Entertainment

เส้นทางรัก 3 ปี กระต่าย-ครูไพบูลย์ เจอมรสุมดราม่า ซ้ำแม่ไม่ปลื้ม วันนี้ประกาศแยกทาง

เส้นทางรัก 3 ปี กระต่าย-ครูไพบูลย์ เจอมรสุมดราม่า ซ้ำแม่ไม่ปลื้ม วันนี้ปิดฉากคำว่าสามีภรรยา เหลือเพียงสถานะพ่อและแม่ของลูก

ก่อนหน้านี้มีข่าวระแคะระคายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่าง กระต่าย พรรณนิภา และสามี ครูไพบูลย์ แสงเดือน ว่าทั้งคู่นั้นได้เลิกรากันแล้ว แต่ยังไม่แน่ชัดว่าข่าวนี้จริงหรือไม่ กระทั่งล่าสุด ดูเหมือนว่าข่าวนี้จะเป็นจริง เมื่อกระต่ายได้ออกมาประกาศแยกทางกับ ครูไพบูลย์ เปลี่ยนสถานะจากสามีภรรยา เหลือเพียงพ่อและแม่ของลูก พร้อมบอกว่าที่ผ่านมาพยายามปรับเปลี่ยนและแก้ไขความบกพร่องซึ่งกันและกันมาโดยตลอด

13 กระต่าย ครูไพบูลย์ 4
กระต่าย-ครูไพบูลย์

ทั้งนี้ ก่อนที่มีข่าวเลิกกัน ทั้ง 2 เคยเปิดใจถึงเส้นทางรัก ในรายการ คุยแซ่บShow ออกอากาศเมื่อปี 2564 ด้วยว่า

ช่วงเวลาหนึ่งมันมีข่าวที่เรียกว่า คนก็ให้ความสนใจมาก เพราะว่ากระต่ายมีน้ำมีนวลขึ้น ตอนนั้นหลายคนก็พุ่งเป้าไปว่าท้องหรือไม่ท้อง สุดท้ายก็ออกมาแถลงข่าวว่าท้อง สถานการณ์ตอนนั้นเป็นไงบ้าง ?

ครูไพบูลย์ : มันค่อนข้างเครียดมาก เพราะว่าที่จริงแล้วมันเป็นเรื่องส่วนตัวที่เราไม่อยากเปิดเผย ช่วงเวลานั้นน้องทำงานด้วย และอีกอย่างเราจะมีคนที่ต้องมองเราว่าตอนเนี้ยด้วยอายุและวัย มันเหมาะสมหรือยัง มันสมควรที่จะมีได้หรือยัง ที่จริงแล้วทุกคนถ้ามันบรรลุนิติภาวะโดยการจดทะเบียนสมรส ถือว่าเป็นสามีภรรยาอย่างถูกต้อง ครอบครัวทั้งสองฝ่ายยอมรับ มันไม่ผิดอยู่แล้ว มันบรรลุนิติภาวะ แต่น้องเขามีคนที่ติดตามเยอะ ๆ มีคนที่เครซี่เขามาก ถึงขั้นว่าฉันต้องได้ใกล้ชิดได้เจอศิลปินคนนี้สักครั้งหนึ่ง แต่ถ้าเรามาบอกว่าน้องมีครอบครัวแล้ว มันอาจจะเป็นเรื่องที่เป็นผลลบมากเกินไป ก็เลยยังไม่เปิดตัว

พอเปิดตัวคิดไหมว่ามันจะเดินทางมาถึงจุดนี้ ?

ครูไพบูลย์ : ไม่เคยคิดว่ามันจะรุนแรงถึงขนาดแบบนี้ เพราะว่าเราตั้งใจว่ามันเป็นเรื่องครอบครัวของเรา

แล้วกระต่ายล่ะ พอเปิดตัวปุ๊บเป็นอีกเรื่องเลยบานปลายไปใหญ่โตมาก ตอนนั้นรู้สึกไง ?


กระต่าย : เครียดมากเลยค่ะ เราก็ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ค่ะ เพราะปกติแล้วก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันก็ไม่มีคิดเรื่องอะไรแบบนี้ แต่พอเจอแบบนี้เราก็เครียด แล้วก็มีร้องไห้ มีขังตัวเองอยู่ในห้องคนเดียว ก็เครียดหนักมาก

ครูไพบูลย์ : ช่วงนั้นเราเครียด เพราะวันที่เราออกมาเปิดตัว เราแฮปปี้มาก วันที่ 1 สิงหาคม ที่เรามาแถลงข่าวว่าเรายอมรับนะว่าเรามีน้องแล้ว เราก็คบหากันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แล้วก็มีจดทะเบียนสมรสกัน แต่หลังจากนั้นมีฟีดแบคอีกแบบหนึ่งที่มีเรื่องราวดราม่าที่ผ่านรายการต่าง ๆ

กระต่าย : แต่ที่จริงก็ว่าจะเปิดตัวอยู่แล้วค่ะ แต่ว่าเราแค่รอเวลาที่เหมาะสม

ในช่วงแรก ๆ หลายคนก็รู้สึกนะ ว่าที่ยังไม่ได้ออกมาบอกเหมือนกับว่าทั้งสองคนตั้งใจจะปิด หรือว่าปกปิดเอาไว้หรือเปล่า ?

ครูไพบูลย์ : ตอนแรกมันไม่ถือว่าต้องปกปิด แต่มันยังไม่ถึงเวลา มันยังไม่ถึงเวลาอันสมควร เอาเป็นว่าเราคุยกันตลอด เพราะว่าทุกคนในครอบครัว รวมถึงองค์กรเราจะรู้แล้วว่าตอนนี้มีน้องนะ แต่เราพยายามทำงานแล้วก็รักษาภาพ มันเป็นส่วนของศิลปิน ไม่อยากให้เขามองว่าทำไมมีน้องแล้วมีลูก เราอุตส่าห์ติดตาม เราอุตส่าห์ชอบ

ทุกอย่างทั้งสองคนก็ค่อย ๆ ที่จะบอก ค่อย ๆ ทำความเข้าใจกับแฟนคลับด้วยกับคนที่จะรู้เรื่องราวของเรา ?


ครูไพบูลย์ : ตัดสินใจแถลงเลยครับ แถลงข่าวให้ทราบว่าตอนนี้เราคบกัน แล้วก็มีน้องด้วยกัน

13 กระต่าย ครูไพบูลย์ 6
กระต่าย-ครูไพบูลย์

หลังจากแถลงข่าวไป กระต่ายมีผลกระทบอะไรกับเรื่องงานบ้าง ?


กระต่าย : เยอะเลยค่ะ ทั้งช่องยูทูบแล้วก็ร้านอาหาร ก็โดนปิดกิจการไปช่วงหนึ่ง เพราะมีคนมาถ่ายรีวิวว่าอย่างงั้นอย่างงี้ก็ว่าให้เรา ก็เลยต้องปิดนิดนึง เพราะว่าให้มันผ่านกระแสช่วงนี้ไปก่อน

ครูไพบูลย์ : มันมีช่วงหนึ่งช่วงแรง ๆ เลยนะครับ ช่วงสองสามเดือนแรก คือนอกจากยูทูบ ผมทำเพลงใหม่ไม่ได้เป็นเดือนเลย ทำลงก็โดนด่า แล้วเขามีตั้งกลุ่มขึ้นมาเพื่อดิสไลค์ หรือว่าเป็นบูลลี่ เราไม่อยากทำอะไรเลย ร้านอาหารเปิดตั้งแต่มิถุนา-กรกฎา แล้วพอมาเจอแบบนี้ก็ต้องไปปิดก็เกือบเดือน ช่วงแรง ๆ มีบางคนเข้ามาทานอาหารก็บอกทำยังไงก็ได้ให้ร้านเราไม่ได้พักสักแป๊บนึงแล้วมาปรับปรุงเพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้น

ตอนนั้นความรู้สึกเราเป็นยังไงบ้าง ที่เราคิดว่าการที่เราบอกความจริงไปมันจะโล่ง แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นว่าไม่ได้เป็นแบบที่เราคิด ?

ครูไพบูลย์ : อันนี้มันเป็นเรื่องที่มันเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝันเลย และพอมันเกิดขึ้นเราต้องทำใจและยอมรับ พยายามคุยกันให้ดีที่สุด พยายามอย่าเพิ่งใช้อารมณ์กับคนอื่น หมายถึงทั้งกับคนที่มาคอมเมนต์

กระต่ายเป็นยังไงบ้างกับความรู้สึกที่เกิดขึ้น ?


กระต่าย : เครียดมากค่ะ เปิดในโลกออนไลน์ก็จะมีคนมาด่าเรา ทักแชตมาก็มี หนูก็เครียด

เห็นว่าต้องขังตัวเองไว้ในห้อง ?


กระต่าย : ใช่ค่ะ ไม่อยากออกไปเจอใคร มันเหมือนกับเราเป็นตัวอะไรก็ไม่รู้ บอกไม่ถูก เป็นอยู่ช่วงแรก ๆ 1-2 อาทิตย์

ครูไพบูลย์พูดอะไรกับน้อง ที่น้องเครียดหนัก ?


ครูไพบูลย์ : ส่วนใหญ่จะกอดและให้กำลังใจ มันอาจจะเป็นพายุ อาจจะเข้าช่วงพายุใหญ่ เดี๋ยวเราก็ผ่านมันได้ อยู่ที่ว่าเราจะนิ่งแล้วปล่อยให้มันซัดผ่านไปก่อน

ตอนที่ดิ่งมันเศร้าแค่ไหน ?

กระต่าย : สุด ๆ เลยค่ะชีวิต เพราะว่าหนูไม่คิดว่าหนูจะมาเจอเหตุการณ์ณ์แบบนี้ หนูทะเลาะกับเขาเลยนะ ว่าทำไมมันเป็นอย่างนี้ เขาก็เข้ามากอดเราแล้วก็บอกว่าให้สู้ ๆ เดี๋ยวมันก็จะผ่านไป

เห็นบอกว่ากระต่ายก็มีแพลนที่อยากจะมีลูกตั้งแต่ปี 63 ทำไมเราถึงรู้สึกว่าเราอยากจะมีลูก ?


กระต่าย : ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราอยากมีครอบครัว อยากมีคนมาเติมเต็มคำว่าครอบครัวของเราให้มันสมบูรณ์แบบ ทีนี้ก็คุยกันว่าอยากได้ลูกแฝดนะ ทีนี้ก็ว่าจะไปทำแล้ว แต่มีน้องเพลินเพลงก่อนก็เลยไม่ได้ทำค่ะ

13 กระต่าย ครูไพบูลย์ 1
กระต่าย-ครูไพบูลย์

แต่ว่าแฟน ๆ หลายคนก็รู้สึกว่า สำหรับน้องมันเร็วไปไหมอายุ 17-18 ไม่อยากใช้ชีวิตเหมือนอย่างวัยรุ่นคนอื่นเหรอ ?


กระต่าย : ในความคิดหนู หนูพร้อมแล้วค่ะ พร้อมที่จะมีครอบครัวแล้ว ถามว่าเร็วมั้ยก็ในชีวิตของเราในความคิดของเราคิดว่าพร้อมแล้วที่เราจะมีลูกแล้วก็สร้างอนาคต สร้างทุกสิ่งทุกอย่างไว้เพื่อตัวเองแล้วก็ลูกเรา

อยากจะไปใช้ชีวิตวัยรุ่นมั้ย ไม่อยากไปเที่ยวแบบว่าใช้ชีวิตอย่างวัยรุ่นคนอื่นเหรอ เรารู้สึกยังไงบ้าง ?


กระต่าย : ในส่วนตัวหนูไม่ค่อยชอบเที่ยวเท่าไรค่ะ ส่วนมากก็จะอยู่แต่กับยูทูบ ดูโทรศัพท์

ครูไพบูลย์ : เพราะตั้งแต่อายุ 15 ก็เริ่มมีงานคอนเสิร์ตงานเพลง ถามว่าได้ใช้ชีวิตความเป็นวัยรุ่นไหม เราอยู่กับการทำงาน ทีนี้เราคุยกันว่าปี 63 ถ้าเรามีลูกแล้ว สัก 2 คน หลังจากนั้นหนูจะมีชีวิตที่เป็นส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น

กระต่าย : แต่เขาก็พาเที่ยวตลอด อยากไปผับใช่ไหม เขาก็จะพาไป ถ้าอยากไปทะเลอะไรแบบนี้เขาก็จะพาไปหมดเลย

ครูไพบูลย์ : ที่จริงแล้วชีวิตความเป็นวัยรุ่นมันไม่สำคัญเท่ากับความเป็นตัวเองและครอบครัวที่มันสมบูรณ์แบบ สมบูรณ์แบบไม่ได้หมายความว่าดีพร้อมนะ หมายความว่าเราต้องเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ คือมีครอบครัว มีฐานะการเงิน อาชีพ แล้วก็มีเวลาให้กับสุขภาพ

หลายคนที่มองจากรอบนอก มองว่าความรักครั้งนี้เป็นความรักที่ไม่เหมาะสม อาจารย์ว่าไง ?


ครูไพบูลย์ : เขาอาจจะมองหรือว่าเสพข่าวอีกมุมหนึ่ง ที่จริงแล้วผมลาออกจากราชการออกจากครูตั้งแต่ปี 61 ซึ่งมันนานมาแล้ว และเราเพิ่งคบกันจริงจังคือช่วงต้นปี 63 ตอนนั้นคือเริ่มหึงหวง เริ่มมีแอบสงสัยเขาคุยกับใคร

กระต่าย : ช่วงนั้นหนูอกหักพอดี ก็เลยไปปรึกษาเขา ว่าความคิดผู้ชายทำไมคิดแบบนี้ มันคิดยังไงมันเป็นอะไร

ทำไมเราถึงตัดสินใจปรึกษาเขา ?


กระต่าย : เขาคือผู้ใหญ่ที่ดูแลหนู เขาสามารถให้ความอบอุ่น สั่งสอนหนูได้ทุกอย่าง

13 กระต่าย ครูไพบูลย์ 2
กระต่าย-ครูไพบูลย์

กระต่ายเขามาปรึกษาอาจารย์ว่าไงคะ ?


ครูไพบูลย์ : จริง ๆ แล้วก็ห้าม เราไม่อยากให้มีตั้งแต่แรกเลย ผมก็เคยผ่านชีวิตแบบมีแฟนก็ค่อนข้างที่จะมาเรื่อย ๆ มันไม่มีความสุขเลย สุดท้ายรัก เลิกรา หย่าร้าง แต่ถ้ามันหย่าร้างกันไปแล้วจบกันด้วยดีมันจะแฮปปี้เป็นเพื่อน เป็นพี่ แต่เมื่อไหร่จบกันด้วยคติ จบกันด้วยความไม่พึงพอใจ มันก็จะเป็นปัญหา ผมเลยบอกว่าอย่าเพิ่งมีเลย รอให้พร้อม ผมจะบอกว่าให้หาเงินก่อน หาเงินให้ได้เยอะ ๆ ผมเป็นคนที่เครียดในเรื่องของการวางแผนเรื่องการเงินมาก

ผมวางแผนให้นะครับ ทั้งครอบครัวน้องแล้วการเงินน้อง เวลารับงานจะเคลียร์กับเด็กทุกคนในค่ายก็เหมือนกัน ผมบอกว่าจะเกิดอะไรก็แล้วแต่หาเงินได้เยอะก่อน เมื่อไหร่ที่เรามีเงินมีฐานะทางการเงิน ครอบครัว คนรัก มาทีหลังแล้วมันจะสมบูรณ์แบบ

แล้วอาจารย์มารักกันได้ ?


ครูไพบูลย์ : เป็นความเมตตาแบบมันเห็นอกเห็นใจกัน เกิดจากความใกล้ชิดและความสงสาร บางครั้งน้อง ครอบครัวน้อง แม่ไม่สบายเขาไม่มีคนดูแลบ้าง ผมก็ต้องไปช่วยอาหยิบยื่นได้ก็เข้าไปช่วย คุณพ่อคุณแม่มีปัญหาเรื่องการเงินเป็นหนี้ เราก็เอาตรงนี้ไปช่วยพ่อช่วยแม่ ตอนแรกคุณพ่อคุณแม่จะไม่โอเค มีช่วงแรกตั้งแต่ตอนไปคอนเสิร์ตใหม่ ๆ คุณแม่บอกว่าไม่อยากให้คบกับใคร ไม่อยากให้มีเรื่องชู้สาวให้โสดก่อน ถ้ามีแม้แต่กับครูหรือกับใครก็แล้วแต่ แม่จะให้เลิกทำเลย ให้กลับไปเรียนเหมือนเดิม เราจึงเซฟตัวเองมาก ทำงานก็จะคุยกันเฉพาะเรื่องงาน

แอบได้ยินว่าแอบไปหึงเขา เริ่มตอนไหน ?


ครูไพบูลย์ : ช่วงเขามีเริ่มมีเพื่อนผู้ชายคุย ต้นปี 63 เริ่มรู้สึกแล้วว่าเราไม่มีใคร เราเคว้งคว้างมานาน คุยมาเรื่อย ๆ มันไม่มีความจริงจังเลย สุดท้ายเราอายุผ่านไปแล้วจะตั้งหลักยังไงได้ก็เริ่มหา พอดีน้องอยู่ใกล้ อยู่บ้านใกล้กัน ไปซื้อบ้านใกล้กัน ความใกล้ชิดเพิ่มขึ้น เรารู้สึกว่าเขามาเติมเต็มในส่วนที่เราขาดไป และเขาก็รักแม่ รักลูกของเรา รักทุกคนในครอบครัว แม้แต่พี่ชายผม เขาจะสนิทกับทุกคนในครอบครัวผมมาก

เราเป็นนักร้องแฟนคลับหล่อ ๆ ก็เยอะ ทำไมต้องเป็นครูไพบูลย์ ทำไมเปิดใจให้ ?

กระต่าย : ที่เปิดใจเพราะเขาเป็นคนที่มีความเป็นผู้นำสูง เป็นคนอบอุ่น สามารถช่วยเหลือเรา ซัพพอร์ตเราได้ตลอดเวลา ไม่ว่าแม่หนูจะป่วย หรือว่าหนูจะเป็นอะไร เขาจะพาและซัพพอร์ตเราตลอดเวลา เริ่มแรกคุณแม่ห้ามไม่ให้คบกันตอนที่รู้กันตอนปี 63 ด่าว่าทำไมเธอทำแบบนี้ ทำไมมีแฟนเร็วจัง สุดท้ายก็โอเคคุยกันอะไรกัน

เอาชนะใจคุณแม่ได้ยังไง เห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่ คุณแม่จะไม่ให้ทำงานแล้ว ?


ครูไพบูลย์ : เพราะผมให้ใจ และให้ทุกอย่าง อย่างเรื่องเงินผมจะให้เห็นเป็นอันดับแรกเลยว่า คุณแม่ครับวันนี้เราได้เท่านี้นะครับ แล้วผมแบ่งน้องเท่านี้ ค่าใช้จ่ายผมทุกเดือนเท่านี้นะครับ เราชัดเจน แล้วแม่รู้สึกว่าเราเคลียร์ เวลาเกิดปัญหาอะไรขึ้น ผมก็บอกว่าครอบครัวผมมีแค่นี้นะ มีพี่ชาย มีแม่ เพราะว่าคุณพ่อผมก็เสียนานแล้ว เราเกิดมาจากความยากจน เราเลยเห็นอกเห็นใจกัน ผมเลยวางแผนว่าถ้าเราไปซื้อบ้านใกล้ ๆ กัน น้องก็ได้ทำงาน เริ่มไปหาคุณแม่แล้วช่วงปี 63

ใช้เวลาในการพิสูจน์ความรักน้องกระต่ายกับคุณแม่นานมั้ย ?

ครูไพบูลย์ : ขั้นแรกมันเป็นเรื่องของความจริงใจในการทำงานก่อน ทำงานซื่อสัตย์ ซื่อตรงต่อกัน หลังจากนั้นพอรู้ว่าเราแอบชอบหรือมีความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน คุณแม่ก็เริ่มมองแล้วว่าหนูพร้อมมั้ย อนาคตจะเป็นยังไง ถ้าวันนึงไม่มีกระแสแล้ว ไม่มีเพลงแล้วจะอยู่ยังไงต่อ แล้วครูจะจริงใจมั้ย เพราะตอนนั้นผมก็มีไปเรื่อย ๆ คุยไปเรื่อย ๆ แม่จะพูดกับผมว่าครูหยุดได้หรือยัง

13 กระต่าย ครูไพบูลย์ 3
กระต่าย-ครูไพบูลย์

 
สมัยก่อนเจ้าชู้ ?


ครูไพบูลย์ : ไม่ได้เจ้าชู้ครับ ก็เหมือนผู้ชายทั่วไป เราไม่มีใคร เราจะไปไหนกับใครจะคุยกับใคร ตอนนั้นที่คุณแม่ถามผมก็ยังไม่มั่นใจ ก็มีทะเลาะกัน คุณแม่จะเข้าข้างกระต่ายดีมาก เวลาผมพูดอะไรไปสุดท้ายก็ไปแอบคุยกันสองคน ระแวงคุณแม่ว่าเขาจะชอบเราหรือเปล่า จะโอเคกับเราหรือเปล่า

ก่อนจะตกลงคบกับครูไพบูลย์ รู้หรือเปล่าว่าเขามีครอบครัวมาก่อนแล้ว ?

กระต่าย : รู้ค่ะรู้ เรื่องนี้เราก็คุยกัน

ครูไพบูลย์ : มันเป็นเรื่องจบไปแล้วตั้งแต่ 3 ปี ที่จริงตอนนั้นแม่กับน้องจะเซฟน้องมาก ไม่ให้ใกล้ เวลาทำงานจะไปด้วยตลอด

คุณแม่ของน้องกระต่ายสแกนอย่างหนัก ?


ครูไพบูลย์ : ใช่ครับ คือตอนนั้นถ้าคบครูหรืออะไร แม่บอกให้เลิกทำงาน กลับไปเรียนอย่างเดียวเลย แม่ก็ยืนกระต่ายขาเดียวว่ากลับไปเรียน แต่ด้วยผมบอกว่าขอร้องเองเลยว่าน้องจะดังนะแม่ ผมมั่นใจเลยว่าน้องจะดังให้ทำงานต่อไปด้วยกัน แม่กับพ่อก็ต้องไปด้วย แม่ พี่ชาย พ่อ ทุกคนไปกับน้องหมดเลย

ทุกคนมีอดีตเป็นของตัวเอง แต่ว่าเคลียร์จบหมดแล้ว ?


ครูไพบูลย์ : หมดแล้วครับ
 
อายุห่างกัน 12-13 ปี มีเรื่องทะเลาะเถียงกันมั้ย ?

ครูไพบูลย์ : ก็มี บางทีเขาจะมีคิดเหมือนเด็ก ทำไมต้องคิดอย่าเพิ่ง

กระต่าย : แกคิดหัวโบราณอะค่ะ ก็ไม่ทันศัพท์ของวัยรุ่น แล้วก็จะแบบอิหยัง คืออิหยังนิ บางครั้งแกไม่ทันอะไรแบบนี้ เราเป็นคนอธิบาย พออธิบายบางครั้งก็ไม่เข้าใจก็เครียด

ครูไพบูลย์ : เหมือนจะหยอกเราแต่มุกมันแป๊ก บางทีเขาดูอะไรอยู่ดี ๆ นี่เห็นมั้ย บางทีเขาไปดูข่าวที่เป็นกระแส ผมก็อีหยัง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/

Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight

Twitter: https://twitter.com/BangkokInsight

Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/

Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg

 

Avatar photo