้พี่ว่ายน้ำข้ามโขงเป็น 10 รอบ ได้เงินบริจาคมากว่า 1000 ล้าน หมอ พยาบาล เค้าก็เหนื่อยเท่าเดิมครับ ขอยกตัวอย่างในฝั่งของหมอนะครับ ระบบสุขภาพของประเทศไทยคือ ระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า แปลว่า คนไทยจะป่วยยังไง ก็มีการรักษารองรับ (ซึ่งจริง ๆดีกับคนไทยในบางมุมนะ เช่น คนจนมีสิทธิ์เข้าถึงการรักษา แต่ข้อเสียก็คือ คนไทยไม่ใส่ใจสุขภาพ เกิดปัญหา เช่น ติดเหล้า ติดบุหรี่ และเกิดปัญหาสุขภาพตามมา ทำให้คนต้องมาโรงพยาบาลกันเยอะ) ซึ่งทำให้หมอต้องทำงานหนัก แต่ยังได้ค่าตอบแทนเท่าเดิม

1 หมอก้อง หมอริท 2

ซึ่งทุกวันนี้หมอไทยยังต้องทำงานเกินเวลาตามระเบียบกำหนด ทำให้เกิดภาวะสมองไหล หมอ ๆ ก็ออกนอกระบบโรงพยาบาลรัฐกันหมด หมอก็น้อยลง งานก็ยังหนัก ผลิตหมอเท่าไหร่ก็ไม่พอ ก็วนลูปแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ครับ ถึงบอกว่าเงินบริจาคเยอะแค่ไหน ก็ไม่ได้ช่วยให้หมอหายเหนื่อยครับ

2. พี่บอกว่าหมอพยาบาลเสี่ยง คำถามคือ แล้วใครปล่อยให้หมอพยาบาลทำงานภายใต้ความเสี่ยง? ถ้ารู้ว่าเค้าทำงานแบบเสี่ยงอยู่ ทำไมผู้มีอำนาจโดยตรงถึงมองไม่เห็นและไม่สามารถจัดการปัญหานั้นโดยเร่งด่วนได้ หรืองบประมาณไม่เพียงพอ แล้วถ้างบไม่พอจริง ๆ ทำไมไม่รายงานขึ้นไป ทำไมต้องรอเงินบริจาค?

ส่วนตัวมองว่า การบริจาคไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดีนะครับ แต่ที่มา หลักการ จุดประสงค์ของโครงการและการนำเงินไปใช้ต้องชัดเจน รวมถึงควรสนับสนุนการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุไปในตัวด้วยครับ ถ้าพี่สื่อสารจุดนี้ได้ด้วย คิดว่าคนไม่เห็นด้วยน่าจะน้อยลงนะครับ และทำให้โครงการของพี่ดูมีเหตุสมควรมากขึ้น

1 หมอก้อง หมอริท 1

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo