Entertainment

‘แตงโม’ เคลียร์ปมร้อน ‘นิก’ โพสต์ เอาดีใส่ตัว…เอาชั่วใส่คนอื่น หลังออกรายการดัง

กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันที หลังจากที่นักแสดงสาว แตงโม นิดา ได้ไปออกรายการ Club Friday Show โดยบางช่วงบางตอนเธอได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องราวความรักในอดีต เกี่ยวกับพฤติกรรมของแฟนหนุ่มรุ่นน้อง ที่ส่งผลกระทบต่ออาการป่วยโรคซึมเศร้า  ซึ่งต่อมา นิก คุณาธิป อดีตคนเคยรัก ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กว่า “เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น ไม่ดีมั้ง แต่งเสริมเติมแต่ง อย่าให้พูดบ้างแล้วกัน หนัก” จนทำเอาหลายคนจับตามองอย่างหนัก

15 แตงโม นิดา1

ล่าสุด (29 ธ.ค.) แตงโม นิดา ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องนี้ พร้อมเผยถึงเหตุการณ์ที่ เอ ศุภชัย ผู้จัดการดาราคนดัง ยกหนี้สินมูลค่ากว่า 5 แสนบาทให้ จนกลายเป็นที่มาของคลิปน้ำตาแตกที่เธอโพสต์ลงโซเชียล

“จริง ๆ แล้วโมไม่ค่อยอยากที่จะพูดต่อความยาวสาวความยืดเท่าไหร่ ก็จะขออธิบายสั้น ๆ นิดเดียวว่า ในส่วนที่โมพูดอ่ะค่ะ มันก็เป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้ว และทุกวันนี้โมไม่ได้หมายความว่าเขายังเป็นแบบนั้นอยู่ ในทุกวันนี้โมก็เห็นว่าเขาเจอคนที่เหมาะสมกับเขา ดูแบบว่าเข้ากันได้ดีมาก ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่โมแฮปปี้ที่สุดแล้ว ก็คือไม่ได้พูดเพื่อจะแบบทำลายล้างหรืออะไรพวกนี้เลย”

“เพียงแต่โมไปออกในบริบทที่ว่า เขาถามว่าโรคซึมเศร้าในช่วงนั้นมันเป็นยังไง โมก็เลยต้องเล่าเป็นวิทยาทานเผื่อบางคนที่มีคนในครอบครัวเป็นสภาวะแบบโม เขาจะต้องระวังอะไรบ้าง ก็คือคนฟังโดยส่วนใหญ่ถ้ามองออกมาไกล ๆ หน่อย ก็จะมองเข้าไปเห็นถึงการที่โมพูดเนี่ย โมพูดถึงประเด็นที่ว่ามันเป็นแค่การกระตุ้นโรคให้เกิดกำเริบมากขึ้น ประมาณนี้ค่ะ”

15 แตงโม นิดา2

“ช่วงที่ห่างกันไปแรก ๆ อาจจะมีมีคุยกันอยู่บ้าง ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ เพราะเราก็ไม่ได้โกรธไมได้เกลียดกัน เรายังคงมีความรักและความเป็นห่วงกันนะคะ แต่ว่ามันอาจจะไม่ใช่ในสถานะเดิมเท่านั้นเอง แต่พอเราได้มูฟออนชีวิตของเรามาเรื่อย ๆ แล้ว ตัวโมเองก็ทำงานเยอะขึ้น ไหนจะต้องเรียนด้วย และก็มีลูกต้องเลี้ยง รวมถึงโมเพิ่งได้คบกับเบิร์ด ส่วนตัวน้องเขาก็มีแฟนใหม่ที่คบกัน เราจึงพยายามไม่ก้าวก่ายซึ่งกันและกัน และก็ให้เกียรติซึ่งกันและกันด้วย”

“สิ่งที่เขาโพสต์เราเข้าใจได้ค่ะ มันก็ตีความหมายได้หลายอย่าง เราเข้าใจในส่วนของคนที่ไม่ได้ออกมาพูด ไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็น แต่ก็ต้องอธิบายเลยว่ามันเป็นพื้นที่ที่รายการให้โมไปพูด ถ้าเกิดเขามีสิทธิ์ที่จะระบาย หรือว่าบอกเล่าในพื้นที่ของเขา มันก็ไม่ได้ผิดอ่ะค่ะ หรือไม่ก็อาจจะรอให้รายการเชิญเขาไปและก็อาจจะพูดในส่วนของเขาที่มีความรู้สึกไม่ค่อยดีกับโม ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าช่วงนั้นเราสองคนทุกข์กันมากจริง ๆ เราพยายามกันที่สุดแล้ว ไม่ใช่ไม่รักกันนะคะ แต่เราแบบ อาจจะไม่ตอบโจทย์ซึ่งกันและกันอ่ะค่ะ”

15 แตงโม นิดา3

“ทุกคนก็คงรู้อยู่แล้วแหละว่าเวลาโมพูด โมไม่แทบจะมีอะไรเพิ่มไปให้ที่มันมากเกินกว่าที่โมให้ คือโมเป็นคนหนึ่งที่สัมภาษณ์อะไรค่อนข้างให้เกียรติกับคนที่เขาอยากได้ประเด็นจากเรา และก็รายการของ พี่อ้อย-พี่ฉอด ทุกคนรู้ดีว่า เป็นรายการที่ค่อนข้างแบบคัดเลือกคนที่จะมาเป็นตัวอย่างให้กับเรื่องความของคนอื่น”

“ไม่กลัวเขาออกมาพูดมันจะกลายเป็นหนังคนละม้วน เพราะโมว่ามันไม่ใช่ว่าคนละมุมนะคะ โมว่ามันมีในส่วนที่โมพูดก็คือส่วนของโม แต่ว่าในส่วนของเขาก็น่าจะมีส่วนของเขาที่เขาต้องอดทนกับโม เพราะว่าโมในตอนนั้นก็ไม่ใช่โมในตอนนี้ ตัวเขาก็เช่นกันอ่ะค่ะ ตัวเขาในวันนั้นก็อาจจะไม่ใช่เขาในวันนี้ก็ได้”

“เรื่องนี้จริง ๆ แล้วจบได้ง่าย ๆ มาก ๆ เลยค่ะ ก็คือถามคุณแม่นิกได้เลยค่ะว่า โมรักลูกเขาขนาดไหน คุณแม่รู้ดีที่สุดค่ะ ยืนยันว่าสิ่งที่เราพูดในรายการเป็นความจริง ไม่มีการใส่สีตีไข่ ก็อยากให้ไปดูในรายการเองค่ะ การันตีด้วย พี่อ้อย-พี่ฉอด”

3 แตงโม เอ ศุภชัย1

“เรื่องที่พี่เอยกหนี้ให้ 4 แสน จริง ๆ แล้วโมก็ไม่ได้ตั้งใจ ว่าจะไปได้อะไรเลยนะคะ ก็คือพี่เอเขามีวันเกิดตรงกับวันคริสต์มาสพอดี แล้วทุก ๆ ปี เราจะไปฉลองที่เชียงใหม่ด้วยกัน แต่โควิดมันก็เลยไม่ได้ไปกันหลายปีแล้ว ปีนี้เราก็เลยยกพวกไปเซอร์ไพรส์พี่เอที่บ้าน แล้วก็เจอเซอร์ไพรส์กลับ ด้วยความที่พี่เอเอ็นดูน้องรักน้อง เห็นกันมานาน พี่เอก็เลยยกหนี้ให้ แต่จริงๆ พี่เขาอาจจะลืมไป ในคลิปพี่เอบอกว่า 4 แสนใช่ไหมค่ะ แต่จริงๆ แล้วมัน 5 แสนบาทค่ะ พี่เออาจจะไม่รู้ว่ามันครึ่งล้านเลยนะคะ แต่ว่าไม่เป็นไรค่ะ เราไม่ถือสากัน”

“เงิน 5 แสนที่ยืมมาเป็นในเรื่องของช่วงโควิดนะคะ เจอเรื่องที่จะต้องใช้จ่ายมาก คุณพ่อป่วย แล้วก็จะมีค่าเทอมโมด้วย แล้วก็จะมีในเรื่องของจิปาถะ ด้านอะไรหลาย ๆ อย่าง เพราะโมเป็นเสาหลักในบ้าน แล้วช่วงนั้นเราไม่ได้รับงานเลย เรียนอย่างเดียวเลย บวกกับที่เราไปผิดพลาดจากศัลยกรรม จนตอนนั้นยังทำงานไม่ได้ ก็เลยหายไปจากหน้าจอประมาณ 2 ปีได้ แต่ว่าก็จะเจอกับพี่เออยู่บ่อย ๆ เจอล่าสุดก็งานศพคุณพ่อ แล้วได้มาเจอกันคราวนี้ก็คือคิดถึงกันมาก ๆ”

“มันเป็นความรู้สึกที่มันไม่ใช่เรื่องเงินค่ะ มันเป็นเรื่องความเสียสละให้น้องคนหนึ่ง โมรู้สึกว่ามันทำให้เราอุ่นใจเข้าไปอีก ว่าถึงเราจะเคยหยิบยืมเขาในยามลำบาก แต่ระยะเวลาที่ผ่านมา เราก็ได้พิสูจน์ตัวเองให้เห็นแล้ว ว่าเราไม่ได้จมอยู่กับที่ เรามีเหตุการณ์มากมายผ่านมา เราก็มูฟออนตลอด ซึ่งพี่ ๆ ก็จะคอยดูเราอยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ”

15 แตงโม นิดา4

“ก็ขอบคุณ ไม่รู้จะขอบคุณยังไงเลยค่ะ เรารู้สึกแบบนี่แหละคือครอบครัวของเรา มีความรู้สึกว่า หลังจากที่คุณพ่อเสียไป เราก็ยังมีคนที่อยู่กับเรา เวลาเราทุกข์ แต่เวลาเราสุขเราก็สุขด้วยกันตลอด พี่เอไม่เคยหายไปจากโมเลย โมก็ไม่รู้จะใช้คำไหนมาขอบคุณ โมก็เลยบอกว่าพี่เอ ต่อไปนี้ถ้าพี่เอรู้สึกว่าโมเหมาะสมกับงานไหน โมจะทำงานใช้จนกว่ามันจะหมดไปค่ะ หรือว่าจะทำใข้ตลอดไปเลยก็ได้ค่ะ ถ้าเป็นพี่เอแล้ว โมโอเค พร้อมเสมอ”

“ตอนนี้ปัญหาเรื่องเงินที่เราเจอในช่วงโควิด มันคลี่คลายไปเยอะมากแล้วค่ะ จากตอนนั้น ที่เคยออกไปรายการมีหนี้อยู่ประมาณ 10 ล้านบาทได้ เพราะบ้านเราเคยเอาไปรีไฟแนนซ์ ตอนมีปัญหาต้มยำกุ้ง แล้วตอนนี้ก็มาครึ่งทางแล้ว โมก็รู้สึกว่ามันเป็นนิมิตรหมายที่ดี ที่เราจะสู้ต่อไป”

“งานตอนนี้ก็เริ่มมีเข้ามาเรื่อย ๆ ได้รับความเมตตาจากผู้ใหญ่ อย่างพี่พชร์ อานนท์ ด้วยนะคะ อย่างที่เห็นกัน ในระยะที่ผ่านมา ก็เหมือนจะมีดรามาเรื่องโมกับพี่พชร์ แต่ตอนนี้เรื่องนั้นก็คลี่คลายไปแล้ว เพราะฉะนั้นโมก็มีพี่พชร์คนเดิม ที่โมเคยรู้จัก แล้วพี่พชร์ก็ยังเมตตาโมเสมอเลย แล้วในส่วนของละคร ก็เพิ่งจะเปิดกล้องไป แล้วก็ยังมีในส่วนของพรีเซ็นเตอร์ แล้วก็ธุรกิจเซรั่มของโมทุก ๆ อย่างเป็นไปได้ด้วยดีพร้อม ๆ กันหมดเลย เลยรู้สึกว่า มันเป็นช่วงเวลาที่โชคดีมาก ๆ มีความสุขมาก ย้อนกลับไปแล้วไม่คิดเลยว่าตัวเองจะมูฟออกมาได้เร็วขนาดนี้ เพราะคุณพ่อเพิ่งเสียไปได้แค่ปีกว่า ๆ เอง”

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo