‘นิกกี้’ แฝดน้อง ‘มิลลี่’ ร่ายยาวชี้แจงปมโทรศัพท์พังเมื่อ 10 ปีก่อน ปารูปหลักฐานให้ดูชัด ๆ

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 1 กันยายน 2564

นิโคล กิตติวัฒน์ ร่ายยาวชี้แจงเป็นข้อ ๆ ปมโทรศัพท์พังเมื่อ 10 ปีก่อน หลังถูกบิดเบือน สร้างผลผลกระทบต่อชื่อเสียง

ทำเอาชาวเน็ตติดตามกันแทบไม่ทัน เมื่อ “นิกกี้-นิโคล กิตติวัฒน์” นักแสดงนางแบบสาวลูกครึ่งไทย-เยอรมัน ที่โด่งดังจากละคร บ้านศิลาแดง ทางช่อง 7 เมื่อปี 2558 ร่วมแสดงพี่สาวฝาแฝด “มิลลี่-คามิลล่า กิตติวัฒน์” ซึ่งตอนนี้เป็นนักแสดงสังกัดช่อง One 31 ล่าสุด (31 ส.ค.) เจ้าตัวได้ออกมาโพสต์อินสตาแกรมส่วนตัว @nicolekittivat ชี้แจงความจริง จากฝั่งของตนเองถึงเรื่องราวเมื่อ 10 ปีก่อน หลังมีบุคคลหนึ่งหยิบขึ้นมาพูดในที่สาธารณะ และนำเสนอข้อมูลที่บิดเบือนและไม่เป็นความจริง สร้างผลผลกระทบต่อชื่อเสียง

นิโคล กิตติวัฒน์ ร่ายยาวชี้แจงเป็นข้อ ๆ ปมโทรศัพท์พังเมื่อ 10 ปีก่อน

“จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้มีบุคคลหนึ่งกำลังนำเรื่องเกือบ 10 ปีที่แล้วมาพูดในที่สาธารณะและเป็นการนำเสนอ ข้อมูลที่บิดเบือนและไม่เป็นความจริงทำให้เกิดผลกระทบต่อชื่อเสียงเรา เราขอใช้สิทธิ์และพื้นที่นี้ ชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้

เรื่องเกิดเดือน November 2011 / พฤศจิกายน 2554

1. โทรศัพท์เครื่องที่เกิดเรื่องไม่ใช่ BlackBerry แต่เป็น iPhone นิกกี้ เก็บเงินซื้อมันด้วยตัวเอง ก่อนเกิดเรื่องประมาณเดือนกันยายน ตามภาพประกอบ ซึ่งตัวเครื่องยังคงมีประกันและควรได้รับการเคลมกับ Apple เมื่อน้ำร้อนโดนเครื่องจะถูกเคลมเป็นเครื่องใหม่ในราคาอยู่ที่ประมาณ 8,000 บาท ส่วนราคาซ่อม MBK น่าจะไม่เกิน 2,000 บาท หากจำไม่ผิดและตัวเครื่องจะไม่กลับมาเป็นสภาพเดิมที่สมบูรณ์และ iPhone ไม่การันตีแล้วเพราะเครื่องโดนน้ำ แต่คุณแม่และทางคู่กรณีตัดสินใจว่าแพงเกินไปและให้ไปซ่อมที่มาบุญครอง

2. นิกกี้ จำได้ว่าวันนั้นคุณแม่ของคุณ บอกว่าอาจมีทางเลือกที่ถูกกว่าเพราะเอาน้ำออกจากเครื่องโทรศัพท์น่าจะถูกกว่า

3. พอกลับมาบ้านเรารู้สึกไม่ดีกับการจัดการหลาย ๆ อย่าง วันสุดท้ายที่เราคุยกัน นิกกี้ โทรหาคุณ เพื่อบอกคุณว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่โอเค ไม่แสดงความรับผิดชอบ เราเด็กกว่าตั้ง 3 ปี โทรศัพท์เพิ่งได้มาไม่นาน และเก็บเงินซื้อเอง และได้บอกว่าปรึกษากับแม่แล้ว และแม่ก็เห็นด้วยว่าการจัดการแบบนี้ไม่ยุติธรรม ไม่ใช่การ “ฟ้อง” อย่างที่คุณบอก แต่เป็นการปรึกษาพ่อแม่เพราะเราก็เด็ก ซึ่งคุณแม่เราไม่ได้อยู่กับเราเพราะทำงาน แต่คุณเองอยู่กับคุณแม่ และคุณเริ่มทำเหมือนคุณจะร้องไห้แล้วพูดว่า “ฉันรับไม่ไหว” แล้วยื่นโทรศัพท์ให้แม่ของคุณ เธอพูดบางอย่างที่เราจำไม่ได้ แต่ นิกกี้ จำได้ว่าเป็นการต่อว่าและจำได้แม่นว่าเธอกรีดร้องเสียงดังใส่นิกกี้ ทางโทรศัพท์ นิกกี้ เองอายุเพียง 16 ปี เราตกใจและกลัว ไม่เคยคิดว่าแม่ของคุณที่เราให้ความเคารพรักมาโดยตลอดจะทำเช่นนั้น นิกกี้เลยโทรหาคุณแม่ แม่ นิกกี้ ก็ได้โทรไปเคลียร์กับแม่คุณ

4. นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เราได้คุยกัน

5. วันนั้นคุณไม่เคยคุยกับแม่เรา แม่ไม่เคยเรียกคุณว่าเห็นแก่ตัว และที่สำคัญคนที่โดนผู้ใหญ่ต่อว่าคือเราไม่ใช่คุณ

6. คุณไม่เคยให้หรือซื้อของให้เราเท่าที่เราจำได้ ไม่ใช่ว่าเป็นสิ่งที่คุณต้องทำอยู่แล้ว

7. สุดท้ายเราก็ใช้เครื่องเดิมที่ได้รับการซ่อมจากร้าน ซ่อมโทรศัพท์ทั่วไป ไม่ได้มีการซื้อให้ใหม่

**** มีภาพหลังเหตุการณ์ที่ใช้เครื่องเดิมมาเรื่อย ๆ ค่ะ

ทั้งนี้ นิกกี้ ได้เขียนแคปชั่นเพิ่มเติมด้วยว่า “ขอจบเรื่องตรงนี้นะคะ เราแค่อยากชี้แจงในความเป็นจริง และก็ไม่ถือโทษโกรธใครด้วยค่ะ เพราะเรื่องนานมาแล้ว”