‘หมิว’ ยอมรับแก้ปัญหาผิดวิธี หลังป่วยพิษสุราเรื้อรัง มือสั่นจนเขียนหนังสือไม่ได้

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 19 ตุลาคม 2564

‘หมิว’ ยอมรับแก้ปัญหาผิดวิธี หลังป่วยพิษสุราเรื้อรัง มือสั่นจนเขียนหนังสือไม่ได้ พร้อมเดินหน้าต่อสู้กับโรค

หลังจากที่ “หมิว สิริลภัส กองตระการ” ได้ออกมาแจงข่าวกับแฟน ๆ ว่าตอนนี้ป่วยเป็นโรค alcoholic หรือพิษสุราเรื้อรัง เพราะเจ้าตัวตัดสินใจเลือกจัดการความเครียดต่าง ๆ ด้วยการการดื่มหนักเพื่อให้ลืมมรสุมหลาย ๆ อย่างในชีวิต ทั้งเรื่องงานและความรัก ซัดทุกวัน ๆ ละครึ่งลิตร จนร่างกายรับไม่ไหว มีอาการมือสั่น ความจำระยะสั้นหาย ตัดสินใจหาหมอก่อนจะแย่ไปกว่านี้ ล่าสุด (18 ต.ค.) หมิว ได้ออกมาเปิดใจอีกครั้งกับสื่อ พร้อมกับอัปเดตอาการล่าสุด

‘หมิว’ ยอมรับแก้ปัญหาผิดวิธี หลังป่วยพิษสุราเรื้อรัง มือสั่นจนเขียนหนังสือไม่ได้

ตอนนี้อาการเป็นยังไงบ้าง ?
“ก็อยู่ในขั้นตอนของการรักษาค่ะ ก็พยายามพบคุณหมอ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ข้อตกลงกับคุณหมอว่าจะค่อย ๆ ลด ตอนนี้ก็ดีขึ้นค่ะ ก็ค่อย ๆ ลดค่ะ เพราะว่าเลิกเลยไม่ได้”

อะไรทำให้เราออกมาบอกสังคม ?
“เพราะว่าหมิงรู้สึกว่า ดารานักแสดง ก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง เราสามารถล้มได้ เราสามารถมีข้อผิดพลาดได้ โนบอดี้เพอร์เฟกต์ หมิวรู้สึกว่าสถานการณ์ตอนนี้เชื่อว่ามีหลาย ๆ คนที่กำลังเป็นแบบหมิว การแก้ปัญหาของแต่ละคน เชื่อว่าบางคนมีความเครียด การดื่มเพื่อให้สมองมันได้ผ่อนคลาย การดื่มเพื่อที่จะนั่งทบทวนตัวเอง หลาย ๆ คนเลือกใช้วิธีนี้ แล้ววันหนึ่งมันเกินเส้นขึ้นมา หมิวก็เป็นคนหนึ่งที่เป็นแบบเขา หมิวไม่ได้สูงส่งกว่าใคร หมิวไม่ได้ยิ่งใหญ่กว่าใคร หมิวก็เป็นแค่คน ๆ หนึ่งเหมือนกัน เป็นดาราคนหนึ่งเหมือนกัน หมิวอยากออกมาบอกให้รู้ว่าว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียว”

ตอนนั้นมันเกินเส้นขนาดไหน ?
“มันเกินเส้น เพราะว่าหมิวกินทุกวัน”

ส่งผลเสียยังไงบ้าง ?
“หมิวมือสั่นจนเขียนหนังสือไม่ได้”

ทำงานได้ไหมม ?
“ทำงานได้ปกติค่ะ ยังจำบทได้ปกติ ทุกอย่างปกติหมดเลย เพียงแค่ว่ามือสั่นจนเขียนหนังสือไม่ได้แค่นั้นเอง มันคือขั้นแรกที่จะเป็น แล้วที่หมิวออกมาบอก เพราะว่าอยากให้คนที่เป็นอยู่ตอนนี้ แล้วไม่ยอมรับตัวเอง อยากให้เขายอมรับตัวเอง แล้วก็รีบไปรักษา ก่อนที่มันจะสายเกินไปกว่านี้”

พอออกมาบอกมีฟีดแบคกลับมายังไงบ้าง ?
“หลายคนมองว่า เขาตีความว่าพิษสุราเรื้อรัง ขี้เหล้าทำงานไม่ได้ อันนั้นก็เป็นสิทธิของเขานะคะ ที่จะสามารถตีความได้ แต่สิ่งที่หมิวทำให้เห็น คือหมิวอยากจะออกมาบอกเฉย ๆ ว่า เจตนาคือคนเรามันล้มได้ มันลุกได้ แต่มันก็เรียนรู้จากบทเรียนนั้นได้ แค่คุณยอมรับความผิดของตัวเอง แล้วแก้ไขมัน นั่นมันจะทำให้เราเป็นมนุษย์ที่ดียิ่งขึ้น

หมิวกล้าออกมาพูดว่า หมิวป่วยเป็นโรคซึมเศร้า หมิวอยากออกมาให้บทเรียนกับคนที่เป็นโรคซึมเศร้า ได้ยอมรับตัวเองว่า เขาเป็นโรคซึมเศร้านะ เขาควรจะไปรักษา ตอนนี้ก็เช่นเดียวกันค่ะ ถ้าหมิวหายจากอาการแอลกอฮอล์ลิคแล้ว หมิวก็จะเอาประสบการณ์นี้มาเล่าให้กับทุกคนฟัง แล้วก็จะได้รู้ว่าคุณไม่ได้เป็นแบบนี้คนเดียว คุณมีวิธีรักษา หมิวรักษาหายได้คุณก็ต้องรักษาหายได้แค่นั้นเอง ”

เป็นเพราะโรคซึมเศร้าทำให้เรามาดื่มแอลกอฮอล์หรือเปล่า ?
“มันน่าจะผูกพันกันค่ะ

นานแค่ไหน ?
“โรคซึมเศร้ารักษามาประมาณ 2-3 ปี ส่วนแอลกอฮอล์ลิคเพิ่งเริ่มรักษามาประมาณ 1-2 เดือนค่ะ”

รักษายังไง ?
“ก็มีการทานยา และค่อย ๆ ลดปริมาณแอลกอฮอล์”

มันต้องเลี่ยงสถานที่ ?
“สิ่งแรกเลยคือใจเราต้องแข็งแกร่ง”

ทำได้แน่นอน ?
“ก็สัญญากับคุณหมอไว้ หนูจะวันเว้นวันค่ะ ไปเรื่อย ๆ อีกสัปดาห์ถัดไปก็อาจจะ 1 วันเว้น 2 วัน เป็นกำลังใจให้หมิวด้วยนะคะ และหมิวก็จะเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่ประสบปัญหานี้อยู่ด้วยค่ะ”

ก่อนหน้านี้ดื่มนานขนาดไหน ?
“ก็ตั้งแต่ล็อกดาวน์ค่ะ เพราะรู้สึกว่ามันไม่มีอะไรทำตอนเย็นตอนแรก ก็อารมณ์อินดี้พอดื่มเสร็จ ก็มีอารมณ์ไปเล่นเปียโนบ้าง ไปร้องเพลงบ้าง”

แค่ดื่ม หรือแค่จิบ ?
“ก็ดื่มชิว ๆ ไม่ถึงขวด มีช่วงหนึ่งที่มีปัญหาชีวิต ทั้งเรื่องชีวิต ทั้งเรื่องการงาน ทั้งเรื่องความรัก ช่วงนั้นก็หนักหน่อย กลายเป็นวันช่วงนั้นมันหนัก มันก็เลยมากขึ้น”

พอประสบปัญหามากขึ้น ทำให้เราต้องเปลี่ยนมุมมองเลยไหม ?
“ใช่ค่ะ หมิวยอมรับว่าหมิวแก้ปัญหาผิดวิธี แต่ว่าโชคดีที่หมิวกลับมาได้ทัน เพราะเราเป็นโรคซึมเศร้า เราก็ต้องคอยมอนิเตอร์ตัวเองอยู่ตลอดเวลา ว่าตอนนี้อารมณ์ของเราเป็นอย่างไร เราต้องใช้ชีวิตด้วยการมีสติตลอดเวลา เพราะมันสามารถไปได้ตลอดเวลาเช่นเดียวกัน ก็เลยเป็นข้อดีของการที่เราพยายามตรวจตัวเองว่าตอนนี้เราเป็นยังไง ตอนนี้เราก็เลยเอ๊ะ เราเป็นอย่างนี้นะ มันกำลังทำร้ายเรา ต้องรีบไปรักษา”

เวลาเจอคอมเมนต์ด้านลบ มันดิ่งไหม ?
“ไม่เป็นไรค่ะ เพราะเจตนาของหมิวที่ออกมา คืออยากให้ทุกคนเห็น ว่าหมิวเป็นคน ๆ หนึ่งเหมือนกัน เป็นคนที่มีปัญหาเหมือนกัน ถ้าคุณมีปัญหาอยู่ ให้คุณยอมรับและรักษา หมิวอยากเป็นตัวอย่างให้เขา หมิวเจตนาดีอยากเป็นกำลังใจให้เขา เนี่ยหมิวเป็นอยู่ หมิวจะเลิก หมิวจะเลิกให้ได้ ถ้าคุณเป็นอยู่คุณเลิกเถอะค่ะ มาเลิกพร้อม ๆ กัน ทำให้ได้เป็นกำลังใจให้ เป็นกำลังใจให้ซึ่งกันและกันจากคนป่วยเหมือนกัน”