Entertainment

หัวใจไม่ว่าง ปีเตอร์ แง้มมีรักใหม่แล้ว เผยบทเรียนครั้งเก่า เคลียร์ชัดคนครหา ‘ทิ้งลูก’

กว่าจะมาถึงวันนี้! ปีเตอร์ คอร์ป เปิดหมดเปลือกเส้นทางชีวิตกว่าจะประสบความสำเร็จ ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเลย พร้อมเผยสถานะหัวใจมีคนคุยด้วยแล้ว ณ ตอนนี้

นักร้องนักแสดงเจ้าเสน่ห์หนุ่ม ปีเตอร์-คอร์ป ไดเรนดัล เมื่อมาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 ได้เปิดแบบหมดเปลือกทุกเรื่องราวของชีวิตในเรื่องราวของชีวิต ว่ากว่าจะมาเป็น ปีเตอร์ ที่ทุกคนรู้จักในวันนี้เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเลย พร้อมยังเปิดใจครั้งแรกในช่วงที่หายตัวไป และเผยถึงสถานะหัวใจที่ตอนนี้กำลังเริ่มต้นเป็นสีชมพูอีกครั้ง

ปีเตอร์ คอร์ป แง้มมีรักใหม่แล้ว เผยบทเรียนครั้งเก่า เคลียร์ชัดคนครหา ‘ทิ้งลูก’

หัวใจไม่ว่าง ปีเตอร์ คอร์ป แง้มมีรักใหม่แล้ว เผยบทเรียนครั้งเก่า เคลียร์ชัดคนครหา ‘ทิ้งลูก’

เริ่มต้นเข้าวงการได้อย่างไร ?

“ถ้าถ่ายแบบที่เมืองไทยเพื่อน ๆ ที่เดนมาร์กคงไม่รู้หรอก เงินก็เอากลับไปซื้ออะไหล่มอเตอร์ไซค์ได้ ลองดูก็ได้ก็เลยได้เริ่มถ่ายแบบตั้งแต่ตอนอายุ 17 ปีครับ ตอนเกือบ ๆ 19 ปี ก็มีคนโทรศัพท์มาตามบอกว่าอยากให้กลับมาถ่ายโฆษณาเขาก็บอกเราว่าได้เงินแสนกว่าบาทเลยเราก็ อุ้ย .. ได้เงินมาซื้ออะไหล่เยอะเลย แต่ตอนนั้นผมทำงาน Part Time ไปด้วยเรียนไปด้วยอยู่บริษัททนาย แต่เราก็รู้สึกว่ามันไม่มีเวลาทำในสิ่งที่เราอยากทำเพราะเราทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ผมก็เลยกะว่าเอาอย่างนี้ ผมเบรกสัก 1 ปี ผมก็ไปคุยกับทางโรงเรียน ทางโรงเรียนก็บอกว่าได้เลยคุณจะเบรกสัก 1-2-3 ปีได้เลย เพราะเกรดของคุณ 3 มาตลอด ถ้าอย่างนี้ผมก็มาถ่ายโฆษณาได้เงินก้อน ซึ่งพอได้เงินก้อนผมก็จะเอาเงินก้อนนั้นมา Start up แล้วก็อยู่สัก 1 ปีเก็บเงินแล้วกลับไปเรียนต่อโดยไม่ต้องทำงาน”

แล้วสรุปว่าได้กลับไปไหม ?

“ไม่ได้กลับครับ (หัวเราะ) ก็ยาวเลยครับ เพราะว่าผมพอมาได้สักประมาณ 6 เดือน ก็มีคนติดต่อให้ผมเข้ากระบวนการลองเทสต์เสียงนู่นนี่เสร็จปุ๊บ ก็ได้เซ็นสัญญากับแกรมมี่ก็เลยยาวเลย ตอนนั้นก็ได้เข้าเป็นศิลปินฝึกหัด ผมย้ายมาประมาณ 2 ปีกว่ากว่าจะได้ออกอัลบั้ม”

6 ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล1

ซึ่งในช่วงนั้นชีวิตก็ลำบากอยู่เหมือนกัน ?

“ก็ยากครับ ผมจำขึ้นใจเลยพี่ ๆ ทุกคนบอกว่าอดเปรี้ยวไว้กินหวาน คือ งานของผมกำลังฮอตเลยถ่ายโฆษณามาเสร็จปุ๊บก็เป็นจุดเปลี่ยนหนี่งที่ทำให้คนรู้จักผมมากขึ้น งานถ่ายแบบก็เข้ามาเยอะขึ้น งานโฆษณาก็เข้ามา แต่ทุกคนก็จะบอกว่าอดเปรี้ยวไว้กินหวาน แปลว่าอย่าเพิ่งรับงาน แต่เขาก็ไม่ได้เชิงห้ามนะครับ แต่บอกว่าอย่าเพิ่งรับดีกว่า ซึ่งก็กว่าจะได้ออกอัลบั้มจริง ๆ คือ 2 ปี จนไม่มีกินครับ เชื่อไหมตอนนั้นผมเช่าอะพาร์ตเมนต์อยู่ห้องติดกับ ลีโอ พุฒ เลย”

“มีอยู่วันหนึ่งที่อีกวันจะเข้าไปรับเช็คแล้วต่างคนต่างเงินก็หมด ช่วงนั้นถ้าผมมีผมก็เลี้ยงเพื่อน ถ้าเพื่อนมีก็เลี้ยงผม อีกวันจะไปรับเช็ค แต่วันนี้เงินหมด แล้วรถที่ซื้อมาน้ำมันเหลือน้อยมาก ผมก็ไม่มีเงินเติมน้ำมันแล้ว แต่พรุ่งนี้ต้องขับรถไปรับเช็ค เราสองคนทำยังไงรู้ไหมครับ เราก็รื้อโซฟาทั้งสองห้องที่เราอยู่ทั้งสองห้องเก็บเหรียญแล้วก็เดินไปซื้อพายไก่ 1 ชิ้น 20 บาท แบ่งกันทานคนละครึ่ง ส่วนน้ำมันที่เหลือติดรถอยู่ ผมก็ขับไปลุ้นไปว่าจะถึงหรือเปล่า ปรากฎว่าถึงครับ ครอบครัวของผมไม่ได้อยู่ที่ไทย แล้วก็ศักดิ์ศรีของลูกผู้ชาย ผมจะไม่ขอเงินพ่อแม่ เราจะต้องเลี้ยงดูตัวเองให้ได้”

แต่สุดท้ายก็ต้องบอกว่าก็ประสบความสำเร็จทั้งคู่ แม้เพลงแรก ๆ ยังไม่ค่อยเท่าไหร่ ?

“ตอนปล่อยซิงเกิลแรกยังไม่ตูมตามอะไรขนาดนี้ครับ ซิงเกิลแรกคือเพลงอยากไปไหนก็ไป ส่วนซิงเกิลที่สองเป็นเพลงให้ฟ้าฝ่าเธอ”

6 ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล4

และมีครั้งหนึ่งกับข่าวที่เรารับรู้คือ มีการประกาศตามหาว่า ปีเตอร์ หายไปไหน วันนั้นมันเกิดอะไรขึ้น ?

“มันก็มีหลายอย่างนะครับ ก็เป็นปัญหาครอบครัวนั่นแหละ ซึ่งวันนี้ผมก็ขอไม่พูดถึงรายละเอียดนะครับ คือ จริง ๆ แล้วถ้าผมจะพูด ผมพูดไปตั้งนานแล้ว แต่มันก็ไม่ใช่แนวทางผม แต่ก็พอเล่าให้ฟังคร่าว ๆ ได้ จริง ๆ แล้วมันก็มีปัญหาอยู่ พอมันอยู่ด้วยกันแล้วมันเป็นเรื่องที่มันไม่ดี มันมีเรื่องที่ทะเลาะกันบ่อยอยู่พอสมควร แล้วทะเลาะกันผมรู้สึกว่าจริง ๆ แล้วผมเป็นคนไม่ชอบทะเลาะ แต่พอมาถึงจุดหนึ่งแล้วเหมือนใครที่โดนจี้จุดอยู่นาน ๆ ในที่สุดต่างคนต่างก็ขึ้น ผมก็พยายามถอยก่อนเดี๋ยวพอเย็น ๆ แล้วค่อยคุยกันต่อไหม ผมก็ใช้วิธีว่าเดี๋ยวออกไปข้างนอกก่อนแล้วกัน เดี๋ยวไปขี่มอเตอร์ไซค์เล่นข้างนอกอย่างนี้ เพราะว่าขี่มอเตอร์ไซค์มันเป็นอะไรที่ต้องใช้สมาธิในการขับขี่มันก็จะไม่นึกถึงเรื่องอื่น พอไม่นึกถึงเรื่องที่เราทะเลาะกันอย่างนี่มันก็จะใจเย็นลงแล้วก็ค่อยกลับไปคุยใหม่อย่างนี้ครับ”

“แต่ก็รู้สึกว่ามันก็ไม่ดีไม่ได้คลายสถานการณ์สักที แล้วมันก็จะถี่ขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยหลาย ๆ เหตุผล ซึ่งในที่สุดผมก็เลยรู้สึกว่าผมต้องถอยห่าง จริง ๆ แล้วคือไม่ใช่อยู่ ๆ ผมหายไปนะ แต่ผมคิดว่ามันจำเป็นต้องทำ หลายคนคิดว่า ปีเตอร์ ทิ้งลูก แต่ผมคิดว่าอันนี้น่าจะเป็นวิธีที่ทำให้ลูกไม่ต้องรับรู้ ไม่ต้องรับฟัง ไม่ต้องรู้สึกอะไรที่เด็กไม่ควรรับรู้ ตอนแรกผมก็ยังมีความหวังว่าออกมาสักพัก กลับไปคุยใหม่แล้วมันจะดีขึ้นไหม แต่ในที่สุดมันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น ก็เลยในที่สุดก็เลยแยกตัวออกไปก็เลยแยกยาวเลย”

6 ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล5

เขาบอกครั้งนี้มันเป็นข่าวที่รุนแรงต่อภาพลักษณ์ในความเป็น ปีเตอร์ มาก เห็นบอกว่าคอมเมนต์มหาศาล ขนาดตอนนั้นโซเชียลยังไม่ได้ขนาดนี้ ?

“มีคอมเมนต์ต่าง ๆ นานา 2-3 หมื่นคอมเมนต์เลยครับ แซึ่งมันก็รู้สึกไม่ดีหรอก แต่ผมไม่ใช่แนวคนที่จะออกมาทำคะแนนเข้าตัวเองแล้วในที่สุดเรื่องราวที่มันเกิดขึ้นในบ้านมันก็เป็นเรื่องภายในครอบครัวผมคิดแบบนี้เสมอ และที่สำคัญที่สุดคือการออกไปพูดคุย แก้ตัว อธิบาย ผมรู้สึกว่ามันแค่ออกไปต่อยอดข่าว เดี๋ยวข่าวจะกลายพันธ์ุไปแล้วมีประเด็นใหม่ขึ้นมาทุก ๆ คนก็ตีความไปเอง”

ถาม สรุปตอนนี้มีคนคุยไหม ?

“ก็มีคนหนึ่งที่เพิ่งเริ่มคุยแต่ก็ยังไม่นานมากครับ แต่ก็นานพอที่ได้รู้ว่าเขาน่ารักมาก”

หลายสิ่งหลายอย่างที่ผ่านมามีผลกระทบต่อคนคุย ๆ คนนี้ไหม เช่น เขาก็คงเห็นข่าวความเป็น ปีเตอร์ ทุกคนรู้หมดเลยที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ซึ่งก็มีทั้งข่าวจริงบ้างไม่จริงบ้าง หรือเขาเชื่อไปที่เราไม่ได้มีโอกาสอธิบายมาก่อนไหม ?

“ผมว่าทุกคนรู้ครับ คือตอนแรกผมก็สงสัยนะคือทุกอย่างเริ่มจากการ เอ๊ะ .. ทำไมคนนี้น่าสนใจดีแล้วเขาก็คงจะรู้สึกอย่างนี้เหมือนกันแล้วพอได้คุยกันไปมามันจูนเข้ากันได้ดี จนถึงจุดหนึ่งที่ผมก็ถามเลยคือผมก็รู้ตัวไงว่าประวัติของผมเป็นอย่างไรบ้าง ผมก็ถามเขาไม่สงสัยเหรออะไรอย่างนี้ว่าอะไรเป็นอะไร เพราะเขาไม่ถามอะไรเราเลย ซึ่งเขาก็บอกว่าไม่นะ คือเขาบอกว่าเขาจะดูทุกอย่างจากสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ สิ่งที่เขารู้สึกตอนนี้อะไรอย่างนี้ แต่ผมก็ได้พูดคุยอธิบายอะไรบางอย่าง”

6 ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล3

เห็นบอกว่าถ้าแม้แต่มีบางคนรอบตัวของเราไม่เข้าใจในความเป็น ปีเตอร์ เราสามารถบุกไปอธิบายได้เลย ?

“จริง ๆ แล้วคือ ถ้าสมมติว่าอันนี้พูดคุยน่ารัก แต่คือ ถ้าสักวันที่วันมีอะไรที่ซีเรียสแน่นอนคนรอบข้างตัวเขาด้วยความเป็นเพื่อนสนิท ด้วยความเป็นสมาชิกของครอบครัวด้วยสัญชาตญาณของเขาต้องปกป้องคนนี้ต้องมีคำถามแน่นอนครับ ผมก็บอกว่าถ้าใครมีคำถามหรือสงสัยอะไรบอกผมได้นะ ผมจะไปอธิบายเองให้ได้ว่าจริง ๆ แล้วมันมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง และทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ ผมยินดีครับ เพราะผมไม่มีอะไรปิดบังไม่มีอะไรซ่อนอยู่แล้วครับ”

ความรักที่ผ่านมาเรานำบทเรียนอะไรมาใช้กับความรักครั้งต่อ ๆ ไปบ้าง ?

“บทเรียนในแต่ละช่วงชีวิตหรือในแต่ละสถานการณ์มีความแตกต่างกันไป บางทีเราเจ็บ บางทีเราเข็ด แต่ว่าบางทีเราก็ผิด แต่ว่าบทเรียนที่เราผ่านมาไม่ใช่แต่จะก้าวผ่าน แต่เราเก็บไว้ จำไว้แล้วก็เอามาปรับปรุง เพราะฉะนั้นเรื่องราวของความรัก พอโตขึ้นชีวิตของคนเรามันจะนิ่งขึ้น ตัวเราบุคลิกเราจะนิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นคือไม่รีบนะครับ ใช้เหตุและผลดูกันหน่อย เข้ากันได้ดีจริง ๆ ไหม เพราะว่าอย่างที่ว่าคำว่าเอ๊ะ !! เมื่อกี้ ที่แบบว่าสัญชาตญาณของเรา พอเราเอ๊ะ ปุ๊บ ทำไมมันเป็นอย่างนี้ มันไม่ใช่เรื่องของความชู้สาวอย่างเดียว แต่บางทีในเรื่องของนิสัยที่มันไม่ได้เข้าด้วยกันตั้งแต่แรก แต่ด้วยว่า popy love ทั้งเราและเขาก็พยายามทำให้เขาดูว่าเราดีที่สุด และเรายอมที่จะมองข้ามจุดอะไรหลาย ๆ อย่างตรงนี้ไป แต่พอยาว ๆ เข้าไปปุ๊บเขาก็ต้องบอกว่าตัวจริงของเราและเขาปรากฎเอาจริง ๆ เวลานั้นเราอาจจะเข้ากับเขาไม่ได้ก็ได้”

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo